นิยายกำลังภายในธรรมดา ยังสามารถเป็นยารักษาภูมิแพ้

นักเขียนมีชื่อที่ทำงานประเภทสมจริงไม่น้อยคน ไม่นิยมนิยายวิทยาศาสตร์สักเท่าใด เพราะเห็นเหมือนงานหลีกหนีความจริงและให้พื้นที่กับการคิดเรื่องวิทยาการมากกว่าลงลึกถึงตัวละคร แต่สำหรับนักอ่านแล้ว เป็นเรื่องลางเนื้อชอบลางยา นิยายวิทยาศาสตร์ชั้นเยี่ยมก็สามารถสะท้อนสภาพสังคมและผู้คนออกมาให้วิตกสังวรณ์ความเป็นไปในมนุษย์ได้เช่นเดียวกัน

เช่นเดียวกับนิยายกำลังภายใน ในตัวรูปแบบของงานเขียนเอง ในวงวรรณกรรมจีนก็มิได้ชื่นชมยกย่องมาแต่ต้น เห็นว่าเป็นการกระโจนออกจากโลกไปสุดโต่งเสียด้วยซ้ำ

กระทั่ง กิมย้ง ซึ่งอ่าน 4 วรรณกรรมจีนระดับโลก สามก๊ก , ซ้องกั๋ง , ไซอิ๋ว , ความฝันในหอแดง มาแต่เด็ก   รวมทั้งนิยายแปลต่างประเทศนานา ได้เปิดศักราชวิพากษ์ระบบสถาบัน ระบบพรรค และลัทธิเชื้อชาติฮั่น   ผ่านนิยายจีนกำลังภายในแสนสนุกสนาน ออกมา 15 เรื่องทั้งยาวและสั้น โลกนิยายกำลังภายในของจีนจึงเปลี่ยนแปลงไป

จนแม้แต่ชาวตะวันตกยังได้อ่านงานแปลจีนเป็นภาษาอังกฤษ

Advertisement

หากเด็กวัยรุ่นเริ่มอ่าน มังกรหยก ทั้งสามภาค ย่อมติดตามได้อย่างเพลิดเพลินและตื่นเต้น แต่หากเติบโตขึ้นเป็นผู้รู้เรียน จึงตระหนักได้ว่า งานที่มีพระเอกนางเอกและผู้ร้ายต่อสู้ฟาดฟันกันเข้มข้มนั้น มีฉากหลังอันน่าตื่นตาใคร่ครวญเพียงใด เฉพาะแต่ปัญหาชนกลุ่มน้อยมากมายเผ่าต่างๆ ที่ร่อนเร่อยู่ทางทิศเหนือ ตะวันตก และทางใต้นับสิบนับร้อยเผ่า ซึ่งระหว่างหลายร้อยปีของการเมืองการสงคราม ได้สูญหายถูกกลืนไปไม่น้อย ต่างผูกอยู่กับความติดข้องเรื่องเชื้อชาติ อำนาจ ความยิ่งใหญ่ที่จ้องจะกำจัดกันและกัน จนแม้ชาวฮั่นที่มีมากถึง  90 เปอร์เซนต์บนแผ่นดินจีนก็ยังเคยเพลี่ยงพล้ำถูกมองโกลเข้ายึดแผ่นดินในสมัยราชวงศ์หยวน

กิมย้งนำประวัติศาสตร์หลายยุคมาให้ศึกษาผ่านตัวละครที่มีสีสัน เรื่องราวที่มีเสน่ห์เร้าอารมณ์ กระทั่งการวิพากษ์ความร้อยเล่ห์แสนกลในกระบวนการเมืองและนักการเมือง ก็ยังเขียนออกมาชนิดคนไม่สนใจการเมืองยังอ่านสนุก

ศักราชนิยายกำลังภายในยังขยับขยายยาวนานออกไปอีก เมื่อ โกวเล้ง นักอ่านอีกคนเข้ามาสู่เส้นทางวรรณกรรม ความเฉียบแหลมคมคายของวิธีคิดและการประยุกต์รูปแบบการถ่ายทอด ทำให้เกิดรสชาติอีกประเภทของการอ่าน

Advertisement

ประโยคสั้นๆ กระทบกันด้วยคำถามและถ้อยสำนวนยอกย้อนเชิงปรัชญา กลายเป็นอีกชั้นเชิงของการระบายสีแก่อ่อนให้กับภาพตัวละครที่โลดแล่นอย่างไม่รู้ลืม

เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี นักอ่านอาจจำเนื้อหารายละเอียดของงานชุดต่างๆไม่ได้แล้ว แต่ประกันได้ว่า ไม่มีผู้ใดลืมชื่อตัวละครแต่ละชุดของโกวเล้งไปได้เลย ถ้อยคำสำนวนนานาจากเรื่องต่างๆ ซึ่งถูกอกแทงใจ ยังถูกคัดมารวมกันเป็นหนังสือได้อีกหลายเล่ม

