ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(12 ธ.ค.) ที่วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร มีพิธีฌาปนกิจศพ ผู้กำกับฯ นักแสดงอาวุโสชื่อดัง เปี๊ยก พิศาล อัครเศรณี ที่เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว จากไปอย่างสงบด้วยวัยอายุ 73 ปี เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเช้า ลูกชายจองพิศาล ทั้ง 2 ได้แก่ โอ อัครพล อัศรเศรณี และโอ๊ต นนทพร อัครเศรณี ได้บวชหน้าไฟเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบิดาผู้ล่วงลับ
ด้าน อ้อม พิยดา-อาร์ต ศรา จุฑารัตนกุล, อ๋อ ศิรดา อัครเศรณี เมเยอร์ รวมถึงญาติและเพื่อนสนิท ร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลหน้าศพดาราอาวุโส เปี๊ยก พิศาล อัครเศรณี ตั้งแต่ช่วงเช้า เวลา 10.00 น. มีการแสดงพระธรรมเทศนา พระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ จากนั้นครอบครัวอัครเศรณีถวายภัตตาหารเพล พระสงฆ์สวดมาติกา-บังสุกุล
ต่อมาเวลา 13.30 น. ได้มีการเคลื่อนศพจากศาลากลางน้ำไปยังเมรุเล็ก วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร จากนั้นได้นำศพเวียนรอบเมรุ 3 รอบ โดยมีพระโอ อัครพล และพระโอ๊ต นนทพร ลูกชายคนโตและคนสุดท้อง เป็นผู้เดินนำหน้าศพ มีอาร์ต ศรา จุฑารัตนกุล ถือกระธางธูป ด้าน อ๋อ ศิรดา อัครเศรณี เมเยอร์ ลูกสาวถือกรอบรูปถ่ายของคุณพ่อเปี๊ยก โดยอ้อม พิยดา เดินรั้งท้าย ก่อนจะนำไปตั้งที่บริเวณหน้าเมรุเผาศพ ซึ่งประดับประดาด้วยดอกไม้สีม่วง ในระหว่างเดินขบวนเคลื่อนศพไปยังเมรุ อ้อม พิยดา มีสีหน้าโศกเศร้าและอ๋อ ศิรดา น้องสาว ร่ำไห้ตลอดเวลา
โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีบุคคลในแวดวงบันเทิง นักแสดงอาวุโส ผู้จัดฯ มาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย อาทิ รอง เค้ามูลคดี, สมภพ เบยญจาทิกุล, ญาณี ตราโมท, สถาพร นาควิไลโรจน์, ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ฯลฯ
ต่อมาเวลา 14.30 น. อ้อม พิยดา และ อ๋อ ศิรดา ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนพิธีฌาปนกิจ โดยอ้อมเผยว่า ตอนนี้ตนต้องกลั้นน้ำตาและพยายามเข้มแข็งเพราะต้องอ่านคำไว้อาลัยให้พ่อ
ทั้งนี้ยังกล่าวต่อว่า ดีใจและขอบพระคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจมาให้ในทุกช่องทาง ส่วนหนังสือรวบรวมชีวประวัติของพ่อที่ทำเอาไว้นั้น อ้อม พิยดาแจงว่า พ่อได้รวบรวมขึ้นเพื่อเตรียมทำเรื่องขอเป็นศิลปินแห่งชาติในปี 2562 ที่จะถึง แต่สิ่งที่ตั้งใจก็ไม่ทันสำเร็จ
“ไม่เสียดายค่ะเพราะพ่อเป็นศิลปินอยู่แล้ว ไม่ต้องมีตำแหน่งอะไรมาบอก เขาก็คือสุดยอดของเราอยู่แล้ว” อ๋อ ศิรดา กล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม อ้อม พิยดา กล่าวต่อว่าตนและคนในครอบครัวดีใจที่หลายคนยกให้พ่อของตนเป็นปูชนียบุคคลของวงการบันเทิง ส่วนพิธีหลังจากนี้จะเก็บอัฐิไว้ที่ไหนนั้นคนในครอบครัวยังอยู่ในช่วงตกลงกัน
“ก็ยังคุยกันอยู่ว่าจะไปลอยที่เป็นธุลี เป็นผงเถ้า ก็น่าจะไปลอยที่โน้น ส่วนกระดูกเก็บไว้ที่ไหน เดี๋ยวแจ้งให้ทราบอีกทีหนึ่ง เพราะว่าตอนนี้ก็ยังไม่ได้คุยกัน 4 คน เพราะว่าก็มีบวชให้พ่ออยู่”
จากนี้แม้พ่อจะจากไปแต่ความรักที่พี่น้องมีให้กันจะคงเหนียวแน่นเช่นเดิม
“ถ้าถึงวันเกิดพ่อ หรือวันพ่อ เราก็ยังรวมตัวกันเหมือนเดิม เหมือนที่เราเคยเจอๆกัน เกือบอาทิตย์ หรือ 2-3 อาทิตย์เจอกันที ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่”
ถึงตอนนี้สภาพจิตใจคุณแม่ตนตอนนี้เข้มแข็ง
“คุณแม่ก็เข้มแข็งค่ะ แต่ก็เข้าๆ ออกๆ เหมือนกัน บางทีเดี๋ยวก็ร้อง เดี๋ยวก็หาย พอเราฮึบเราก็ได้ ”
และแม้ร่างกายพ่อจะสลายไปแต่คำสอนที่มีให้จะอยู่ในใจเสมอ
“พ่อสอนพวกเรามาตลอดนะคะ ว่าให้เราติดดิน ให้เราเป็นคนดี ถ้าเราเป็นคนดี เราก็จะได้ดี ให้เราอดทน ขยัน และรักพระมหากษัตริย์ พ่อจะสอนให้รักแผ่นดิน รักบ้านเกิด คือจะสอนแบบนี้มาตลอด”
“พวกเราทั้ง 4 คนก็พยายามปฏิบัติตามคำสอนของพ่อมาโดยตลอด คือสอนให้เป็นคนดีค่ะ”
หากให้พูดถึงคุณพ่อในวันนี้เธอก็ว่าไม่ต้องห่วงลูกๆ เพราะทุกคนเข้มแข็งเสมอ
“อย่างวันนี้ทุกคนพยายามเข้มแข็งและอยู่ในสมาธิ เพื่อที่จะให้วันนี้ผ่านไปได้ด้วยดีที่สุดเท่าที่พวกเราจะทำได้ พวกเราตั้งสติและตั้งสมาธิกันทั้ง 4 คน”
“เราก็ตั้งใจจะทำวันนี้ให้ดีที่สุด พรุ่งนี้ถ้าล้มระเนระนาดก็ค่อยว่ากัน แต่ก็ช็อกค่ะ”
