หลังจากโดนหามตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากอาการแน่นหน้าอก สำหรับ ป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม (อ่านข่าว ผ่าตัดด่วน ‘ป๋าเต็ด’ ทำบอลลูนหัวใจใน 40 นาทีหลังแน่นหน้าอกเฉียบพลัน) ล่าสุดวันนี้ (15 ต.ค.) เวลา 13.00 น. เจ้าตัวและนายแพทย์ไพฑูรย์ จองวิริยะวงศ์ อายุแพทย์โรคหัวใจ ตัวแทนคณะแพทย์เจ้าของไข้ ได้ออกมาเผยถึงอาการล่าสุด ณ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
โดยป๋าเต็ดบอกว่าการรักษาเกิดขึ้นโดยรวดเร็วมาก บนเตียงในห้องผ่าตัด “อาการปกติมาก เมื่อพักในห้องไอซียู โดยคุณหมอไม่ให้งอขาเป็นเวลา 8 ชั่วโมง”
บอกอีกว่าทุกขั้นตอนมีความโชคดีอยู่มาก “โชคดีที่มีเพื่อนเป็นหมอ โชคดีที่ภรรยาตัดสินใจพามาสมิติเวช โชคดีที่ทีมโรคหัวใจทำงานเร็วมาก”
ด้าน นายแพทย์ไพฑูรย์กล่าวว่า อย่างแรกแสดงความดีใจว่าการรักษาเป็นไปตามผลที่ดี ถ้าพูดตามจริง ภาวะของคนไข้ที่มาคือ ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และมีภาวะช็อกร่วมด้วย
“ซึ่งความดันต่ำ น้อยกว่า 90/60 ในตอนแรกอาการแย่ลง ทางทีมแพทย์จึงต้องเร่งช่วยเหลือเพื่อเพิ่มความดัน เพราะขณะนั้นชีพจรเริ่มช้าลงมากๆ หลังจากคนไข้ได้มาถึงโรงพยาบาลในเวา 12.30 น. จึงเร่งทำเลยในเวลา 13.00 น. รวมเวลาในการรักษาประมาณ 40 นาที”
ก่อนบอกอีกว่า ถ้าป๋าเต็ดมารับการรักษาไม่ทันเวลา จะมีโอกาสเสียชีวิตได้สูงถึง 60% เลยทีเดียว โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าวนั้นคือ
“จะมีเรื่องความดัน และไขมันในเลือดสูง เกิดจากปัจจัยร่วมหลายๆอย่าง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องสูบบุหรี่และการกิน”
เนื่องจากนิสัยส่วนตัวที่ชอบทานอาหารที่มีน้ำมันและน้ำตาลเยอะ และออกกำลังกายน้อย ซึ่งป๋าเต็ดกล่าวเสริมว่า
“จริงๆ เป็นคนที่น้ำตาลสูงอยู่แล้ว ไขมันในเส้นเลือดสูง และจริงๆ เคยรักษาตัวนะ แต่ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เรียกว่าเหลวไหล ไม่มาหาหมอ ไม่ตรวจสุขภาพ เลยไม่ได้ยาที่ต้องกินประจำ ร่างกายเลยเตือนครั้งรุนแรงมากๆ”
“สมมุติว่า ถ้าไม่มาโรงพยาบาล และเต็มที่คือนั่งพัก ล้างหน้าล้างตา และดมยาดม ซึ่งแปลว่าก็มีโอกาสเสียชีวิตอยู่ที่บ้าน พอมาอยู่โรงพยาบาลเกือบทุกๆ สามชั่วโมงจะมีคุณหมอจากแผนกต่างๆ หมุนเวียนมาพูดคุย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการให้คำแนะนำ ว่าจะต้องปรับวิธีใช้ชีวิตยังไงบ้าง”
โดยแพทย์ผู้รักษาบอกกับป๋าเต็ดว่าเรื่องกินเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด รวมไปถึง ‘เลิกบุหรี่’ และอาหารที่มีไขมันและน้ำตาล แต่ส่วนตัวของป๋าเต็ดเองก็มีส่วนที่ขอคุณหมอทุกท่านไว้คือเรื่อง ‘การดื่มกาแฟ’ เพราะปกตัวเองดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลอยู่แล้ว นอกนั้นก็คงต้องออกกำลังกาย และปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด
ส่วนแนวทางการรักษาต่อจากนี้แพทย์ได้บอกว่า ป๋าเต็ดก็จะต้องทานยาให้สม่ำเสมอหลังใส่ขดลวด เพื่อป้องกันไม่ให้หัวใจขาดเลือดเฉียบพลันและจะอนุญาตให้กลับบ้านเพื่อพักฟื้นในวันพฤหัสบดีนี้ และหลังจากนี้ ถ้าอาการดีขึ้นก็จะกลับมาลุยงานตามปกติ ก่อนงานคอนเสิร์ตใหญ่ในเดือนธันวาคมนี้
