ตู้หนังสือ : เพราะฉะนั้นฉันจึงถาม หนังสือชุดที่ไม่ต้องโฆษณา

ฟังดูเหมือนอวดโอ่ ขณะเดียวกันก็น่าสนใจใคร่รู้ ว่าในสังคมที่คนไม่ค่อยอ่านหนังสือกันในปริมาณที่น่าพึงใจ ยังมีเล่มที่ไม่ต้องโฆษณาประชาสัมพันธ์ก็ขายได้หรือ

แต่ในบ้านเมืองที่การตลาดนำหน้าแทบทุกเรื่อง กระทั่งไปนิพพานก็สามารถให้คนจ่ายเงินแสนไปพับเพียบพนมมือแต้ต่อหน้าพระได้นี้ การบอกว่ามีงานที่ไม่ต้องโฆษณาก็เป็นที่รู้จักหรือเป็นที่สนใจกัน มิใช่คำคุยโม้โอ้อวด ตรงกันข้าม การกล่าวว่าเป็นงานที่ไม่ต้องโฆษณาประชาสัมพันธ์กลับฟังถ่อมตัวลงเสียด้วยซ้ำ เหมือนกับเห็นขนมครกริมทางที่ไม่มีป้ายโฆษณา แต่เห็นแล้วอยากกินขึ้นมาทันที เพราะคนรู้จักขนมครกว่าเป็นขนมอะไรและรสชาติอย่างไร ไม่ว่าขนมครกเจ้านั้นจะอร่อยสุดยอด ถูกปากถูกลิ้นหรือไม่ก็ตาม

หากหนังสือชุดนี้ต่างออกไปหน่อยเดียว ตรงที่คนรู้จักรู้แน่ ว่ารสชาติเป็นอย่างไร อร่อยถูกปากถูกลิ้นขนาดไหน

โดยเฉพาะผู้เขียนเจ้าของตัวหนังสือ หรือพ่อค้าที่อยู่หลังเตาคอยแคะขนมทีละฝา หนุ่มเมืองจันท์

Advertisement

เวลาผ่านมานานนับทศวรรษ ขนมครกเตานี้ถูกปากต่อปากเล่าลือกันจนเป็นสามัญ เช่นเดียวกับหนังสือชุดนี้ที่เล่มใหม่วางแผงเมื่อไหร่ ก็ชวนให้ซื้อหามาอ่านกันเป็นนิจ จนเล่ม ๓๐ เข้านี่แล้ว

เพราะฉะนั้น ฉันจึงถาม งานล่าสุดในชุด ฟาสท์ฟู้ดธุรกิจ อันลือเลื่องของผู้เขียน ในยามที่โลกสุดซับซ้อน ทำให้ชีวิตแสนสับสน แม้แต่คำถามเรียบง่ายก็ยังสำคัญพอจะหาคำตอบ หลังจากผู้เขียนเพียรสนทนา สัมภาษณ์ อ่านและดูมาสารพัด เพื่อนำเรื่องราวต่างๆ แบบอย่างนานา มาให้คนทั้งหลายได้เห็นเป็นกำลังใจและแรงกระตุ้นที่จะสู้ชีวิตต่อไปไม่ย่อท้อ อย่างมีความหวัง ด้วยงานที่ล้วนตั้งชื่อไว้เร้าความคิดความรู้สึกเช่น

ความสุข ณ จุดที่ยืนอยู่, จุดหมายที่ปลายเท้า, แพ้ได้แต่ไม่ยอม, ปัญหาคือยาวิเศษ, ฝันเรื่อยเรื่อย เหนื่อยก็พัก ฯลฯ