ยามเมื่อโกวเล้งจากไป และกิมย้งแม้จะยังชีวิตแต่มิได้ทำงานวรรณกรรมอีกแล้ว ถึงงานของทั้งสองเทพอักษรจะยังได้รับการตีพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อนักอ่านแต่ละรุ่น แต่ดูเหมือนนักอ่านจะยังรอคอยงานที่มาไม่ถึงมองไม่เห็น

จน หวงอี้ ปรากฏกาย ด้วยวิธีการย้อนอดีตเข้าไปในประวัติศาสตร์ รสชาติการอ่านปรุงใหม่ซึ่งต่างไปจากฉากหลังลึกซึ้งของกิมย้ง กลายเป็นรูปธรรมชัดเจนของการยึดตำนานพงศาวดารเป็นรากฐาน เดินเรื่องอย่างมีชีวิตจิตใจด้วยตัวละคนเสกสรรที่ปั้นแต่งเข้าไป เผชิญกับนามจริงในประวัติศาสตร์ที่เคลื่อนไหวมีเลือดเนื้อให้จับต้องได้ขึ้นมา กลายเป็นเหลาสุราภัตตาคารจีนแห่งใหม่ของนักอ่านที่เฝ้าดื่มกินกันอย่างไม่เลิกรา

แต่อนิจจา เทพอักษราแห่งบูรพาทิศนามนี้ถูกสวรรค์กลั่นแกล้ง รับตัวขึ้นฟ้าไปบำเรอเทพบุตรเทพธิดาด้วยเรื่องราวที่มนุษย์มิอาจส้องเสพได้อีกต่อไป ก่อนเวลาอันควร

กระนั้น ไม่นานนัก นิยายกำลังภายในรุ่นใหม่จากจีนแผ่นดินใหญ่ก็สะพรั่งขึ้น นามของนักเขียนฝีมือดีที่ถูกนำเรื่องมาพากย์ไทยปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่า หลงเหมิน หรือ จิ่วถู หรือ เฟิ่งเกอ หรือ เม่าหนี หรือ เสวียเยี่ยอู๋ถง ล้วนแต่ให้รสชาติบำเรอใจนักอ่านอิ่มเอมไปทั้งสิ้น ประวัติศาสตร์ยุคสมัยต่างๆตื่นฟื้นขึ้นมาให้ตัวละครโลดเร่า ชีวิตคนในยุทธจักรที่ท่องเที่ยวสร้างวีรกรรม กลับถูกตีแผ่ถึงวิธีการแลกชีวิตทำมาหากินเลี้ยงชีพ

กระทั่งวันนี้ นิยายจีนกำลังภายในผ่านช่องทางใหม่ เล่าเรื่องถึงบ้านด้วยจอคอมพิวเตอร์ก่อนถูกตีพิมพ์เป็นเล่ม สร้างนักอ่านที่นับจำนวนได้จริงเป็นแสนเป็นล้าน

เปิดประตูความรื่นรมย์กว้างไกลไปราวจะไม่สิ้นสุด

แต่เทพอักษรที่เอ่ยนามมา เดินบนเส้นทางวรรณกรรมกันด้วยจำนวนเล็กน้อยแค่นี้หรือ ไม่ใช่แน่นอน ยังมีนักเขียนที่สร้างสรรค์ความรื่นรมย์แก่นักอ่านทุกที่สะพรั่งเหมือนหญ้าแพรกดอกมะเขือ

ท่ามกลางนามที่ถูกยกขึ้นเป็นเอก ยังมีนามที่ผู้คนรู้จักอีกมากมายที่มีขาประจำแฟนคลับติดตาม และหลายนามก็ได้รับการยกย่องมาก่อนหวงอี้เสียด้วยซ้ำ

เช่น เนี่ยอู่เซ็ง , อ้อเล้งเซ็ง , อึ้งเอ็ง , ซีเบ๊จี่อิง , ซีเบ๊เหล็ง , ฮุ้นตงงัก , ต๊กโกวอั้ง , เซียวเส็ก , ลิ้วชั้งเอี๊ยง ,  เซียวอิด , ฉินอั้ง ฯลฯ ที่นักอ่านไทยล้วนผ่านงานของนักเขียนเหล่านี้มาแล้วมาก และไม่น้อยที่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์

