“กับแมร์มองตาก็รู้ใจ” เพราพรรณ เบญจมาศ แม่ของนักเขียนและพิธีกรชื่อดัง กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ พูดประโยคนี้กับ มติชน ด้วยอาการยิ้มๆ
แล้วว่า ด้วยเหตุนั้น “ไม่ว่าจะเป็นการทำสิ่้งใดก็ตาม เวลาจะทำอะไรทั้งสิ้น จะพูดคำเดียวว่า แม่ไว้ใจแมร์”
“แต่ไม่ไว้ใจคนอื่นรอบข้าง”
ที่ผ่านมาเธอจึงพยายามดูแลลูกสาวอย่างใกล้ชิด ชิดชนิดที่ตอนกาละแมร์ยังเรียนไม่จบ ถ้าจะไปค้างบ้านเพื่อน เธอก็ไปด้วย จะไปต่างจังหวัด นั่นก็เช่นกัน
“จนเขาเลิกไป” เธอเล่าพลางหัวเราะ
ก่อนให้เหตุผลที่ขอตามติดชิดใกล้ขนาดนั้นว่า เพราะ “เราเป็นครู จึงรู้อะไรๆของวัยรุ่นทั้งหมด” ขณะเดียวกันก็มั่นใจว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นจะเป็นผลดีแก่ลูก
เพราพรรณเล่าว่า ตั้งแต่เล็กกาละแมร์เป็นเด็กเลี้ยงไม่ยาก เป็นคนที่ “ไม่จำเป็นต้องบอกเลยว่าให้อ่านหนังสือสอบ” อีกทั้งยังเป็นคนมีเหตุผล
ส่วนหนึ่งอาจเพราะ ที่บ้านใช้วิธีคุยกันด้วย ‘เหตุ’ และ ‘ผล’ ตลอดมา
และถ้าถามถึงความเป็นแม่ว่า เธอดุไหม?
คำตอบแสนแสั้นๆได้ใจความ คือ ‘ดุ’
หากกระนั้นก็ยังสามารถสนิทสนมกับลูกได้ และได้มาก ถึงขั้นทุกวันนี้ยังนอนด้วยกัน อ้อ,แต่ยกเว้นบางวันที่แยกห้อง “เพราะแม่กรน” บอกพลางหัวเราะอีกครั้ง
เธอบอกด้วยว่า แม้วันนี้กาละแมร์จะอายุได้ 42 ปี ซึ่งถือว่าเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว แต่ลึกๆก็ยังรู้สึกป็นห่วงเหมือนเดิม ทุกวันนี้จึงทำหน้าที่ขับรถไปรับไปส่งที่ช่อง 3 เท่าที่จะทำได้
แต่เลิกตามไปไหนมาไหนละ
“โตแล้ว ไม่ตามและไม่ถามว่าจะไปไหน เมื่อไหร่จะกลับ แต่เขาจะทักเรามาตลอด ว่าอยู่ไหน ทำอะไร”
ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาเธอไม่เคยรู้สึกเสียใจกับเรื่องใดๆที่กาละแมร์ทำ
“ไม่มีเลย” คนเป็นแม่ย้ำ
“ไม่มีอะไรที่ควรเสียใจ มีแต่ทำแล้วได้ดั่งใจ”
ไม่ว่าจะเรื่องการเรียนที่กาละแมร์สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี และพออายุ 19 ที่เรียนจบ ก็ได้งานที่ช่อง 3 ทันที
“ภูมิใจมากๆ”
นอกจากการสอนลูกให้ตัดสินใจด้วยเหตุและผลอย่างที่ว่ามาข้างต้นแล้ว เพราพรรณยังว่าอีกสิ่งที่เธอย้ำเตือนอยู่เสมอคือ “เรื่องการอ่อนน้อมถ่อมตน การรู้จักผู้ใหญ่ สอนตั้งแต่เด็กเลย ถ้าเห็นแม่ยืนคุยกับใครต้องสวัสดี มีอยู่วันหนึ่ง ยืนกับคนกวาดถนน เขาก็สวัสดีนะคะ หลายคนบอกว่าตายแล้วคุณหนู ซึ่งเราไม่ได้ว่า ใครทำงานอาชีพไหนก็ตาม เขาก็จะอ่อนน้อมถ่อมตนแบบนี้ หรืออย่างเขามาปรึกษาว่าไปทำข่าว เขาให้ของมาเยอะแยะ ก็จะบอกให้แมร์เอาไปแจกให้หมด ให้คนที่เรามีเงินเดือนมากกว่าเขา ให้ลูกรู้จักการให้
ขณะในเรื่องของงานก็สอนให้ “ทำงานให้เหมือนเป็นเจ้าของบริษัท สอนให้เต็มที่กับงาน ใครจะได้ไม่มาว่าลูกได้ ไม่จิกหัวใคร แล้วจะได้ดีเอง”
เล่าอีกว่าทุกวันนี้กาละแมร์จะปฏิบัติศีล 5 ในชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกันช่วงไหนที่มีวันหยุดก็จะไปปฏิบัติธรรม
“เดี๋ยวนี้เขาต่างจากเมื่อก่อนที่ขี้วีน ตอนนี้ก็เบาลง ใช้ธรรมะเข้าช่วย และมีมาสอนเราให้เดินจงกรม นั่งสมาธิ สวดมนต์ เวลาเขาได้อะไรดีๆเขาจะบอกให้ทำตาม”
ส่วนเรื่องคู่ครองที่เหมือนๆจะยังไม่มีวี่แวว เธอก็ไม่กังวล
อย่างไรก็ดีที่ผ่านมา กาละแมร์ก็เคยมาปรึกษาเรื่องนี้อยู่บ้าง
“ถ้าคนไหนชอบลูก ก็ต้องพามาหาแม่ก่อน อยากเห็น แต่ลูกรักใคร เราก็รักด้วย และบอกทุกคนว่า แม่รักแมร์ด้วยชีวิต รักยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง เพราะฉะนั้นอย่าทำอะไรลูกแม่ เข้าใจนะคะ”
“แต่จะไม่สแกน เขาจะคบก็คบ”
กับวันแม่ที่จะถึงในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ เพราพรรณบอกว่าเธอยังไม่รู้ว่าลูกสาวจัดเตรียมอะไรไว้ไหม แต่ “เขาเป็นคนชอบเซอรไพร์สเยอะมากๆ”
วันเกิดของเธอเมื่อ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา กาละแมร์ก็ถอยรถใหม่ให้เป็นของขวัญ-รถที่เธอเคยปฏิเสธไม่รับมานานนับสิบๆปี จนกาละแมร์รู้สึกงอน
ส่วนเซอร์ไพร์สอีกหลายๆครั้งก่อนหน้า ก็ได้มาทั้งเพชร ทั้งทอง
“แล้วเขาจะชอบกอด หอม ชื่นชมเราในเรื่องต่างๆ เช่น วันนี้แต่งตัวสวยนะเป็นประจำ”
กับคำสุดท้ายที่ว่า สำหรับวันแม่ปีนี้ มีอะไรที่จะบอกไปถึงลูกบ้าง?
คำตอบที่ได้ก็คือ “แม่ไม่ห่วงอะไรเลย”
ก่อนจะให้พร บอก “ขอให้ลูกพบคนดีๆ”
และ “รักนะ รักมากค่ะ จุ๊บๆ”
ขอบคุณรูปภาพ kalamare