‘บุ๋ม ปนัดดา’ เผยสาเหตุเลิกสามี บอกแยกวันนี้ดีกว่าฝืนจนเกลียดกัน

หลังจากที่มีข่าวออกมาว่า บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ได้เลิกรากับสามีรุ่นน้อง เอกริน นิลเศรษฐี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมานานเกือบ 4 ปี โดยฝ่ายชายได้ย้ายออกจากบ้านย่านรามอินทราไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้เจ้าตัวได้ขอเปิดใจอย่างเป็นทางการในรายการตกมันส์บันเทิง ถึงรักครั้งนี้ที่ถึงทางตันมาว่า จริงๆแล้วตนและอดีตสามีได้พยายามประคับประคองความสัมพันธ์มากว่า 1 ปี แต่ช่วงหลังๆมีการพูดคุยเรื่องการแยกทางมากขึ้น

เราก็บอกกับเขาว่าต่างคนต่างไปทำในสิ่งที่เราชอบ อดีตสามีมีความชอบการด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย ส่วนตนมีความชอบในการทำเพื่อสังคม และการทำองค์กรทำดี ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ จึงตกลงว่าเราควรจะแยกกันทำในสิ่งที่ต่างคนต่างชอบ จะได้ไม่ทะเลาะกัน

“ต่างคนต่างปรับแล้วนะ ปรับมาครึ่งปี แต่เพราะมันไม่ได้จริงๆ เลยเป็นแบบนี้”

Advertisement

“เพราะเรากลัวการทะเลาะกัน เราไม่อยากเกลียดกัน เราโตแล้ว ไม่อยากฟูมฟายต่อหน้าลูก”

ตนและฝ่ายชายพยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุด จนสรุปว่าเราต่างคนต่างอยู่ดีกว่า ต่างคนต่างดูแลตัวเอง และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

ทั้งนี้ตนและสามีเริ่มถอยห่างจากกันมาสักพักใหญ่ แต่ไม่สามารถระบุระยะเวลาได้ แต่ประเด็นหลักคือเราทั้งคู่ไม่มีเวลาให้กันเนื่องจากฝ่ายชายติดเกม ฝ่ายหญิงติดทำดีเพื่อสังคม และอดีตสามีรู้สึกว่าตนไม่ให้ความสนใจและใส่ใจกับเขาเท่าที่ควร

Advertisement

“เราก็ห่างกันเรื่อยๆ ต่างคนต่างทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ก็ไม่มีเวลาเจอกัน พอห่างกันเรื่อยๆ เลยกลายเป็นความรู้สึกว่าไม่มีเขาเราก็ดำเนินชีวิตได้ปกติ  ”

“ตอนที่มีข่าวเราร้องไห้ค่ะ แต่ว่าได้ไปแสวงบุญพอดี บอกล่วงหน้านานแล้ว แต่ก่อนไปเรานั่งร้องไห้ที่สนามบิน กลัวคนเห็นแต่ไม่ไหวแล้ว ยอมรับว่าอ่อนแอ ”

ทั้งนี้อดีตสามีขนของออกจากบ้านแล้ว และเมื่อเห็นสภาพบ้านที่ขาดอดีตสามี ก็ใจหาย มีน้ำตา แต่อย่างไรก็ตามตนไม่ขอยื้อการตัดสินใจของอดีตสามี เพราะไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าลูก

“ทุกวันนี้ยังคุยกัน ปรึกษากันเรื่องงาน แต่ว่าตอนนี้คงต้องมานั่งจัดการชีวิตกันใหม่”

“ยอมรับว่า เราผูกพันธ์กับคุณเอกนะคะ เพราะเราดูแลกันมา5 ปี อยู่กันมาขนาดนี้ เราก็รู้สึกผูกพันธ์ ”

ส่วนธุรกิจออกกำลังกายยังเป็นอดีตสามีดูแลเป็นหลัก แต่หากมีปัญหาในอนาคตตนตั้งใจจะยกให้อดีตสามีดูแลแต่เพียงผู้เดียว

“ไม่เสียดายนะ เพราะเราลงทุนน้อย  ”

ส่วนอนาคตจะกลับมาคืนดีกันหรือไม่ ตนไม่สามารถตอบได้ ไม่มีใครอยากให้ชีวิตคู่ล้มเหลว แต่วันนี้ไม่สามารถตอบไม่ได้ว่าจะกลับมาคุยกันไหม แต่ว่าตนยังมีความรู้สึกดีๆให้เขาอยู่ตลอด และสามารถพูดคุยและเป็นเพื่อนกันได้

ยอมรับว่าอดีตสามีมาง้อ แต่ตนกลัวว่าเส้นทางรักจะแยกทางเหมือนกันจึงระงับเรื่องนี้ไว้ก่อน

“เขาอยากขอคืนดี แต่เราถามกลับว่าแล้วทางออกจะทำอย่างไร เขาตอบไม่ได้ ทุกอย่างเลยไม่ได้เดินหน้าต่อ ถ้าวันหนึ่งเขาให้คำตอบนี้กับบุ๋มได้ ก็คงจะพิจารณาต่อค่ะ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่มี”

ตนยอมรับว่าลูกสาวคนเดียวคือกำลังใจที่ดีที่สุดในการดำเนินชีวิต แต่ตนโชคดีที่กลับมาเข้มแข็งได้อย่างรวดเร็ว

“เรารักลูกมาก ทุกวันนี้ใช้ความรักของลูกเป็นเครื่องนำทาง และจะบอกตัวเองเสมอว่าจะเข้มแข็งเพื่อลูกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”

ทั้งนี้เมื่อรักเก่าจบลง ตนยังไม่ขอเปิดใจรับใครเข้ามา เพราะเข็ดกับเรื่องความรัก

“ณ วันนี้ไม่กล้าคิดจะเปิดใจให้ใคร เพราะว่าเจ็บ เจ็บเหมือนกันค่ะ ยอมรับว่ามีคนมาจีบนะคะ แต่เราเข็ด เพราะเรารักใครรักมาก แต่เมื่อมันไม่เป็นดั่งหวังจึงกลัว อนาคตไม่ทราบ แต่ตอนนี้ขอใช้เวลาอยู่กับลูก”

“บุ๋ม อยากโชคดีทั้งงานและรักนะ ถ้าวันนี้ไม่ดีก็รีบเลิก เพราะไม่อยากเกลียดกัน ถ้าวันนี้ไม่ดีก็ถอย แต่วันนี้ขอรักตัวเอง ลูก และสังคมที่เรารัก”

“แต่องค์กรทำดีเราจะทำต่อ เพราะรู้สึกดีที่ได้ช่วยคน เรามีความสุข แต่ที่ผ่านมาอดีตสามีไม่ชอบแนวนี้ เขาไม่เคยไปลงพื้นที่กับเรา เราก็ไม่เคยว่าอะไร แต่เราก็ไม่เปลี่ยนตัวเองเพื่อเขา มันเลยเป็นการมองคนละมุม”

“บุ๋มขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ ขอบคุณครอบครัวของคุณเอก ขอบคุณคุณเอกด้วยนะคะ”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image