ความฝัน-เรื่องน่าเศร้าแต่ยังโอเค ของ 2 ไอดอลสาว มิวสิค-เจนนิษฐ์ BNK48

ภาพจาก @BNK48

2 ไอดอลสาว จากวง BNK48 เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ และ มิวสิค แพรวา สุธรรมพงษ์ นั้น ตอนนี้กำลังจะมีผลงานใหม่ โดยรับหน้าที่เป็นนักแสดงนำในภาพยนตร์ “Where we belong” ภายใต้การอำนวยการสร้างของ บริษัท บีเอ็นเค 48 ออฟฟิศ จำกัด เขียนบทและกำกับ โดย คงเดช จาตุรันต์รัศมี โดยเจนนิษฐ์นั้นแม้จะเคยผ่านการแสดงมาบ้างแล้ว แต่กระนั้นเจ้าตัวก็บอกว่า ต้องเข้าคลาสเรียนการแสดงอีกครั้ง

ส่วนมิวสิคซึ่งเป็นมือใหม่ในเรื่องของการแสดงก็ยอมรับว่ามีความกังวลไม่น้อยในช่วงแรก แต่ตอนนี้ก็เริ่มเบาใจขึ้นเยอะ

มิวสิค แพรวา

“พอได้เข้าคลาสก็มีการปรับตัว แล้วยิ่งมีเจนนิษฐ์อยู่ด้วย ก็ยิ่งเบาใจเยอะเลย” มิวสิคว่า

ขณะเจนนิษฐ์ขอเสริม โดยเล่าถึงตอนคัดเลือกตัวแสดงว่า ได้มีการให้ลองจับคู่คนโน้นคนนี้เข้าด้วยกัน ซึ่งพอเธอจับเข้ากับมิวสิค หลายคนก็มีความเห็นว่าลงตัวเป็นอย่างมาก

Advertisement

“พอมาได้เล่นด้วยกันมันมีความสบายใจแล้วก็เครียดน้อยลงค่ะ ด้วยความที่สนิทกันอยู่แล้ว

“จริงๆ สิคกับเจนนิษฐ์ก็เจอกันแทบจะทุกวัน เลยไม่มีอะไรที่ต้องพยายามจูน” มิวสิคกล่าว

ดังนั้นเรื่องเดียวที่ยังห่วง คือห่วงเรื่องการแสดงมากกว่า เพราะมีในฉากที่เป็นดราม่า หรือที่มิวสิคเรียกว่า “ฉากที่ต้องใช้ความรู้สึก” ไม่น้อย

Advertisement

“ต้องทำความเข้าใจกับบทมาก เพราะว่าตอนนี้เราอาจจะเป็นมิวสิค แต่เวลาเราเข้าฉากเราคือเบล ก็ต้องทำความเข้าใจกับเบลว่า บางทีมันก็ไม่ใช่บทเศร้าอย่างเดียว บางทีมันอาจจะมีความหมายลึกซึ้งกว่านั้นก็ได้”

ด้านเจนนิษฐ์ก็เผยถึงบท “ซู” ให้ฟังว่า ตัวละครตัวนี้นิสัยคล้ายกับตนเองไม่น้อย “ซูเป็นคนคิดเยอะ มีเรื่องอะไรในหัวเยอะตลอดเวลา” นี่คือความคล้าย

เจนนิษฐ์

“ส่วนที่ต่างกันก็น่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ที่ไม่พูดกัน หรือมีกำแพงบางอย่างในครอบครัว แต่สำหรับที่บ้านเราก็จะเลี้ยงเหมือนเพื่อนค่ะ”

หากถามถึงส่วนที่ยากในการแสดงครั้งนี้ เจนนิษฐ์ ผู้ซึ่งเคยมีชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม รางวัลสุพรรณหงส์ มาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ บอกว่า

“ที่ยากไม่ใช่บท หรือการที่แต่ละซีนมันต่างกัน” แต่เป็นการที่ “เราจะต้องรีเฟรซตัวเองเวลาที่เราทำงานเสร็จแล้วต้องมาเข้าบทเลย

