แม้จะมีงานในต่างประเทศอยู่ตลอด แต่ แอน มิตรชัย ก็ไม่เคยทิ้งลิเก แถมในช่วงหลังยังพยายามขยับขยายทำโปรเจ็กต์ใหญ่อย่าง “ลิเกธรรมประวัติ” เรื่อง “อชาติศัตรู” รวมถึงลิเกเดอะมิวสิคัล เรื่อง “อัมราปาลี”
“ความฝันของแอน คือการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยแขนงลิเกให้ต่อยอดพัฒนาไปในยุคกึ่งกลางพุทธกาล และลิเกจะไม่ล้าสมัย ไม่เสื่อม เพราะยังคงขนบความถูกต้องของลิเกในยุคเก่าโดยยังดำเนินโดยราชนิเกลิง และทันยุคทันสมัยผสมผสานโชว์สากลในรูปแบบเดอะมิวสิคัลอย่างลงตัว” เธอบอก
ขณะเดียวกันก็มีแผนจะสร้างทายาทลิเกที่เป็นเอกลักษณ์ของมิตรชัยขึ้นมา
“อยากจะทำให้การแสดงลิเกเป็นสิ่งสวยงามและยืนหยัดความเป็นไทยอย่างถูกต้อง โดยไม่ต้องอาศัยกระแสความหวือหวา วาบหวิว ที่ค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาแบบไม่รู้ตัว อยากจะให้ลิเกไม่หลงทิศบิดเบือนไปตามกระแส สุดท้ายเอกลักษณ์เหล่านี้ก็จะถูกกลืนไปจนหมดสิ้น”
ทั้งนี้ แอนบอกว่า ในปัจจุบันเริ่มเห็นลิเกที่แต่งตัววาบหวิวแล้วบ้าง
“แต่ก็ยังอยู่ในจุดที่รับได้นะคะ คือไม่ได้แต่งจนดูน่าเกลียดมากมาย ถ้าจะมีที่ดูล่อแหลม ส่วนมากจะเป็นนางโกง ที่บทบาทเป็นดาวยั่ว เพื่อเพิ่มสีสันให้คนดูสนุก”
“ปัจจุบันยังไม่ถือว่ามากเกินไป”
“แต่ที่จะแตกต่างกันคงเป็นเรื่องของภาษาพูด ภาษากาย ที่บางทีดูหยาบและส่อไปในทางล่อแหลม เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับบุคคล บางทีคำพูดเดียวกัน เล่นยั่ว เพลงเดียวกัน แต่คนนึงเล่นแล้วขำ ไม่หยาบเลย อีกคนเล่นแล้วดูหยาบ ไม่ขำเลย ถึงขนาดดึงให้ชื่อคณะดูตกต่ำ”
อย่างไรก็ดี แอนบอกว่า คณะมิตรชัยไม่ได้มีการแสดงในเชิงแบบนี้อยู่เลย
“เพราะเรายึดถือกฎระเบียบแบบแผนจากครูบาอาจารย์มาอย่างระมัดระวังอยู่แล้วค่ะ” ว่าอย่างนั้น