คงไม่เกินเลยหากจะบอกว่ามีวงดนตรีเพียงไม่กี่วงในประเทศไทยที่จะสามารถจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวในสเกลใหญ่อย่างสนามราชมังคลากีฬาสถาน
เพราะนั่นหมายถึงฐานแฟนคลับของวงนั้นต้องเหนียวแน่นอย่างมาก และ Bodyslam หนึ่งในวงร็อคแถวหน้า ก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าแฟนเพลงที่สนับสนุนพวกเขานับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งวง และเติบโตมาด้วยกันเกือบสองทศวรรษยังคงรักวงดนตรีนี้ไม่เปลี่ยนแปลง
หนึ่งในบทพิสูจน์คือ ‘Bodyslam Fest วิชาตัวเบา’ ที่เพิ่งจบลงไปหมาดๆ
บัตรคอนเสิร์ตกว่าแสนใบที่ขายหมดภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังเปิดจำหน่ายในวันแรก แสดงให้เห็นถึงกระแสความนิยมที่ไม่เคยลดลงไป
Bodyslam คัดสรรเพลงจากเกือบทุกอัลบั้มมาเล่นในการแสดงครั้งนี้ถึง 34 เพลง เล่นสดกว่า 4 ชั่วโมง โดยเปิดเวทีด้วย ‘แสงสวรรค์’ ที่เคยใช้ประกอบภาพยนตร์สารคดี ‘2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว’ ที่พูดถึงเบื้องหลังการวิ่งตามฝันของตูน เสียงกรี๊ดก็ดังสนั่น Bodyslam ไม่ยอมปล่อยให้อารมณ์ของแฟนเพลงขาดตอน พวกเขาส่งเพลง ‘คราม’ ที่คนทั้งสนามกีฬาต่างร้องประสานเสียงกันได้อย่างพร้อมเพรียง ตามด้วยเพลง ‘เสี้ยววินาที, คนที่ถูกรัก’ และเพลงในอัลบั้มล่าสุดอย่าง ‘ใครคือเรา’ ที่มาพร้อมกับการแสดงเพอร์ฟอร์แมนซ์ประกอบเพลงอย่างยิ่งใหญ่ของนักแสดงกว่า 60 ชีวิต ก่อนปิดท้ายช่วงแรกด้วยเพลง ‘ท่านผู้ชม’ พร้อมพลุสว่างไสวหลังจบเพลง
วิธีการวางเพลง จะใช้แบบช้าเร็วสลับกัน หลังกระโดดกันจนหอบ ก็จะเข้าสู่โหมดเพลงช้า เริ่มจาก ‘เปราะบาง’ และ ‘เตรียมตัวตาย’ ก่อนจะเปลี่ยนโหมดด้วยเพลงจังหวะมันส์ๆ ในอัลบั้มใหม่อย่าง ‘ไม่แก่ตาย’ ที่ feat. กับ โจอี้ บอย ซึ่งมาเป็นแขกรับเชิญในคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วย การปรากฏตัวของโจอี้ บอย พร้อมเสื้อคลุมเวอร์ซาเช่โชว์ซิกแพคก็เรียกเสียงเฮสนั่นจากแฟนทั่วสนาม
ทั้งคู่ไปต่อด้วยเพลง ‘ความเชื่อ’ ที่ต่างรับส่งกันทั้งในท่อนร้องและท่อนแร็พที่แต่งขึ้นมาใหม่ได้อย่างลงตัวหลังจากพาแฟนเพลงกระโดดกันจนเหงื่อท่วมแล้ว ก็เข้าสู่โหมดเพลงช้า คนนับแสนในสนามร้องตามได้ทุกเพลง
เมื่ออินโทรเพลง ‘นิรันดร์’ ดังขึ้น เสียงเฮก็ตามมาไม่หยุด เพราะ ปาล์มมี่ ปรากฏตัวขึ้นในชุดขาวพร้อมกับท่อนฮุคของเธอ ต่อด้วยเพลง ’คิดฮอด’ ที่มาพร้อมกับแดนเซอร์ในชุดสีสันฉูดฉาด และยิ่งทำให้แฟนเพลงประทับใจเข้าไปอีก เมื่อปาล์มมี่ร้องสำเนียงอิสานได้ดีเยี่ยมไม่แพ้ต้นฉบับอย่าง ศิริพร อำไพพงษ์ เลย
ความยิ่งใหญ่ของคอนเสิร์ตครั้งนี้ ไม่เพียงแค่การทุ่มสุดตัวของวง Bodyslam และทีมงานเบื้องหลังเท่านั้น แต่ลูกเล่นทางดนตรี อย่างการร่วมบรรเลงกับวงออเคสตร้า รวมทั้งการให้ความสำคัญกับฉาก วีทีอาร์ที่บอกเล่าเรื่องราวและอารมณ์ของแต่ละเพลง อาทิ ทางกลับบ้าน, ปลายทาง, ไม่รู้เมื่อไหร่, สักวันฉันจะดีพอ, วิชาตัวเบา,ยาพิษ, อกหัก รวมถึงการเซอร์ไพรส์ระหว่างทางทั้งพลุไฟ การปล่อยลูกโป่ง หรือชวนแฟนเพลงใช้แสงไฟจากโทรศัพท์มือถือเล่นเวฟในเพลง ‘ชีวิตยังคงสวยงาม’ ทำให้ทั้งสนามราชมังคลาฯกลายเป็นทะเลดาวที่งดงามที่สุดในค่ำคืนนั้น
สำหรับแฟนเพลงแล้ว ‘Bodyslam Fest วิชาตัวเบา ’น่าจะเป็นหนึ่งในคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดและติดอยู่ในความทรงจำของคนที่ได้สัมผัสบรรยากาศนั้นไปอีกนาน
แม้แสงพลุสุดท้าย ในเพลง ‘แสงสุดท้าย’ ที่ปิดท้ายคอนเสิร์ต จะลาลับไปจากท้องฟ้าแล้วก็ตาม
