มีเรื่องราวให้พูดคุยไม่น้อย สำหรับ ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ ที่ล่าสุดเจ้าตัวมาเปิดใจเรื่องราวในอดีต รวมไปถึงเรื่องความรักที่ฝ่าฟันมาไม่น้อย ในรายการ Club Friday Show โดยเจ้าตัวได้เปิดใจถึงบทบาทความร้ายที่ในละครว่า บทบาทที่ได้เล่นนั้นมีส่วนคล้ายกับตัวตนจริงๆ แต่ว่าไม่ได้แรงหรือแซ่บตลอดเวลา แต่เวลาอยู่ใกล้คนสนิทเราก็จะมีความมุ้งมิ้งหน่อย
ถามว่าเป็นคนท้าตีท้าต่อยมั้ย “เป็นค่ะ คือหนูเป็นคนค่อนข้างชัดเจน หนูเป็นคนสู้คน เพราะว่าถ้าเราโดนตีมาเราก็จะตีกลับอะไรอย่างนี้ แต่ถ้าอยู่เฉยๆ ก็ไม่ยุ่งกับใคร ไม่เคยทำใครก่อน” ดิวว่า
กับเรื่องราวข่าวคราวหลายๆ ครั้ง จนได้ชื่อว่าเป็น นางร้ายมือตบ และหลายคนก็ตราหน้าว่าตนเป็นคนแบบนั้น ดิวก็บอกว่า
“คือคนเรามันเป็นยังไงไม่ได้หมายความว่าจะเป็นแบบนั้นเสมอไป คือคนเรามันเปลี่ยนกันได้ หนูเคยอยู่ในจุดที่นัดคนอื่นตบ แล้วหนูก็เคยอยู่ในจุดที่โดนคนอื่นตบ คนเรามันเปลี่ยนตามสถานการณ์และเวลาได้”
“เราอย่าตัดสินใครไปตลอด ควรให้โอกาสกัน”
ส่วนการที่หลายคนมองว่าเป็นโรคเสพติดศัลยกรรม เจ้าตัวก็ได้เผยว่า
“ทั้งหน้าดิวไม่เคยผ่าอะไรเลย ใช้มีดไม่เคย แต่ว่าใช้เข็มก็เรื่อยๆ หนูชอบฉีดค่ะ คือเราไม่ได้เสพติดแต่ว่าเราก็อยากสวยตลอดเวลาอยู่แล้ว อย่างตาก็ติดสติ๊กเกอร์ ส่วนจมูกก็ฟิลเลอร์”
กับเรื่องความรักครั้งแรกนั้น ดิวเล่าว่าเป็นเพราะอยากอยู่หอกับเพื่อนเลยเข้าโรงเรียนหญิงล้วน ตอน ม.4 เลยได้เจอกับทอมในโรงเรียนบ้าง ส่วนคนที่คบคือได้เจอกันจากการเขียนไดอารี่ รู้จักจากเป็นเพื่อนของเพื่อน และด้วยความเป็นที่คนดัง เน็ตไอดอลสายทอมดี้ในยุคนั้นทั้งคู่ก็ทำให้มีคนอยากเข้ามา
ก่อนจะเผยถึงความรักครั้งที่มีอุปสรรคมากที่สุด ที่ดิวถอนหายใจก่อนเล่าว่าเจอกันในที่ทำงาน ฝ่ายชายเข้ามาทำความรู้จักก่อน ที่ประทับใจคือเขาเป็นคนเก่ง ทำงานเก่ง และเป็นคนดี
“เป็นอุปสรรคเกี่ยวกับสิ่งรอบข้าง คนรอบตัว ที่มันหนักหน่วงมาก ตอนนั้นเครียดมากจนพอมาย้อนคิดเราเครียดเกินวัยไปไหมอะ”
“ด้วย ณ ตำแหน่งของเขาตอนนั้นและตัวดิวด้วยมั้ง อาจจะเป็นที่มุมมองของคนรอบตัวที่รู้สึกว่าอาจจะไม่ได้เหมาะสมกันขนาดนั้น”
ซึ่งความรักครั้งนี้ทำให้ตนได้พบอีกหนึ่งตรรกะว่า ความรักที่มีอุปสรรคเยอะๆ คู่นั้นจะยิ่งรักกันและจะยิ่งจับมือกันแน่น ยิ่งผูกพันกันมากเหลือเกิน แล้วพอจับมือกันแน่นก็แทบจะไม่ต้องพิสูจน์อะไรแล้ว
