เป็นกระแสโซเชี่ยลร้อนแรงเมื่อนักแสดงสาว แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ออกมาแสดงความคิดเห็นเชิงวิพากษณ์วิจารณ์พฤติกรรมของ เอิร์ก เลเดอเรอร์ ต่อกรณีจากเสียชีวิตของนางแบบสาว เก๋ กันยกร ซึ่งทำให้ข้อความดังกล่าวเป็นที่กล่าวขวัญและพูดถึง เมื่อเจอสาวแตงโม นิดาในงาน แถลงข่าวเปิดตัว : The Cleo 50 Most Eligible bachelors 2018 Central Court At Central World เจ้าตัวก็เปิดใจเรื่องนี้มาว่า
“มันไม่ใช่เรื่องของโมหรอก เราก็แสดงตัวตนแล้วว่าตามไปเพราะอะไร ”
“ที่โมเห็นใจ คืออยากเป็นปากเสียงให้กับคนที่ฆ่าตัวตาย หรือว่าคนที่เคยฆ่าตัวตาย ไปแล้ว เพราะเขามีบางมุมที่คนไม่เข้าใจแล้วอยากให้สังคมเห็นใจ มีความเข้าใจเกี่ยวกับคนที่จะฆ่าตัวตาย”
และที่ตนตัดสินใจเป็นกระบอกเสียงเนื่องจากตนคิดว่าตนและเก๋นั้นเคยมีช่วงชีวิตที่คิดและรู้สึกเหมือนกัน
“อยากอธิบายแทนเขา ในฐานะคนที่เป็นโรคเดียวกัน (โรควิตกกังวล) เคยมีความรู้สึกเดียวกัน”
“สังคมให้พื้นที่กับคนที่เจ็บช้ำในหัวใจน้อยไปหน่อย ถ้าเราพูดแทนได้ก็ได้อยากพูด”
“แม้ว่ามันจะไม่มีหน่วยวัดความรู้สึกของผู้ป่วยจิตเวช แต่หากสังคมใช้ความเข้าใจคนฆ่าตัวตายจะน้อยลง”
ถัดจากนั้นแตงโมนิดาก็ขอเปิดเผยถึงสุขภาพของตนเองที่ทรุดลงเพราะโรคต่อมหมวกไตล้า จนเคยประกาศขอรับงานละครน้อยลงนั้น ตนขอยืนยันว่าแค่รับงานน้อยลงเท่านั้น ยังไม่คิดออกจากวงการบันเทิง
“รับงานในวงปกติละครขอรับพิจารณาเป็นเรื่องๆ ถ้าเรายังไม่หายดีจะทำได้ไม่เต็มที่ เราไม่อยากเอาชื่อเสียงของตัวเองไปแลก ที่ผ่านมามีประวัติ ที่เราทำไม่เต็มที่”
ก่อนจะเผยต่อถึงอาการต่อมหมวกไตล้าที่เป็นมานานปีโดยที่ไม่เคยทราบมาก่อนว่า
“อาการขอเรายืนนานไม่ได้ เหนื่อยเร็ว หมดแรงเร็ว เช้าไม่ตื่น กลางคืนไม่นอน ทำให้เราไปกองถ่ายสายกว่าคนอื่น เป็นมานานแล้ว”
“เราเคยไปเจรจากองถ่ายละครว่าว่า ตอนเช้าขอไปกองสายหน่อย แต่ว่าตอนกลางคืนเราพร้อมทำงานมาก เลิกกองเที่ยงคืนได้ไหม บางกองได้บางกองไม่ได้ ”
“เพราะตอนกลางวันของคนอื่นโมจะไม่มีแรง แต่ว่าช่วงบ่ายๆจนไปถึงตี2 โมจะมีพลังมาก มีแรง สมองแล่น ซึ่งไม่เหมือนคนอื่น”
“นาฬิกาชีวิตเราไม่สอดคล้องกับการทำงานเราก็เกรงใจ ”
แต่หากจะถามว่าในอดีตที่ตนเคยมาทำงานสายจนขึ้นชื่อนั้นเกี่ยวกับโรคดังกล่าวหรือเปล่า ตนไม่ขอฟันธง
“ไม่อยากโทษโรคนี้เลย บางคนก็ไม่สบาย แตว่าเขาก็มาทำงานได้ ”
“มันเพราะโมเองก็ใจเสาะค่ะ”
และเพื่อเป็นการยืนยันว่าตนไม่คิดจะออกจากวงการบันเทิงนั้นคือการตกลงรับละครเรื่องใหม่ไปแล้ว
” รับแล้ว เจรจากับผู้ใหญ่ ขอรักษาตัว ซึ่งทางผู้ใหญ่จะจัดการเลื่อนเวลาเปิดกลองให้สอดคล้องกับสุขภาพ”
หน้าที่ของตนก็คือการรักษาตัวเองหายเป็นปกติโดยเร็วที่สุด
“ก่อนหน้านี้รักษาเจาะเลือด รอผลอีก2 สัปดาห์ แพทย์บอกว่าระหว่างรักษา ต้องนอนให้เร็ว ตื่นมารับประทานอาหารเช้า ออกกำลังกาย”
หากมีวินัยจะหายขาดได้ภายใน 3-6 เดือน
ส่วนก่อนหน้านี้ที่ตนต่อมน้ำแตกในเรื่องของคุณพ่อ โสภณ พัชรวีระพงษ์ นั้นก็เพราะเรื่องที่ตนเคยขอให้พ่อเลิกสูบบุหรี่
มันเป็นช่วงก่อนวันเกิดโมไม่กี่วัน(13 ก.ย.) ด้วยความที่เราขอให้พ่อเลิกบุหรี่มานานแล้วเพราะห่วงเรื่องสุขภาพ พ่อก็พยายาม แต่ว่าเราตั้งความหวังไว้เยอะเกินไป คิดว่าเขาจะเลิกได้ภายในวันเกิด”
ผลปรากฏว่าตนพบว่าพ่อยังสูบบุหรี่อยู่จึงผิดหวัง เสียใจ จนวันหนึ่งคิดได้ภายหลังว่าเรื่องแบบนี้แม้ว่าผลลัพธ์จะยังไม่เกิด แต่หากดูเจตนาที่พ่อพยายามทำให้ตนนั้นก็เพียงพอแล้ว
“เพราะที่พ่อพิสูจน์มานั้น ทำให้เรารู้ว่าเขารักเราจริงๆ ”
“การที่เขาเลิกนะ เขาทรมานนะ เขาไม่ได้รู้สึกสบายตัว เรารู้สึกว่าเราใจร้าย แต่ว่าเราไม่ได้ตั้งใจจะทำร้าย ”
“หลังจากนี้พ่อจะสูบหรือเปล่าเราไม่คาดหวังอะไรแล้ว เพราะที่พ่อเลี้ยงเรามาก็พิสูจน์แล้วว่าเขารักเรา ”
