ทันทีที่ สามีหนุ่ม ทิม พิธาน ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ว่าความสัมพันธ์ฉัทน์สามีกับ ต่าย ชุติมา กำลังมีรอยร้าว เรื่องราวครอบครัวของเขาและเธอก็ตกเป็นเป้าสนใจทันที รวมถึงงานนี้ต่างคนต่างสงสัยว่าสาเหตุที่บ้านเกือแตกอาจมาจากที่ฝ่ายหญิงติดปาร์ตี้จนเกินพอดี และวันนี้(30 พ.ย.) ต่าย ชุติมา ที่ร่วมงานเปิดตัวศูนย์การค้า เกตเวย์ แอท บางซื่อ ก็ขอเปิดใจถึงเรื่องนี้มาว่า
“ณ จุดนี้ก็เป็นแบบที่คุณทิมพูดค่ะ ว่ามีการปรึกษากันอยู่เกี่ยวกับปัญหาภายในว่าเราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ”
ปัญหานี้เกิดมาสักพักใหญ่ หลายเดือนแล้ว ส่วนสาเหตุเกิดจากความไม่เข้าใจกันในหลายๆเรื่อง และทัศนคติที่แตกต่างรวมทั้งครอบครัวของทั้ง2คน การเติบโตของทั้ง2 คน ที่ถูกเลี้ยงมาคนละแบบ
“ปัญหาหลักๆคือเรา2คนโฟกัสที่ลูก เรา2โตมาคนละแบบ ทั้งคู่ก็อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก เลยเกิดความคิดเห็นในการเลี้ยงลูกที่ไม่ตรงกัน ”
แต่ถึงอย่างไรตนและสามีก็ไม่ได้ขัดแย้งรุนแรงถึงขั้นแยกกันอยู่ตามข่าว
“ยังปรึกษากันอยู่ค่ะว่าอย่างไรเพราะเรา2คนโฟกัสที่ลูกเป็นหลักอยู่แล้ว”
ทั้งนี้ยืนยันว่าตลอดเวลาของชีวิตสมรสตนไม่ได้เป็นสาวติดเที่ยว ปาร์ตี้ และยังทำหน้าที่แม่และเมียที่ดีเสมอ
” เรายังมีจิตสำนึกของความเป็นแม่รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ อะไรเหมาะสม ตลอด10ปีที่ผ่านมา เราแทบจะไม่ได้ไปไหนเลย”
“เรารู้ว่าเวลาไหนเหมาะ สมควรหรือไม่ เราต้องทำหน้าที่ของเราให้เรียบร้อยก่อน ”
ณ วันนี้ตนและสามีกำลังพยายามหาทางออกให้ครอบครัวกันอยู่ ส่วนที่มีข่าวลือว่าตนเตรียมฟ้องหย่าด้วยมูลค่า 50 ล้านนั้น ตนเสียใจกับข่าวลือที่เกิดขึ้น
” มันน่าผิดหวังมากถ้าอะไรที่ไม่ใช่ความจริง ซึ่งเราไม่เคยยึดติดกับเรื่องเงินเลย”
“คนจะพูดอะไรก็ได้ แต่ความจริงก็คือความจริง คนใกล้ชิดก็จะรู้”
“ไม่มีใครอยากให้ไปถึงจุดนั้นหรอกค่ะ ทุกวันนี้ก็คุยกันและโฟกัสที่ลูกเป็นหลักอยู่แล้ว”
ตนไม่มีเรื่องของมือที่สามมาบั่นทอนชีวิตคู่แต่อย่างใด เนื่องจากตนมีเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
และตั้งแต่ครอบครัวตกเป็นข่าวยังไม่ได้พูดคุยกับสามีในเรื่องนี้ ปรึกษากันเพียงเรื่องลูกสาว ส่วนโอกาสที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“มันก็เป็นเรื่องของอนาคตค่ะ จริงๆ แล้วที่เราพยายามกันก็เพราะว่าลูก บางทีก็เสียใจทำไมลูกต้องมาเจอแบบนี้ (ร้องไห้)”
“ไม่มีใครอยากให้ครอบครัวของลูกไม่สมบูรณ์หรอก”
” แต่ทุกวันนี้เราก็ได้พยายามอย่างเต็มที่”
“ก็ยังเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายอยู่ค่ะ”
นั่นเพราะตนไม่อยากให้ข่าวนี้มากระทบกระเทือนต่อจิตใจลูกมาก
“ เรารู้สึกว่าเราเป็นต้นเหตุหรือเปล่า (เสียงสั่น) ที่ทำให้ลูกต้องมาเป็นแบบนี้ เราน่าจะคุยกันได้ เพื่ออนาคตที่ของลูกเรา”
ทั้งนี้ตนยืนว่าไม่เคยนำลูกไว้เป็นตัวประกันจากสามีเลย
“เราไม่เคยคิดจะแย่งหรืออะไรเลย เพราะเราอยากให้ลูกได้อยู่กับทั้งพ่อและแม่เท่าๆ กัน อย่างที่บอกว่าพอเราโฟกัสที่ลูก เราก็อยากจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเขา”
แม้ความสัมพันธ์ของตนและสามีเกิดรอยร้าวแต่ในหน้าที่ของมารดา ตนยืนยันว่าไม่บกพร่อง
“เขาก็ต้องรู้ว่าเราเป็นแม่คนหนึ่งที่ให้ความรักกับลูกคนหนึ่งได้เต็มที่ในแบบที่แม่คนหนึ่งจะให้ได้”
“ก็รู้สึกว่าทุกอย่างที่ผ่านมา อะไรที่เกิดขึ้นมันดีหมด สิ่งไหนไม่ดีหรือสิ่งที่เกิดกับเรา”
“เราก็รู้สึกว่าทุกอย่างมันเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้น (เสียงสั่น) คอยเตือนเราในอนาคตว่าจะดำเนินชีวิตไปในแบบไหน”
ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาว่า ช่วงที่กำลังมีปัญหากันอยู่ มีประเด็นของเรื่องการทำร้ายร่างกายด้วยนั้นตนขออนุญาตไม่ตอบ
แต่คิดว่าทุกวันนี้เราคิดว่าทิม ทำหน้าที่สามีที่ดีที่สุด
“เอ่อ… เขาก็ทำหน้าที่ของเขาแหละค่ะ ทุกวันนี้เราก็ยังรัก และหวังดีกับเขาอยู่แล้ว”
ส่วนที่ว่าตนเป็นสาวสายปาร์ตี้ ทิ้งลูกที่ป่วยไปเที่ยว ตนขอตอบว่าหากไม่ได้ใกล้ชิดกับตนก็คงไม่รู้ความจริง
” แต่ว่าเรารู้ตัวเราว่าทำอะไรอยู่ ความจริงคืออะไร และคนใกล้ชิดทุกคนเรารู้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คุณพ่อ คุณแม่”
“ถึงแม้จะแต่งงานเร็ว ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็ยังจะมีครอบครัวเหมือนเดิม”
