“ใช้ความรู้สึกนำสมอง” ความเหมือนที่แตกต่าง ระหว่าง ‘แจ๊คกี้’ ตัวจริง กับ ‘เต้ย เลือดข้นฯ’

แม้ว่าจะเป็นนักแสดงหน้าใหม่แต่รับรองว่านาทีนี้หลายคนคงรู้จัก แจ๊คกี้ จักริน กังวานเกียรติชัย หนุ่มน้อยหน้าใสจากโปรเจคต์ 9×9 ที่กำลังมีผลงานละครเรื่องแรก  ‘เลือดข้นคนจาง’ ซึ่งกำลังแพร่ภาพทุกศุกร์และเสาร์ หลังข่าวค่ำ ทางช่องวัน ในบทบาท ‘เต้ย’ ที่ล่าสุดเจ้าตัวได้มานั่งพูดคุยกับ มติชนออนไลน์ ถึงงานที่ใครๆต่างก็กำลังพูดถึง

“เต้ยเป็นเด็กมัธยมชายคนเดียวที่อยู่ในตระกูลจิระอนันต์ เป็นคนที่อยู่ในช่วงวัยฮอร์โมนพุ่งพล่าน แล้วก็เป็นคนที่ชอบทำอะไรตามความรู้สึก ใช้ความรู้สึกนำสมอง”

“ตอนแรกก็ตกใจนิดนึงนะที่ต้องมาเล่นบทอะไรแบบนี้” แจ๊คกี้เล่าย้อนไปถึงวันแรกที่ได้เห็นบท

ทั้งยังว่า “ก็ยากกับตัวเรานิดนึงครับ”

Advertisement

แต่อีกมุมหนึ่งก็รู้สึกว่า “เป็นอะไรที่ท้าทาย และเราก็อยากทำมากเหมือนกัน”

กับ ‘ความเป็นแจ๊คกี้’ และ ‘ความเป็นเต้ย’ นักแสดงวัย 17  ปี บอกว่ามีทั้งส่วนที่เหมือนและแตกต่าง

“เป็นคนที่ใช้ความรู้สึกนำสมองเหมือนกัน” นี่เขาบอกพลางยิ้ม

Advertisement

แต่กระนั้นก็ยังมีข้อแตกต่าง ตรงที่ “เต้ยจะเป็นคนคิดน้อยกว่า ผมจะเป็นคนที่คิดเยอะกว่านิดนึง คิดรอบคอบกว่า และอาจจะดูใจเย็นกว่า”

เล่าด้วยว่าในชีวิตจริง ครอบครัวเขาก็เป็นคนจีน อีกทั้งมีระบบกงสี ซึ่งนั่นทำให้เข้าใจและรู้สึกอินกับการเป็นสมาชิก ตระกูลจิระอนันต์ มากขึ้น

ได้มานั่งพูดคุยกันแบบนี้ หากไม่ถามถึงฉากในตำนาน ‘ปีโป้เชค’ คงไม่ได้ และพอถามเจ้าตัวก็ออกอาการเขิน ก่อนจะว่า ตอนเล่นก็รู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน

“เพราะเป็นฉาก 18+ แล้วเราต้องเล่นให้เข้าถึงคนดูได้จริงๆ”

“พี่ ย้ง (ทรงยศ สุขมากอนันต์-ผู้กำกับ) แค่บอกเล่นให้เป็นธรรมชาติ ลองเข้าเป็นตัวเต้ย ลองเปิดรับตัวเต้ยว่ามันจะเป็นยังไง” แล้วก็โดนไปประมาณ 8-9 เทค ซึ่งคุ้มค่า เพราะผลของการทุ่มเททำให้ได้เสียงตอบรับกลับมามาก

แม้จะเป็นเสียงตอบเชิง ‘ด่ากลับ’  เขาก็ยิ้มรับ พร้อมความรู้สึกภูมิใจที่แฟนละครอินกับบทบาทที่ตัวเล่น

กว่าจะมาเป็นเต้ยที่เห็นกันในวันนี้ แจ๊คกี้บอกว่า ก่อนเปิดกล้องเขาได้รับการอัดแน่นด้วยคลาสเวิร์คชอป เริ่มตั้งแต่พื้นฐานการแสดงที่เขาจะเข้าร่วมพร้อมครอบครัว ซึ่งประกอบด้วย พ่อ แม่ และเฮียๆ ทั้ง 3  ซึ่งในการเจอกันครั้งแรกๆ รู้สึกเกร็งและกลัวว่าจะไปเป็นภาระของพวกเขา

แต่ความจริงไม่ใช่เลย เพราะทุกคนช่วยซัพพอร์ททั้งในส่วนการแสดง และยังให้ความสนิทสนมในเรื่องส่วนตัว

“ผมเคยติดตามผลงานพี่ๆ เขามา รู้สึกว่าเขาเก่งจริงๆ พอได้มาเจอตัวจริงพี่ๆ อย่างพี่ต่อ (ธนภพ ลีรัตนขจร) พี่เจเจ (กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม)  พี่เจมส์ (ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) เขาเฟรนด์ลี่มาก คอยให้คำปรึกษา แนะนำ ชวนไปกินข้าว นั่งคุย เหมือนรู้จักมานาน”

จน “รู้สึกเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆ ไปแล้ว”

สำหรับฟีดแบคจากแฟนๆที่ได้ชมละคร แจ็กกี้บอกว่าเป็นอะไรที่รู้สึกดีและตื้นตันมากๆ

“อยากขอบคุณทุกคน”

ขณะเดียวกันก็อยากจะบอกว่า ในส่วนการแสดงของเขายังมีอีกหลายฉาก หลายตอนที่อยากให้ได้เห็น

“ต้องติดตามรอดู มีมากกว่านี้แน่นอนครับ”

เกาะหน้าจอรอเชียร์เต้ยกันได้เลย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image