‘ท็อป จรณ’ ว่าตาม ‘ใบเฟิร์น’ ไม่ขอตอบสาเหตุเลิก ปัดไปปฏิบัติธรรมเพราะอกหัก

หลังจากที่นางเอกสาว ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ออกมาเปิดใจว่าได้เลิกรากับหวานใจ ท็อป จรณ โสรัตน์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในเรื่องของเหตุผลนั้นขอให้เป็นเรื่องของคนสองคน และยืนยันว่าไม่มีมือที่ 3 อย่างแน่นอน โดยล่าสุดได้เจอหน้าฝ่ายชายในงานมหกรรมการท่องเที่ยวชุมชน OTOP นวัตวิถี ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เจ้าตัวก็ได้เผยถึงกรณีดังกล่าวว่า

“จริงๆ ก็ตามที่น้องให้สัมภาษณ์ไปครับ เราก็ให้เกียรติเขา”

สาเหตุที่เลิกราไปกันต่อไม่ได้คืออะไร?

“จริงๆ แล้วผมว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคนแหละ ผมว่าในการคบกัน คุยกันมันก็มีดีเทลอะไรหลายๆ อย่าง ขออนุญาติไม่ลงรายละเอียด แล้วก็ไม่มีมือที่ 3 แต่นอนครับ”

Advertisement

เป็นที่ทัศนคติหรือว่าเวลาหรือเปล่า?

“จริงๆ แล้วผมว่าการที่เราจะใช้ชีวิตหรือว่าคุยกับใครสักคนเนี่ยแน่นอนว่ามันมีรายละเอียดทั้งทุกข์แล้วก็สุขเป็นเรืองธรรมดา ผมขออนุญาติไม่ลงรายละเอียดว่ามันเป็นเรื่องอะไรดีกว่า ทุกคนมองว่าที่ผ่านมาผมมีความสุขมาก ก็ขอบคุณเขามากๆ ที่เข้ามาในชีวิตผม ที่ผ่านมามันมีความหมายกับผมมากๆ ทุกวันนี้ผมก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมตั้งแต่วันที่เจอเขาวันแรก”

การตัดสินใจจริงๆ มาจากฝ่ายไหน หรือมีการพูดคุยกันก่อน?

Advertisement

“ผมให้เกียรติตรงที่น้องได้ให้สัมภาษณ์ไปดีกว่า”

ก่อนหน้านี้มีการปรับจูนกันบ้างมั้ย?

“เรามีการคุยกันปรับกันอยู่แล้ว ทุกคนมาคนละครอบครัวกันเนอะ วิธีคิด ทัศนคติที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นมันต้องมีการปรับตลอดเวลาอยู่แล้ว ผ่านประสบการณ์ ผ่านเหตุการณ์มันมีการโตขึ้น มีการเรียนรู้ เพราะฉะนั้นทุกๆ วันเราก็มีการปรับตัวเข้าหากัน”

มีทะเลาะกันบ้างมั้ย?

“ผมว่ามันก็เป็นเรื่องปกตินะครับ”

ก่อนหน้านี้คู่เราหวานกันมาก หลายคนเลยตกใจว่าจุดไหนที่ทำให้เลิกกัน?

“ตรงจุดไหนหรอ จริงๆผมก็ไม่อยากบอกว่าเป็นจุดไหน มันคงพูดไม่ได้หรอก มันเป็นการลงรายละเอียดของคนสองคนจริงๆ มันเซ้นสิทีฟมากๆ ผมไม่อยากลงรายละเอียดอะไรเลย แต่ว่าในสิ่งที่ทุกคนเห็นสิ่งที่ทุกคนมองว่าน่ารัก ผมอยากให้ทุกคนเก็บเอาไว้เหมือนที่ผมเก็บเอาไว้ ผมอยากให้ทุกคนมองว่าที่ผ่านมามันน่ารักซึ่งมันก็คงยังเป็นอย่างนั้นตลอดไป”

เสียดายเวลามั้ยเพราะเราทุ่มเทกับความรักครั้งนี้?

“มันไม่ได้เสียดายหรอกครับ คนเราผ่านเข้ามาเพื่อให้อะไรบางอย่าง ในทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันอยู่ที่คุณมองว่ามันคืออะไร มันมีความสุขเสมอแต่ในความเป็นจริงคงไม่มีอะไรที่สุขร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วทุกข์ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก มันเป็นธรรมชาติ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องยอมรับและเข้าใจในความเป็นจริงที่เกิดขึ้น”

ได้คุยกันบ้างมั้ยหลังจากลดสถานะกันแล้ว?