ช่วงที่คนส่วนมากยากลำบากนี้ จึงหันมาตั้งคำถามต่อทุกสิ่ง ต่อชีวิต ต่อโอกาส ต่อพรุ่งนี้ ต่ออนาคต และที่สำคัญ ตั้งคำถามต่อความรู้ของตัวเอง ไม่ว่าความรู้จะไม่สำคัญเท่าจินตนาการอย่างที่ปราชญ์ว่าหรือไม่ แต่ความรู้ก็จำเป็นอย่างยิ่งยวดต่อการดำรงชีวิต หุงข้าวไม่เป็นยามที่จำเป็นต้องหุงข้าว ใช้แค่จินตนาการได้เพริศพริ้งขนาดไหนก็ช่วยให้ท้องอิ่มไม่ได้

ดังนั้น ผู้เขียนจึงมาบอกเล่าพร้อมแขกรับเชิญที่จะช่วยกันชี้หนทางว่า คนเก่งคือคนที่รู้ว่าตัวเองไม่รู้อะไร ซึ่งพยายามรู้ให้ได้ว่า จะหาความรู้เพิ่มจากใคร คนเก่งคือคนที่รู้ว่าตัวเองพลาดตรงไหน และจะแก้ไขได้อย่างไร

นี่จึงเป็นโอกาสสำคัญของคนที่ไม่เคยตั้งคำถาม หรือไม่ชอบตั้งคำถาม และเป็นโอกาสดีของคนที่ชอบหาคำตอบ โดยเฉพาะจากฟาสท์ฟู้ดธุรกิจที่คุ้นเคย หรือจากฟาสท์ฟู้ดธุรกิจที่เพิ่งรู้จัก ซึ่งพอรู้สึกตัวก็กลายเป็นผู้คุ้นเคยเสียแล้ว

-การเมืองเป็นเรื่องสนุก แต่บางบ้านเมือง การเมืองเป็นเรื่องถูกทำให้เบื่อหน่ายน่ารังเกียจ ซึ่งหากชาวบ้านไม่รู้เท่าทัน บรรดาที่แสวงประโยชน์จากการเมืองก็สุขเกษมเปรมปรีด์ไป เพราะไม่มีใครคอยจับตา กอบโกยหากำไรจากเลือดเนื้อชาวบ้านไปตลอดชาติ ดังนั้น การรู้จักนักการเมืองสักคนจึงจำเป็นในโลกซึ่งบางคนพยายามย้อมความโสโครกตัวเองให้น่าดูอยู่เสมอ ว่าตัวจริงแท้แต่ละคนเป็นไฉน เพื่อวางใจและศรัทธามอบอนาคตให้อยู่ในมือเขาหรือเธอเหล่านั้นได้

ปักธงอนาคต เป็นชีวิตของคนหนุ่มอีกคน ที่ตั้งใจกระโจนลงวังวนการเมืองซึ่งหลายคนท้อแท้ เพื่อโอกาสสักนิดที่ได้รับอาจสามารถเปลี่ยนแปรบางสิ่งให้เกิดประโยชน์ หรือความหวังเพิ่มขึ้นอีกคนได้ เป็นคนหนุ่มที่เมื่อกระโจนลงมาแล้ว ได้สร้างแรงกระเพื่อมควรแก่การสนใจ เนื่องจากแรงกระเพื่อมนั้นก่อให้เกิดเสียงให้ร้ายหรือคำร่ำลือโต้ตอบ ที่นักฉวยโอกาสไม่น้อยในบ้านเมืองนี้ถนัดกระทำ เมื่อรู้สึกว่าจะกระทบประโยชน์ที่เคย

