ไหนๆ ก็เข้าสู่การเป็น “ประชาคมอาเซียน” อย่างเป็นทางการแล้ว กระทรวงวัฒนธรรม เลยร่วมกับ สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ จัด “เทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพมหานคร 2559” มาให้ชมเป็นปีที่ 2 ระหว่าง 22-26 เมษายน ที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีนีม่า เซนทรัลเวิลด์ งานนี้ 10 เรื่องที่คัดมาครบรสทั้งดราม่า แอ๊กชั่น โรแมนติก แถมยังถ่ายทอดเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศให้ได้ทำความรู้จักไปในตัว
เริ่มด้วย Distance ผลงานร่วมทุนระหว่างไทย, จีน และสิงคโปร์ ที่เล่าถึง 3 ความสัมพันธ์ของคนในภาวะต่างๆ ได้น่าสนใจ จนได้รับเลือกให้ไปฉายเปิดใน Golden Horse Film Festival ครั้งที่ 52 เมื่อปีที่ผ่านมา โดยในส่วนที่เป็นเรื่องราวของบ้านเรานั้น ศิวโรจน์ คงสกุล รับหน้าที่กำกับ
ส่วน A Copy of My Mind หนังสัญชาติอิเหนาที่ได้ไปฉายยังเทศกาลหนังโตรอนโต และในเทศกาลหนังปูซานกล่าวถึง “ซารี” พนักงานสปาที่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ แล้วนั่นนำพาให้เธอเจอ “อเล็ก” พ่อค้าแผ่นดีวีดีจนตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน แต่ก็ดันมีเรื่องวุ่นวายเพราะการเข้ามาของหนุ่มไฮโซ ให้ผู้ชมได้ร่วมลุ้นว่าสุดท้ายแล้วพ่อค้าหรือไฮโซจะครอบครองหัวใจเธอได้
บรูไนเอาใจคอแอ๊กชั่นด้วยการนำศิลปะการป้องกันตัว “ปันจักสีลัต” มานำเสนอใน Yasmine เรื่องราวของ “ยัสมิน” หญิงที่อยากพิชิตใจชายหนุ่มที่รักและให้พ่อของเธอยอมรับ ด้วยการฝึกฝนตัวเองเพื่อเป็นแชมป์ปันจักสีลัต โดยคิวบู๊รับประกันความสนุกจากทีมสตั๊นแมนของ เฉิน หลง ที่มาร่วมแสดงด้วย แถมมันส์จนได้รับรางวัลจากเทศกาลหนังนานาชาติและการประกาศรางวัลหนังอาเซียนอีกด้วย
สำหรับ Above It All หนังจากลาว เล่าถึงการถูกบังคับให้แต่งงานของนักศึกษาแพทย์นามว่า “น้อย” ที่อึดอัดใจจนต้องเล่าความลับให้กับครอบครัวฟัง ขณะที่หญิงชื่อ “น้อย” อีกคน ต้องเลือกระหว่างความรักต่อชายหนุ่มและความรักต่อครอบครัว
Taklub หนังฟิลิปปินส์นั้น ถ่ายทอดการเอาตัวรอดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติผ่านตัวละครที่ชื่อ “เบเบธ แลร์รี่” และ “เออร์วิน” ซึ่งความน่าสนใจอยู่ตรงที่สามารถเล่าเรื่องราวได้อย่างตื่นเต้นชวนให้เอาใจช่วยอยู่ตลอดเวลา แถมยังคว้ารางวัลชนะเลิศเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีก่อน
ไทยเองมี เพลงของข้าว หนังสารคดียอดเยี่ยมจากเวทีสุพรรณหงส์ครั้งล่าสุด แถมกวาดรางวัลจากเทศกาลหนังรอตเทอร์ดาม เพราะสามารถถ่ายทอดวิถีชีวิตคนไทยได้อย่างเต็มเปี่ยม โดยเสนอความสำคัญของข้าวต่อชาวไทยที่ใช้เทคนิคการถ่ายทำอันงดงามแบบไม่เคยเห็นในหนังเรื่องไหนมาก่อน
ฟากสิงคโปร์ส่งหนังโรแมนติก 3688 ว่าความฝันของ “เซี่ยเฟยเฟย” ที่ฝันอยากเป็นนักร้องจึงเข้าประกวดร้องเพลง การตามล่าฝันของเธอดำเนินไปพร้อมกับการรักษาตัวของพ่อซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
กัมพูชามี 3.50 ที่ถ่ายทอดถึงหนึ่งครอบครัวที่ยากจนและที่สุดในกัมพูชา ความลำบากส่งแรงผลักดันให้สมาชิกแยกย้ายไปทำงานไกลบ้าน ซึ่งเจาะลึกทั้งการค้ามนุษย์ ทั้งการกดขี่ทางเพศ ตีแผ่ความดำมืดแบบครบวงจร
ส่วน City of Jade ของเมียนม่าร์เป็นเรื่อง “Midi Z” ที่เกิดมายากจน แถมจมปลักกับยาเสพติดจนติดคุก พอโตขึ้นก็หากินในกับการกำกับหนังในอินโดฯ แล้ววันหนึ่งเขาก็กลับมายังมัณฑะเลย์พร้อมความหวังที่จะตามหาพลอยหยกขนาดใหญ่เพื่อพลิกชีวิตให้เป็นมหาเศรษฐี เรื่องนี้ใครชอบมัณฑะเลย์รับรองได้เห็นภาพและมุมมองสวยๆ จนฟิน
สำหรับเวียดนามส่งสารคดีเทคโนโลยี Bitcoins Heist ลงสนาม โดยการปล้นที่วางแผนด้วยการใช้เครือข่ายออนไลน์ และเทคโนโลยีล้ำๆ นั้นดูสนุก ยิ่งเพิ่มเติมความสยองขวัญเข้าไป ยิ่งไม่ควรพลาด
ก่อนจะปิดท้ายด้วย Day and Night Omnibus จากมาเลเซียที่เต็มอิ่มกับ 3 อันได้แก่ trespassed เล่าเรื่องเด็กน้อยผู้ป่วยเป็นโรคประหลาดหลังจากพ่อหายตัวไป Bite เด็กหญิงในชุดนักเรียนพบเจอกับเหตการณ์ไม่คาดฝัน และ Bedside manners ผู้ป่วยอัมพาตที่ต้องอดทนฟังเรื่องราวน่าเหนื่อยหน่ายจากเพื่อนที่มาเยี่ยมเพราะขยับตัวไปไหนไม่ได้
นอกจากนี้ยังมีหนังระดับตำนานอีก 3 เรื่องให้ชมกัน ทั้ง After the Curfew, Manila in the Claws of Light และ งูเก็งกอง ใครอยากดูเรื่องไหนตรวจสอบวัน – เวลาฉายได้ที่ www.sfcinemacity.com หรือโทร 0-2268-8888 งานนี้ดูฟรีมีบทบรรยายไทย – อังกฤษ ทุกเรื่องทุกรอบ
แล้วไปรู้จักประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้นกัน