“ไม่ได้คุยเลยครับ”

ตัวเราเองเลือกที่จะไม่คุยเลย?

“เปล่าครับ เพียงแต่ว่าเราอาจจะต้องให้เวลากันเนาะ ให้เกียรติกัน”

สภาพจิตใจตอนนี้เป็นไงบ้าง ?

“เดี๋ยวมันก็ผ่านไปครับ (ยิ้ม)”

เห็นเราไปปฏิบัติธรรมด้วย ดูเหมือนอาการเฮิร์ทเลย?

“ผมขอชี้แจงแบบนี้ดีกว่าว่าผมเป็นคนชอบทำบุญและปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้อาจจะไม่เห็นภาพมากนัก แต่พอครั้งนี้เราได้ไปปฏิบัติธรรม เรารู้สึกว่าเราได้อะไรกลับมาจริงๆ เราได้มองเห็นธรรมะบางอย่าง ได้มองเห็นความจริงที่เกิดขึ้นกับใจเรา และเรารู้สึกว่า โอเค เราเป็นนักแสดง มีคนติดตาม ถ้ามีอะไรเล็กๆน้อยๆที่เราสามารถ ทำให้เขาหันไปเข้าวัด นั่งกรรมฐาน ทำบุญได้  เพียงแค่สักคนเดียว ผมก็รู้สึกดีใจแล้ว”

คนอาจจะมองว่าเราเฮิร์ทจนต้องไปปฏิบัติธรรมหรือเปล่า?

“มันก็แล้วแต่มุมมองของคน แต่ว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่เหรอ สมมติว่าถ้าเรามีสิ่งที่ไม่สบายใจ เราก็ไปที่วัด ไปฟังพระที่เรานับถือบอกกล่าว หรือ เทศน์ วิเคราะห์ใจเราดูว่าตอนนี้ใจเราเป็นยังไง ผมว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่ผมได้มาเลย คือการยอมรับโดยไม่มีเงื่อนไข ฝึกใจตัวเองให้ยอมรับได้ทั้ง ทุกข์ที่สุดและสุขที่สุด เมื่อไหร่ที่เรายอมรับได้โดยไม่มีเงื่อนไข เราก็ต้องฝึก และที่สำคัญที่สุดคือเราต้องซื่อสัตย์กับใจตัวเอง ผมว่ามันก็จะผ่านไปได้”

อกหักครั้งนี้ถึงกับต้องใช้ธรรมะข่มใจเลยใช่มั้ย?

“ไม่เกี่ยวขนาดนั้น (หัวเราะ) ผมว่าธรรมะสามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์ครับ”

ถ้ามีอีเวนต์ติดต่อให้ออกคู่ ร่วมงานกันได้มั้ย?

“ร่วมงานกันได้ครับ”

มีโอกาสรีเทิร์นมั้ย?

“จริงๆ เรื่องนี้น้องให้สัมภาษณ์ไปแล้วครับ(ใบเฟิร์นบอกว่าไม่มีโอกาสรีเทิร์น) ผมให้เกียรติทางน้องในสิ่งที่น้องพูดครับ แต่ถ้าถามผมเรื่องโอกาสรีเทิร์น ผมไม่กล้าคอนเฟิร์ม ผมรู้สึกว่าโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน สถานะเราตอนนี้ก็เป็นพี่น้องกันได้ครับ”

อยู่ๆ เราสองคนเลิกกัน คนรอบข้างว่าอย่างไรบ้าง?

“เพื่อนๆ คนรอบตัวก็ให้กำลังใจ ทุกคนก็ตกใจเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ส่วนใหญ่ทุกคนจะให้กำลังซะมากกว่าครับ ความรู้สึกตอนนี้ ผมคิดว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป อารมณ์ของคนเรามันเปลี่ยนไปทุกขณะ วันนี้เราอาจจะโอเค แต่พรุ่งนี้อาจจะเสียใจก็ได้ ผมก็ตอบไม่ได้ว่าตัวเองเป็นอย่างไรอยู่ ถามว่าพักใจไปยาวๆ เลยมั้ย ตอนนี้ผมมีเรื่องต้องโฟกัส มีเรื่องต้องทำ ส่วนเรื่องใจก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของใจไปครับ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image