แทบไม่น่าเชื่อว่าเมื่อ เจนวิทย์ เชื้อสาวะถี ได้โอกาสจากคนหนุ่มผู้อาสา ธนากร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ตระเวนสนทนาและสัมภาษณ์ผู้คนเป็นร้อย เพื่อทำความรู้จักกับชายที่ประสงค์จะเข้ามารับใช้ประชาชน อย่างปราศจากคำชี้นำหรือข้อจำกัดของเจ้าของเรื่อง เพื่อเขียนหนังสือแนะนำตัวเล่มนี้ ซึ่งผู้อ่านสามารถพิจารณาได้เองถึงเนื้อหาและถ้อยคำผู้เกี่ยวข้อง ว่าคนซึ่งเปิดเผยตัวเองให้เห็นต่อสาธารณะในแต่ละแง่มุม เมื่อเปรียบกับคนที่ได้ยินแต่ชื่อเห็นแต่จากภาพและข่าวโทรทัศน์ โดยมิอาจตรวจสอบเบื้องหลังต่างๆได้แม้แต่กรณีที่สังคมตั้งคำถามหรือร่ำลือกัน ชาวบ้านควรจะให้โอกาสผู้ใดถากถางอนาคตอันยากลำบากนี้กว่ากัน

ประชาชนผู้ลงคะแนนเสียงจำเป็นต้องหาอ่านดู


– เด็กๆออกจากท้องแม่มาทุกวัน พ่อแม่ก็มีปัญหากับลูกๆแต่ละวัยทุกวัน ว่าที่จริง งานหลักประการหนึ่งของมนุษย์ ก็คือการส่งถ่ายชาติพันธุ์แต่ละรุ่นให้สืบเชื้อสายต่อไปได้อย่างดี อย่างดีหมายความว่านอกจากลูกเต้าร่างกายแข็งแรงแล้ว จิตใจยังเปี่ยมด้วยคุณค่าที่แต่ละสังคมกำกับฝากฝังต่อๆไปในแต่ละรุ่นด้วย จึงเรียกได้ว่าสืบเชื้อพันธุ์อย่างดี

แต่การเลี้ยงดูเด็ก ปัญหามิได้อยู่ที่เด็กข้างเดียว พ่อแม่ก็มีปัญหาพร้อมกันไปด้วย พ่อแม่จ๋าอย่าโกรธหนู เป็นหนังสือที่ผู้เชี่ยวชาญการเลี้ยงดูเด็กชาวญี่ปุ่นโทะกิโกะ โทโซะ  เขียนเพื่อพ่อแม่หรือผู้ปกครองที่พยายามจัดการอารมณ์ตัวเองเวลาเลี้ยงดูลูก โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกผิดยามควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ถึงระดับเฆี่ยนตีหรือทำร้ายลูกโดยไม่ตั้งใจ

งานชิ้นนี้ให้แนวทางและวิธีการที่ใช้ได้จริง การระงับอารมณ์ เทคนิคกระตุกใจก่อนพลั้งมือ และวิธีรับมือลูกๆต่างๆ พร้อมกรณีตัวอย่างนานาที่พ่อแม่ต้องเจอ เพื่อให้รู้เท่าทันลูกและดูแลลูกๆได้อย่างมีความสุข โดยมิให้เกิดบาดแผลใจแก่กันและกัน

มีภาพประกอบ อ่านง่าย ใช้ได้จริง และเหมาะกับพ่อแม่ไทยเสียอีกด้วยลองพิสูจน์ดู งานชิ้นนี้วางตลาดญี่ปุ่นเดือนเดียวขายได้ ๒๐,๐๐๐ เล่มทันที

มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับดีไซน์ 350 ที่นั่ง และ ม.44 กับการเลือกตั้ง เมื่อมองเตสกิเยอยังอยู่ในไทยไม่ไปไหน รู้จักคนสร้างชื่อเสียงด้วยฝีมือเช่นโปรเม ความมหัศจรรย์ของทักษะที่แม้วงการกีฬาตะวันตกยังยกนิ้วให้

แพทย์ พิจิตร ยังพูดถึงอาจารย์ชัยอนันต์ สมุทวณิช ฉบับนี้ว่าด้วยศรีปราชญ์กับศรีธนญชัย และความคิดทางการเมืองไทย ไม่อ่านไม่ได้เด็ดขาด


————————————————————
บรรณาลักษณ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image