ผู้เขียน | [email protected] |
---|
นอกจาก “เล่นหนัง” ดาราฮอลลีวู้ดหลายคนยัง “เล่นการเมือง” ด้วย ในบทบาทผู้สนับสนุนหาเสียง หาเงินทุนให้แก่นักการเมืองที่ตนชื่นชอบในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งในศึกครั้งนี้ก็มีดาราดังหลาย
คนได้ประกาศตัว “เลือกข้าง” เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าจะสนับสนุนนักการเมืองคนไหน ระหว่างนางฮิลลารี่ คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งทั้งสองกำลังอยู่ระหว่างกรำศึกหาเสียงเพื่อให้ได้เป็นตัวแทนพรรคในการลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้
ทั้งนี้จากรายงานข่าวของเอเอฟพีเล่าว่า ตอนนี้คนที่ประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าอยู่ “ทีมฮิลลารี่” มีพระเอกดังเบน แอฟเฟล็ก, จอร์จ คลูนีย์ ยังมีสตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้กำกับดัง แล้วยังนักร้องดังระดับตำนานอย่างบาร์บร่า สตรัยแซนด์ และสติง
ส่วน “ทีมโดนัลด์ ทรัมป์” ส่วนใหญ่จะได้ลูกทีมเป็นนักกีฬาดัง อย่างเช่น ไมค์ ไทสัน นักมวย และฮัลค์ โฮแกน นักมวยปล้ำ ส่วนดาราดังระดับเอลิสต์ของฮอลลีวู้ดแทบไม่มีใครประกาศตัวอยู่ข้างทรัมป์เลย
ในรายงานข่าวอ้างสตีฟ รอส อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.แคลิฟอร์เนีย พูดถึงพลังสำคัญของดาราฮอลลีวู้ดว่า “ก็คือสามารถดึงดูดความสนใจให้แก่ตัวผู้สมัคร อย่างที่ไม่มีวงการไหนสามารถทำได้” ดูอย่างเมื่อคราวศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2551 ซึ่งมีผลการศึกษาจาก ม.แมรีแลนด์ พบว่าการที่โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรดังได้พูดชื่นชมบารัค โอบามา ระหว่างการเลือกตั้งขั้นต้น สามารถดึงคะแนนเสียงให้แก่บารัค โอบามา ซึ่งตอนนั้นเป็นผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตได้ถึง 1,000,000 คะแนนเสียง
แต่หากจะดูกันที่เม็ดเงิน มีผลสำรวจจากศูนย์ตอบสนองทางการเมือง พบว่า ณ ตอนนี้มีเม็ดเงินที่มาจากเหล่าดารา นักแสดง ไหลเข้าสู่วงจรการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ปี 2559 เป็นเงินราว 27 ล้านดอลลาร์ (ราว 955.8 ล้านบาท) ซึ่งเกือบ 3 ใน 4 ของเงินจำนวนนี้น่าจะไหลเข้าสู่พรรคเดโมแครต
ซาราห์ ไบร์เนอร์ ผู้อำนวยการศูนย์ตอบสนองทางการเมืองให้ความเห็นว่า แม้ดารานักแสดงจะหาเงินทุนเพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งให้แก่พรรคการเมืองได้ไม่มากเท่าวงการตลาดหุ้นวอลสตรีทที่สามารถอัดเม็ดเงินที่ต้องใช้ในการรณรงค์หาเสียงเกือบ 231 ล้านดอลลาร์ (ราว 8,177 ล้านบาท) แต่สิ่งที่เหล่าศิลปินดาราหาได้มากกว่าเงินก็คือความมีตัวตนของพวกเขา
“ดังนั้นเมื่อคุณได้รับการสนับสนุนจากศิลปินดังอย่างบียอนเซ่ หรือจอร์จ คลูนีย์ นั่นจะเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของคุณ”
อย่างไรก็ตาม สตีฟ รอส อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ ม.แคลิฟอร์เนีย ให้ความเห็นว่า ใช่ว่าดาราทุกคนจะสามารถช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้แก่ผู้ลงสมัคร แถมดาราบางคนอาจเป็นผลเสียด้วยซ้ำ
“อย่างเช่นเมล กิ๊บสัน ซึ่งผมไม่คิดว่า ณ วันนี้มีใครอยากจะได้รับเสียงสนับสนุนจากเขา”
รอสยังพูดถึงสิ่งที่เหล่าดาราหวังจะได้รับจากนักการเมืองเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนก็คือ “พวกเขาไม่อายที่จะคิดว่า พวกเขาสามารถมีอิทธิพลในการกำหนดวาระ หัวข้อต่างๆ ให้นักการเมืองผลักดัน ใครก็ตามอย่าประมาทความมีอีโก้ ความหลงตนของคนในวงการฮอลลีวู้ดเป็นอันขาด เมื่อพวกนี้หาเงินในการหาเสียงได้เป็นตัวเลข 6 หลัก หรือมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ เขาก็หวังว่าจะต้องสามารถพูดกับประธานาธิบดีได้ หรือประธานาธิบดีจะต้องโทรศัพท์กลับหาเขา”