นิยายกำลังภายในมีอะไรดี

เริ่มจากบรรดานักเขียนซึ่งมิได้ถูกยกระดับขึ้นเป็นเอกส่วนมากเหล่านี้ แรกสุดคือธรรมะต่อสู้กับอธรรม จะมีสิ่งใดเร้าใจผู้คนมากไปกว่าการขัดขืนต่อสู้เพื่อความถูกต้อง การขัดขืนย่อมเกิดจากการถูกกระทำก่อน นั่นคือเนื้อหาที่มักถูกค่อนว่าวกวนอยู่กับการล้างแค้น แต่เส้นทางล้างแค้นนั้น ก่อนจะต่อสู้กับศัตรูคู่อริ ย่อมต้องต่อสู้กับตัวเองอยู่ภายในอย่างหน่วงหนักเช่นเดียวกัน นั่นจึงเกิดเป็นสีสันของตัวละครชายและหญิง บุตรธิดาบู๊ลิ้ม

แต่ก่อนปี 2500 และทศวรรษดังกล่าว นักเขียนชั้นดีนามต่างๆของไทย เมื่อต้องอ้างถ้อยคำสำนวนตั้งสติหรือกระตุกเตือนใจ ล้วนนำมาจากพุทธภาษิตในพระศาสนาด้วยกันทั้งสิ้น ก่อนจะเลือนหายว่างเปล่ามาจนบัดนี้

นิยายจีนกำลังภายในมีสำนวนสุภาษิตมากมาย ที่ปัจจุบันงานเขียนไทยนำมาใช้จนกลมกลืนเข้ากับตัวเช่น  “หนทางพิสูจน์ม้า   กาลเวลาพิสูจน์คน”  เป็นต้น

ถ้อยคำสำนวนเหล่านี้ เหมือนโอสถที่เสริมภูมิต้านทานในจิตใจนักอ่านให้ชุ่มชื่น แม้ “ธรรมะสูงหนึ่งเชียะ   อธรรมจะสูงหนึ่งวา” ก็ตาม เข้มไปกว่านั้น นครนิรนาม (2524) ยังฟาดเปรี้ยงลงมาว่า “แต่โบราณมา   คุณธรรมกับกตัญญูไม่อาจอยู่ร่วมกัน” เมื่อการหักล้างผลาญชีวิตถูกเปิดเผยความจริงว่า จอมมารที่ฆ่าฟันผู้คนเป็นผักเป็นปลานั้นคือบิดา ทำให้นักอ่านเองก็ต้องทบทวนความคิดของตัว

ขณะเดียวกับที่ ยอดทรชน (2522) บอกว่า “กตัญญูคือรากฐานของซื่อสัตย์จงรัก” ซึ่งไม่มีผู้ใดปฏิเสธและ  “น้ำแข็งหนาสามเชียะ หาใช่ด้วยความเย็นเพียงวันเดียว” เมื่อตัวละครฝ่าฟันทุกข์หนักหนาสาหัส

ส่วน นักฆ่าคู่บัลลังก์ (2525) ให้ตัวละครตอบคำถามศัตรูที่ต้องการล้มราชบัลลังก์ว่า “ตอนนี้ท่านเข้าใจแล้ว  ข้าพเจ้าเป็นนักฆ่าส่วนพระองค์ฮ่องเต้” คำถามต่อมาก็คือ ท่านเป็นยอดกระบี่ชื่อเกรียงไกร ไฉนยินยอมกระทำงานเช่นนี้ (เนื่องจากนักบู๊มักไม่ข้องแวะกับทางการ) คำตอบก็คือ “ประเทศจะรุ่งเรืองหรือล่มสลาย ทุกผู้คนมีหน้าที่รับผิดชอบ”

ยังมีที่นักอ่านไทยรู้จักขึ้นใจเช่น “นกสิ้นเกาทันฑ์ซ่อน กระต่ายตายฆ่าสุนัขล่าเนื้อ” หรือ “หากยืนตรงย่อมไม่กลัวเงาจะเอนเอียง” หรือ “ไม่สามารถปรนนิบัติคน ไหนเลยปรนนิบัติภูติผี” หรือ “ในโลกไร้เรื่องลำเค็ญ   เพียงกลัวขาดความตั้งใจ” แม้แต่สำนวนบอกความบังเอิญก็ยังมีที่น่าฟัง “ตั้งใจปลูกดอกไม้ ดอกไม้ไม่งอกเงย ไม่มีเจตนาปักหลิว ต้นหลิวเป็นพุ่มพวง” ฯลฯ

นิยายจีนกำลังภายในแต่ไหนแต่ไร จึงมิได้ไร้คุณค่าที่จะบำเรออารมณ์ความคิดไปทั้งสิ้น ในยามที่นักท่องเที่ยวจีนอพยพกันเข้ามาสร้างไชน่าทาวน์กันเกือบทั่วกรุงเทพฯแล้วนี่.

ดอกฝน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image