“ไม่ได้ถึงขั้นว่าต้องแอบเจอ แต่เปิดเผยมากไม่ได้ เพราะไม่อยากให้คนวงในรู้ เพราะคนรอบนอกเราใช้ชีวิตกันปกติเลย แต่คนวงในคือเราต้องรักษาความรู้สึกเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบใดๆ”
ทั้งยอมรับว่าเคยเครียดมากจนอาเจียนแถวบ้านฝ่ายชาย “คือเจอปุ๊ปเราอ้วกเลยอ่ะ แทนที่จะกลับเราอ้วกแตกเลยอะ”
“สมมุติเต็ม 10 นะ เขาไม่เห็นด้วยแบบ 20 เลยอ่ะ คือในละครไม่มีอ่ะ ยิ่งกว่าละคร คบกันมา 3 ปีค่ะ”
“ที่บ้านก็รับรู้ตลอด เพราะมีข่าวออกมา แต่พอถึงจุดนั้นเขาก็ให้การตัดสินใจเป็นของเรา แต่เราก็ไม่กล้าพูดเรื่องจริงกับที่บ้านเยอะว่าสิ่งที่เราเจอเป็นยังไง”
กอดคอกันร้องไห้บ่อย ทางครอบครัวของเราเข้าใจและสงสารเขา จนความรักครั้งนี้สิ้นสุดลงในข่วงที่ปีที่น้ำท่วมกรุงเทพฯ
“ดิวกลับบ้านที่สิงห์บุรี แล้วมีคำถามว่าทำไมเราต้องทนขนาดนั้นด้วย ในเมื่อที่บ้านเราต่อให้เป็นคนต่างจังหวัดแต่สบายมากเลยนะ ป๊าม้าทนุถนอมมาก แล้วในขณะเดียวกันกลับมากรุงเทพฯเราโดนแบบนั้นอ่ะ มันมีอะไรแบบนี้ในใจเราตลอดเวลา”
“แล้วเขาคงตัดสินใจว่า โอเคงั้นเราเลิกกันเถอะ เพราะว่ามันก็ไม่ค่อยได้เจอ ห่างๆ กันแล้ว เราก็เลยตกลงทันที”
“ก็รู้สึกดีใจ เหมือนปลดอะไรทุกอย่างออกไปเลย โทรไปหากุ๊บกิ๊บเพื่อนสนิท ก็มีน้ำตาคลอๆ เพราะว่าใจหาย แต่ดิวว่าดีใจนำอ่ะ เพราะเราเหนื่อยมากแล้ว”
กับความรักของแฟนที่บอกว่าดีที่สุด อย่าง ไผ่ วันพอยท์ นั้นดิวบอกว่ารู้จักกันมานาน จนวันที่เธอเลิกกับแฟนก็ได้พูดคุยกันมา 3-4 เดือนก่อนที่ไผ่จะขอคบแต่ก็ปฏิเสธไป เพราะอีกฝ่ายไม่ใช่สเปก ก่อนที่ไผ่จะขอคบอีกครั้งก็ยังปฏิเสธ จนครั้งที่ 3 ที่รู้สึกว่าถ้ายังไม่คบคือหายไปแน่ๆ
“ซึ่งเราคุยกันตลอดเวลา แล้วถ้าเขาต้องหายไปก็ทำใจไม่ได้ขนาดนั้น”
“คือก็มีใจแต่ยังไม่ได้คิดว่าคนนี้เนี่ยนะจะเป็นแฟนเรา คือติดที่ว่าดิวมีแฟนดูดีมาหมดเลยนะที่ผ่านมา คือเรายังเด็กแล้วยังไม่คิดว่าความรักมันคืออะไรขนาดนั้น”
จนถึงช่วงที่คบกันแล้วมีข่าวออกมาว่า ไผ่มีกิ๊ก ซึ่งดิวก็ยอมรับว่าตอนรู้ข่าวช็อกมาก และที่สำคัญกิ๊กคนนั้นของไผ่ตนก็เคยเจอมาก่อน ที่งานนึงผู้หญิงคนนั้นมากับเพื่อนของไผ่ ซึ่งตอนนั้นก็มีปัญหากันถึงขนาดที่บอกกับเพื่อนไผ่ว่า ถ้าไม่เอากลับไปจะตบแล้วนะ และพอมาย้อนคิดกลับไปก็คิดว่าวันนั้นเขาอาจจะพยายามแสดงตัวให้รู้
กับสถานะหัวใจของดิวตอนนี้ต้องไปฟังกันต่อที่คลิปนี้เลย
ขอบคุณภาพจาก CHANGE2561,duearisara
ติดตามข่าวบันเทิงไลฟ์สไตล์ กับ Line@มติชนนิวเจน
