ละครโทรทัศน์เรื่องกรงกรรม ที่จะอวสานในวันที่ 30 เม.ย.นั้น กำลังได้รับความนิยมสุดๆในทุกด้านโดยเฉพาะเรื่องบทโทรทัศน์งานนี้มติชนออนไลน์จึงขอสัมภาษณ์พูดคุยกับ ยุ่น ยิ่งยศ ปัญญา ผู้เขียนบทละครโทรทัศน์กล่าวถึงกระแสที่ดีครั้งนี้มาว่า
“ขอบคุณมากนะครับ ตัวผมเองเป็นคนไม่ได้ติดตามเล่นโซเชี่ยลแต่มีคนรอบข้างชื่นชม ผมเองก็ขอบคุณมาก”
ในฐานะคนเขียนบท ยิ่งยศ บอกว่า ในความเห็นของเขา การที่ละครเรื่อง กรงกรรม ประสบความสำเร็จอย่างนี้ เป็นเพราะหลักๆ จุฬามณี (นิพนธ์ เที่ยงธรรม)ผู้ประพันธ์นวนิยายเรื่องนี้เขียนถึงแก่นเรื่องนี้ไว้ดีมาก ตนจึงเพียงทำความเข้าใจในหน้าที่ของละคร และทำความรู้จักกับทุกชีวิตที่กำเนิดจากปลายปากกาของจุฬามณี ทั้งยังหาแก่นของเรื่อง การสร้างความขัดแย้งให้ตัวละคร และหาจุดพีคในเหตุการณ์ที่จะถ่ายทอดสู่ผู้ชม
ยิ่งยศ บุคคลที่มีกระแสพูดถึงไม่แพ้นักแสดงในละครเรื่องดังกล่าวเล่าต่ออีกว่า หากย้อนไปถึงวันแรกที่ได้รับโจทย์ให้เขียนบทโทรทัศน์เรื่องนี้ สิ่งที่เขาก็คือให้เวลาตัวเองในการอ่านนวนิยายเพื่อความเข้าใจและการกระจ่างในความคิดของตัวละครในระยะเวลา 2-4 สัปดาห์
” มันก็จะใช้เวลาตกตะกอนที่จะเรียบเรียง ทุกสิ่งทุกอย่าง ตามไทม์ไลน์ เสร็จแล้วก็ทำความรู้จักกับตัวละครอย่างทะลุปรุโปร่ง และทำความเข้าใจกับบริบทสังคม เหตุการณ์นี้ไม่มีความจำเป็นก็ตัดออก แก้ไข นำมายุบรวมกับอีกเหตุการณ์ หรือบางเหตุการณ์ไม่มีความแข็งแรงพอ ที่จะไต่ไปสู่จุดไคลแม็ก ก็อาจจะมีการเพิ่มเติมหรืออะไรต่ออะไร”
หรือในบางเหตุการณ์อาจจะมีคำพูดหรือซีนปรากฎขึ้นมาในหัวเราเองเช่นฉากที่พิไล (แพร พิชชาภา) เผาหนังสือของสามีที่ชื่ออาตง (แชมป์ ชนาธิป)
” อันนี้มันขึ้นในหัวเราเลย เพราะเราต้องเล่าว่าคนเป็นเมียจะทำลายผัวโดยการทำร้ายของที่ผัวรักที่สุด นั้นคือเผาหนังสือ สิ่งนี้ผุดขึ้นในหัวเองเลย”
หลังจากที่เขาทำความรู้จักทุกตัวละครในหนังสือแล้วนั้น สิ่งที่ตามมาคือการจัดลำดับความสำคัญของแต่ละบุคคลว่าใครควรมีหน้าที่อย่างไร ขณะเดียวกันเขาก็ได้แจงที่ตัวละครทุกคนในละครเรื่องนี้ อาทิ ย้อย เรณู พิไล อาซา จันตา แสดงได้อย่างตรงใจคนนั้นเพราะว่า ยิ่งยศใส่ความเป็นคนในละครอย่างเต็มเปี่ยม
“ในกรงกรรมผู้ประพันธ์เขาเขียนให้ตัวละครเป็นคนหมด ทกคนต่างก็เป็นพระเอกนางเอกในตัวของตัวเองทุกคน เรามีหน้าที่มองตัวละครทุกตัวอย่างชัดเจนในฐานะที่มันเป็นมนุษย์ ในความเป็นจริง ไม่มีใครคิดว่าตัวเราเป็นผู้ร้ายหรอกครับ”
“เพราะฉะนั้นหมายความว่า ทุกคนต่างเป็นพระเอกนางเอกในเรื่องราวของตัวเอง เรามีตัวตน เราได้ตัดสินใจกระทำในสิ่งที่ตัวละครมันคิดว่านี่คือถูกต้องที่สุดแล้ว”
เพราะฉะนั้นจึงหมายความว่าตัวละครแต่ละตัวมันก็มีชีวิตของมัน มันจึงเป็นการถ่ายทอดแบบเรียลสิลติก สมจริง ทุกอย่างที่ปราฏฎในฉากมันมีตัวตนของมันจริงๆ