“สมมุติวันนี้ถ่ายหนัง อีกวันต้องไปงานต่อก็ต้องปรับสวิตช์ตัวเองให้ได้ ไม่ได้แบบว่าจมอยู่กับบท ก็ต้องพยายามทำให้ตัวเองหายเหนื่อยด้วย เพื่อที่จะได้เข้าไปอินกับบทบาท”

ขณะที่มิวสิคบอกว่า “ก็อาจจะต้องแบ่งเวลาให้มากขึ้น”

หากถามถึงงานแสดงว่าชื่นชอบมากแค่ไหน มิวสิคออกตัวว่า เธอเองเพิ่งจะเริ่มจึงอาจตอบได้ไม่ชัด ต่างจากอีกหนึ่งสาวโดยสิ้นเชิง เพราะเจนนิษฐ์บอกทันที “ชอบการแสดงค่ะ

“มีความฝันที่อยากเป็นนักแสดง”

แถมอยากเก่งเหมือน หมิว ลลิตา ปัญโญภาส นักแสดงไอดอลในดวงใจ “อยากเป็นแบบเขา ที่สื่ออารมณ์จากตัวละคร จนทำให้เราอินมากๆ ได้ค่ะ”

ในทางหนึ่ง แม้ทั้งคู่จะสามารถประสบความสำเร็จได้ ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น แต่กระนั้นด้วยความสำเร็จที่ว่า มิวสิค ในวัย 17 ปี ก็บอกว่า นั่นต้องแลกมากับการทำงานหนัก และก็อาจจะสูญเสียบางอย่างในชีวิตวัยรุ่นที่ควรจะได้รับ เช่น การเที่ยวเล่น เฮฮา ปาร์ตี้กับเพื่อน หรือแม้แต่ต้องเปลี่ยนระบบการเรียนเป็นการสอบเทียบเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยแทน

“มันก็อาจจะเป็นสิ่งที่น่าเศร้าสำหรับตัวเองนะคะ” บอกพลางหัวเราะ

แต่กระนั้นก็บอกต่อมาทันทีว่า อย่างไรก็ดี “ก็ยังมีเพื่อนๆ ในวงที่ทดแทนในจุดนี้”

ขณะเดียวกัน แม้จะขาดในจุดนั้น แต่ที่ได้ทดแทนกลับมาก็ล้ำค่าอยู่ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้เรียนรู้ และทำให้เติบโตขึ้น

“สำหรับวัยรุ่นบางคนตอนนี้เขาอาจจะมีช่วงเวลาที่เรียน หรือตั้งใจสอบ แต่คิดว่าประสบการณ์แบบนี้ที่เราได้มา ก็ทำให้เราสามารถทำในสิ่งที่เราชอบ”

แถมไม่ใช่แค่เฉพาะในวงการบันเทิง อย่างที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้ด้วยซ้ำ

“บางคนอาจจะชอบศิลปะ บางคนชอบวิทยาศาสตร์ ก็สามารถนำไปปรับใช้ในสิ่งที่เขาถนัดได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่เสมอไป ประสบการณ์อาจจะแตกต่างกัน แต่เชื่อว่าจะทำสามารถเดินไปตามทางที่เต้องการได้อยู่แล้ว”

สำหรับเจนนิษฐ์ ในวัย 18 ปี มองว่า “การใช้ชีวิตอยู่กับเมมเบอร์ใน BNK ก็สามารถทดแทนชีวิตวัยรุ่นที่อาจจะไม่ได้ไปโรงเรียนหรือว่าไม่ได้จบ ม.6 พร้อมกับเพื่อนๆ”

ซึ่งนั่นไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรขาดหายไป

“เราสนุกกับสิ่งที่ทำอยู่ด้วยค่ะ

“ก็เลยโอเค”

 

ขอบคุณภาพจาก BNK48

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image