เมื่อ ภัทราวดี มีชูธน ตอบรับมาเป็นแขกรับเชิญรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง ONE31 พร้อมเปิดใจเล่าหลายเรื่องให้ฟัง หนึ่งในคำถามที่เธอซึ่งร่วมแสดงในละครเรื่อง ‘เลือดข้นคนจาง’ เจอจากพิธีกรก็คือ ใครฆ่าประเสริฐ ซึ่งเธอก็ว่า ความจริงสิ่งที่น่าสนใจมากกว่า คือทำไมประเสริฐถึงต้องตาย
เธอเล่าด้วยว่าก่อนจะมารับบทเป็น ‘อาม่า’ ในเรื่องดังกล่าว ได้ไปพูดคุยกับคนที่เป็นอาม่าตัวจริง และพบว่า โดยส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ใช้ชีวิตเป็นแม่บ้าน ความสนใจจึงวนเวียนอยู่กับเรื่องลูกและหลาน
“ความสุขของเขาคือลูกหลาน นี่คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก”
ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง-เธอบอก
เนื่องจากลูกหลานเหล่านั้น คือพลเมืองของประเทศ พลเมืองของโลก
“ถ้าเลี้ยงไม่ดีก็ฆ่ากันหมือนอันนี้ เพราะฉะนั้นใครฆ่าประเสริฐ อาม่านี่ไม่ได้ฆ่า หรือยิงนะ แต่เราว่าอาม่าคือต้นเหตุ”
“ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้เจตนา รัก แล้วเลี้ยงทุกคนอย่างดี แต่ความไม่เจตนา แต่ไม่รู้ คนเราถึงต้องเรียนหนังสือ ต้องมีการศึกษา ต้องรู้ ต้องถาม ต้องอ่าน ถ้าไม่อย่างนั้นการไม่รู้ทำให้เกิดสิ่งที่ไม่ดีงามได้”
ในรายการเธอยังเล่าถึงการโดนเทคนับ 10 หนในละครเรื่องนี้ เล่าถีงข้อแตกต่างของเธอกับตัวละครในเรื่อง รวมถึงยังบอกด้วยว่า การได้สวมบทบาทตัวละครในแบบที่ไม่ใช่ตัวเองส่งผลให้รอบรู้มากขึ้้น
“การที่เข้าไปเป็นตัวละครอะไรก็ตามที่เราใม่ใช่ ทำให้รอบรู้โลกมากขึ้น เข้าใจมนุษย์มากขึ้น ว่ามนุษย์แต่ละคนเขาคิดยังไง แล้วเราก็จะไม่โกรธ ไม่เอ๊อ อะไร เราเห็นหัวใจเขาน่ะ เพราะฉะนั้นการเป็นตัวละครมันยิ่งใหญ่ตรงนี้ ไม่ใช่ว่ามาทำงานแล้วเป็นดารา ไม่ใช่ มันได้ศึกษาชีวิตมนุษย์”
“การละครไม่ใช่เพื่อที่เราจะได้ไปโชว์ออฟ มันเป็นการไปศึกษาชีวิตมนุษย์ ทำให้เราเป็นมนุษย์ที่ลุ่มลึกขึ้น มีความเมตตา มีความเห็นอกเห็นใจคนได้มากขึ้น”
ภัทรวดีที่ปัจจุบันอายุ 70 ปีเล่าด้วยว่า ก่อนหน้านี้ตอนอายุได้ 20 ปีเศษ เธอเคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
“เกิดจากการทำแต่งาน ไม่เคยโผล่หน้าไปดูหนัง ดูละคร หรือไปฟังเพลงเลย พอทำแต่งานสิ่งที่เรามีอยู่มันถูกรีดไถออกไปหมด แบบไม่เหลืออะไร แล้วเราก็คิดอะไรไม่ออก ก็เลยยิ่งเครียด พอเครียดมากๆก็กลายเป็นโรคซึมเศร้า ป่วยอยู่เป็นปี แล้วอยากจะหนีทุกข์ อยากหลับ ก็กินยานอนหลับ ตอนแรกแค่เม็ดสองเม็ด ผ่านไปก็ 5 เม็ด 10 เม็ด คือกินเป็นอาหารเย็นไปเลย ดีนะที่ยังไม่ตาย”
ฟังรายละเอียดเต็มๆได้จากคลิปนี้
