| ผู้เขียน | [email protected] |
|---|
ซุปเปอร์แมนยังมีชีวิต “อีกภาค” เป็น “คลาร์ก เคนท์” นักข่าวของหนังสือพิมพ์เดลี่ แพลนเน็ท หนังสือพิมพ์ดังของเมืองเมโทรโพลิส ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา “เอ็นริเก้ เฟอร์รารี่” พ่อลูก 3 วัย 44 ก็มีชีวิตคล้ายๆ กับซุปเปอร์แมน ตรงที่เขามีชีวิตหลายภาคมาก ตั้งแต่เป็นคนขายขนมปัง คนขับรถ พนักงานทำความสะอาดที่สถานีรถไฟใต้ดิน และยังมีเป็นนักเขียนนิยายแนวอาชญากรรม สยองขวัญ ที่กวาดรางวัลมาแล้วจากหลายประเทศ
เอ็นริเก้ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวเอเอฟพี” เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า ถึงแม้ผลงานนิยายของเขาจะได้รับรางวัล และได้รับการตีพิมพ์ในฝรั่งเศส อิตาลี เม็กซิโก มาแล้ว แต่งานที่สามารถทำให้เขามีเงินพอที่จะซื้ออาหารมาเลี้ยงปากท้องลูกๆ ทั้ง 3 คนก็คืองานทำความสะอาดสถานีรถไฟใต้ดิน ซึ่งทำช่วงกลางคืน ตอนที่สถานีรถไฟใต้ดินปิดแล้ว ซึ่งเขาต้องเข้าไปทำความสะอาด เช็ดถูพื้น และห้องสุขา
“ถ้าจะพึ่งเงินจากงานเขียนนิยายมาเลี้ยงตัว มันไม่พอ เพราะอาชีพนี้ได้เงินไม่มาก” เอ็นริเก้ ซึ่งเป็นผู้แทนของพนักงานทำความสะอาด และพนักงานที่ไร้ทักษะในสหภาพพนักงานรถไฟใต้ดินบอก
เอเอฟพีเล่าว่า ถึงแม้จะไม่เคยเรียนในมหาวิทยาลัย และทำงานเป็นคนทำความสะอาดสถานีรถไฟใต้ดิน แต่ด้วยความสามารถในงานเขียนทำให้เอ็นริเก้ได้รับการมองอย่างยกย่องว่าเป็นคนใฝ่หาความรู้ และได้รับฉายาว่า “ซับเวย์ ไรท์เตอร์ “ หรือ “นักเขียนที่สถานีรถไฟใต้ดิน”
แต่เอ็นริเก้กลับไม่ค่อยชอบใจฉายานี้เท่าไหร่ โดยว่า “ผมก็เข้าใจนะ ว่าคนทั่วไปคงรู้สึกว่ามันน่าแปลกใจ แต่ผมไม่ใช่ตัวประหลาด ที่จริงมีคนใช้แรงงานอยู่เยอะแยะที่มีความสามารถในการเขียนหนังสือ วาดรูป หรือเล่นดนตรี ผมคิดว่ามันเป็นความผิดปกติของพวกคนชั้นนายทุนและคนชั้นกลางต่างหาก ที่ชอบคิดว่าคนชั้นแรงงานไม่มีวัฒนธรรม”
ทั้งนี้ นักเขียนหนุ่มใหญ่ซึ่งเคยมีผลงานนิยายได้รับการตีพิมพ์ออกมาแล้ว 5 เล่ม แล้วยังมีผลงานรวมเรื่องสั้นอีก 2 ชุด โดยผลงานนิยายแนวฆาตกรรมลึกลับเรื่อง “Que de lejos parecen moscas” (They Look Like Flies From A Distance ) ที่ชนะรางวัลจากงานเทศกาลประกวดนิยายอาชญากรรมที่สเปนเมื่อปี 2555 ได้รับการตีพิมพ์ จำหน่ายในฝรั่งเศส เม็กซิโก และอิตาลี ขณะที่เมื่อปี 2554 “Lo Que No Fue” (What Was Not) นิยายแนวการเมือง ชวนระทึกขวัญ ที่เซตเรื่องราวให้เกิดขึ้นในเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ในช่วงสงครามกลางเมืองของสเปน ก็คว้ารางวัลจากงานหนังสือที่คิวบา บอกว่า เขาจะใช้เวลาช่วงพักมาเขียน โดยเมื่อไหร่ก็ตามที่มีช่วงพักสั้นๆ เขาจะเปิดแล็ท็อปเก่าๆ นั่งพิมพ์ทันที
“ผมจะเขียนทุกครั้งที่สามารถเขียนได้”
ในห้องพักของเอ็นริเก้จะมีโต๊ะตัวเล็กๆ ที่มีหนังสือตั้งอยู่เป็นกอง เป็นที่ที่เขาใช้นั่งทำงานเวลาอยู่บ้าน
ทั้งนี้ ผลงานนิยายเรื่องแรกของเขามีชื่อว่า “Operation Bukowski” ที่ได้รับการตีพิมพ์ วางขายในกรุงบัวโนสไอเรสเมื่อปี 2547 เมื่อเขาถูกส่งตัวกลับอาร์เจนติน่าบ้านเกิด หลังจากเคยหลบหนีเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฎหมายอยู่ 3 ปี
สำหรับความฝันต่อไปของเขา เอ็นริเก้บอกว่า เขาไม่ฝันที่จะยึดการเขียนนิยายเป็นอาชีพ แต่ทุกวันระหว่างช่วงพักเหนื่อยสัก 15 นาที เขามักจะแอบฝันว่าสักวันนิยายของเขาจะได้รับรางวัลจากงานประกวดนิยายระดับบิ๊กๆ สักครั้ง
“หรือไม่ก็มีนิยายของเขาสักเรื่องที่สตีเว่น สปีลเบิร์ก ผู้กำกับดังฮอลลีวู้ดจะเข้าตา แล้วหยิบไปสร้างภาพยนตร์”
