หลังจากที่ออกมาตอบโต้กันทั้งสองฝ่าย สำหรับกรณีที่ครูเพลง ชลธี ธารทอง ศิลปินแห่งชาติ พร้อมด้วย เกด สาวคนสนิทได้ออกมาเปิดใจเมื่อวานนี้ (19 พ.ค.) และทางด้านของภรรยา ครูปุ้ม ศศิวิมล ทองมา ก็เช่นกันที่เผยทั้งน้ำตาถามกลับว่าฟ้องหย่าเพราะเหตุใด ทั้งนี้ เมื่อได้พูดคุยกับ แนน ชลาลัย ทองมา ลูกสาวคนเล็ก ของครูชลธีนั้น เธอก็ได้เปิดใจมาว่า
ก็ติดตามข่าวที่เกิดขี้นตลอด ความรู้สึกแรกก็เสียใจ ที่มันออกมาแบบนี้ให้ทุกคนเห็นและกระแสสังคมตีกลับ และแนนเองก็ติดต่อคุณพ่อไม่ได้เลยตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ขึ้น พยายามติดต่อ เตือนมาตลอด และรับทราบมาตลอดว่าผู้หญิงคนนี้เข้ามาในชีวิตของคุณพ่อและมีความสัมพันธ์อะไรอย่างไง แนนไม่ขอลงรายละเอียด แต่ก็เตือนมาตลอด บางทีแกก็รู้สึกตัว เหมือนจะกลับมาแหละ แต่ก็กลับไปอีก สุดท้ายแล้วติดต่อไม่ได้เลย และแนนมั่นใจว่าคุณพ่อเอง ท่านไม่ใช่คนไฮเทคโนโลยีหรอก ซึ่งการที่รูปออกมาในโซเชียล หรือในการตัดขาดจากลูก แนนมั่นใจว่าเป็นคนข้างๆ เป็นคนทำ มีคนบล็อกเบอร์เรา ล่าสุดโทรหาเหมือนสายไม่ว่าง มีการตัดสายทิ้ง โทรเบอร์นี้ไม่ติดเลย ตั้งแต่วันเกิดแนนปีที่แล้ววันที่ 13 พ.ค. แนนพยายามโทรหาตลอด เป็นห่วงสุขภาพ ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้คุยกับคุณพ่อเลย
วันนี้เราเป็นห่วงสุขภาพคุณพ่อ เป็นห่วงสภาพจิตใจ อย่างเมื่อวานดูข่าวที่คุณพ่อให้สัมภาษณ์ ท่านเปลี่ยนไปเยอะมาก ปกติเป็นคนน่ารักมาก เป็นคนเฟรนด์ลี่ เป็นคนที่มีแต่ให้กับคนรอบข้าง แต่พอช่วงหลังๆ แกปิดตัวเองไปเยอะ ไม่ฟังใครเลย
ก่อนหน้านี้แนนเคยคุยกับเขาทีนึงคนที่ชื่อน้องเกด เรื่องของการพยายามสร้างตัวเองให้มีตัวตน พยายามให้ทุกคนเห็นว่าตัวเองอยู่กับคุณพ่อตลอดเวลา แนนพยายามห้ามเขาแล้วว่าอย่าทำแบบนี้ เอาจริงๆ แนนก็รู้ว่าคุณพ่อเราเป็นคนยังไง แต่นั่นคือความสุขของแก เราก็ไม่ได้อะไรมาก เราก็ไม่เคยห้ามแก แต่ในเมื่อมันล้ำเส้นออกมาแล้ว แนนเคยเตือนเกดแล้วว่าอย่าทำแบบนี้ เขาก็บอกว่าเขาบริสุทธิ์ใจ เขาแค่อยากจะเสนอผลงานของคุณพ่อเท่านั้น แนนเลยบอกว่ามันไม่จำเป็นต้องเสนอเพราะผลงานคุณพ่อเป็นที่รู้จัก มีชื่อเสียงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องมาออกสื่อโซเชียลหรอก และพอเข้าไปในเฟซแล้ว ไม่เห็นเน้นในเรื่องผลงาน แต่เหมือนเขาพยายามออกมาแสดงว่าเขามีตัวตนอยู่ ณ จุดนี้ ซึ่งมันดูคัดค้านกับสิ่งที่เขาบอกตอนแรก ซึ่งเรามองไม่เห็นเลย
อยากฝากถึงคุณพ่อ ว่าลูกยังใช้เบอร์เดิมและไลน์เดิมนะ ลูกพร้อมจะรับฟังและเข้าไปหาคุณพ่อเสมอ ตอนนี้เป็นห่วงแกที่สุด เราไม่ได้โกรธท่าน เพราะยังไงท่านก็คือคุณพ่อเรา แต่ตอนนี้แนนเป็นห่วงท่านที่สุด คือเมื่อก่อนมีอะไร แกก็จะโทรหาเราตลอด แม้แนนจะไม่อยู่เมืองกาญจน์ บางทีท่านก็ขับรถมาหาเราที่บ้าน แนนไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ติดต่อเรา เราเป็นลูกนะ ส่วนคนที่อยู่รอบข้างพ่อตอนนี้ แนนอยากจะบอกว่าของแบบนี้อยู่ที่จิตสำนึกคน แนนว่าห้ามได้หรือไม่ได้ไม่รู้เขาจะเชื่อไหม แต่เราก็อยากให้เขาหยุด จริงๆ ควรหยุดตั้งนานได้แล้ว และถ้าเกิดคุณยังไม่หยุด คุณก็ต้องรับผลที่คุณก่อไว้แล้วกัน
