“ดีใจมากค่ะ ภูมิใจที่ทุกอย่างที่ทำมาสำเร็จ เพราะเราพยายามตั้งแต่วันแรกจริงๆ”
“ทุกวินาทีที่ทำ ก็เพื่อมาถึงจุดๆนี้” ติช่า-กันติชา ชุมมะ เจ้าของตำแหน่ง เดอะ เฟซ ไทยแลนด์ ซีซั่น 2 เผยความรู้สึกด้วยเสียงแจ่มใส
ก่อนย้อนเล่าว่า ตอนแรกเธอซึ่งพักอาศัยในประเทศสวีเดนไม่ได้มีความคิดสักนิดที่จะเข้าประกวด แต่เพื่อนซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-อิตาลี ที่รู้จักรายการนี้เชียร์
“เขาเคยอยู่ภูเก็ต แล้วมาบอกว่ายูไปดูเดอะ เฟซ นะ มันส์มากเลย มันมีดราม่า มันสนุกมาก”
และพอลองติดตาม ก็เห็นด้วย
จากนั้นเพื่อนก็รุกอีกครั้ง ด้วยการบอกว่า “ติช่า ทำไมยูไม่ไปลองล่ะ”
“หนูก็แบบจะบ้าเหรอ คือเราไม่ได้อยู่ในประเทศไทยด้วยซ้ำ ไม่รู้จะได้กลับไปตอนไหน” คนที่เคยมีงานถ่ายแบบที่อยู่สวีเดนบ้างเล่า
“แต่พอดูไปดูมาก็น่าสนใจ”
“คิดว่าเดอะ เฟซ เป็นอะไรที่เข้ากับติช่า ได้โชว์ความเป็นตัวเอง ได้พูด ได้ทำอะไรท้าทาย แล้วมันไม่ได้ต้องการแค่คนสวย เพราะถ้าหาแค่คนสวยก็หาวันเดียวได้ ไม่ต้องถึงขนาด 13 สัปดาห์”
จึงตัดสินใจว่าพอจบไฮสคูลก็จะดร็อปเรียนสักปีมาลอง พอขอแม่ แม่อนุญาต เธอก็จองตั๋วเครื่องบิน
“เป็นความคิดที่บ้าๆ แต่ก็ทำค่ะ” ว่าพลางหัวเราะร่วน
สำหรับความรู้สึกบนเวทีรอบไฟนอล วอล์ค นั้น สาวน้อยวัย 20 ปีบอกว่า “ตอนนั้นคิดว่าใครก็ได้ ทุกคนมีสิทธิ มะปราง(จุติพร อรุณโชติ) ก็เก่ง ชนะแคมเปญใต้น้ำ เป็นคนที่หรูและแพง จิน่า(วิรายา ภัทรโชคชัย) ก็เป็นตัวท็อปตลอด ไม่เคยเพอร์ฟอร์มแย่ มีคาแรคเตอร์แข็งแรง กวาง (วรรณปิยะ ออมสินนพกุล) ก็เป็นที่น่าชื่นชอบ มีแฟนเบสที่ใหญ่มาก แล้วเก่ง เป็นเจ้าแม่มาสเตอร์คลาส”
“ทุกคนมาอยู่จุดนี้ได้ ก็เจ๋ง”
ดังนั้น “เธอก็เป็นได้ ฉันก็เป็นได้ เรา 4 คน ใครเป็นก็ได้”
หากกระนั้น”ในใจก็คิดว่าเรียกชื่อฉันๆ” เล่าพลางหัวเราะเสียงดัง
“แต่ก็เคยบอกไปแล้ว ว่าถ้าเกิดคนอื่นได้ จะยืนปรบมือให้” คราวนี้เสียงที่พูดฟังดูจริงจัง
เมื่อถามว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ชนะ?
ติช่าตอบทันที “คิดว่ามีหลายส่วน แต่หนึ่งในนั้นคือคาแรคเตอร์”
“แต่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่” คนสวยออกตัว
“คือคิดว่าที่ทำมาไม่ได้แย่ มีบางวันที่ชนะ บางวันที่รองลงมา แต่ไม่ได้ห่วยแตกที่สุด เพราะเราพยายามรักษาคุณภาพ เพอร์ฟอร์มก็ค่อนข้างเด่น แล้วตามหลักของเดอะ เฟซ ไม่ได้หาแค่สวย เขาต้องการคนที่รอบด้าน ต้องการหาคาแรคเตอร์เฉพาะ หาคนมีความคิด คนมีความพยายาม คนที่สามารถพัฒนาตัวเองได้ในแต่ละวีค”
“ถ้าเกิดมาแล้วเก่งที่สุด ก็ไม่ได้ ต้องเป็นคนที่สามารถฟังได้”
“ช่ามีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน ตั้งแต่วีคแรกๆคนจะรู้ว่าติช่าคือใคร แล้วเป็นคนที่ทำสีสันให้โชว์”
“ที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือเป็นคนมีทัศนคติที่ดี เป็นอินสไปเรชั่นให้คนอื่น คนจะเห็นว่ามาเดอะ เฟซ ไทยแลนด์ ไม่ต้องสูงที่สุด เพราะเรายังเตี้ยที่สุดในเดอะ เฟซ”
“ไม่ต้องสวยที่สุด เพราะการเป็นเดอะ เฟซ มากกว่าแค่หน้าสวย แล้วเขาคงเห็นความพยายาม เพราะเราใส่ใจลงไปในสิ่งที่ทำ แล้วมันเป็นตัวอย่างที่ดีให้คนที่จะมาในปีอื่นๆ หรือในการดำรงชีวิตทั่วไป”
“บางคนอาจคิดว่า ฉันไม่มีวันทำอะไรได้ในชีวิตนี้ เพราะฉันไม่ดีพอ แต่เฮ้ย! ติช่ายังทำได้เลย มันไม่ได้สูงส่ง แต่มันมั่นใจ มันสู้ มันอดทน”
แล้วสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ
แต่ในอีกทาง จากฝั่งของคนไม่เห็นด้วย ไม่เห็นชอบกับการที่เธอคว้าตำแหน่งนี้ไป “ไม่เป็นไร”บอกชัดๆ
“คือรู้ว่ามี แต่ไม่อ่าน และคิดว่าถึงคนอื่นได้ก็ต้องมีคนที่คิดว่าคนนี้ไม่สมควรได้”
พูดง่ายๆคือไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ต้องโดน เพราะธรรมชาติของมนุษย์ “เมื่อมีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด” ว่าพลางยกตัวอย่างที่เคยเจอ โดยเฉพาะในช่วงแรกๆที่กระแสติติงมีเยอะมาก “เป็นสไตล์คนไทยที่จะเชียร์คนสวยก่อน ซึ่งไม่แปลก เป็นเราก็คงแอบเชียร์คนสวย” พูดแล้วก็หัวเราะเบาๆ
“แล้วสำหรับช่า คนชอบก็ชอบเลย เพราะความมั่นของเรา แต่ถ้าไม่ชอบก็ไม่ชอบเลย เพราะความมั่นเหมือนกันนี่แหละ คือคนอาจจะคิดว่ายูมั่นใจไปไหม แต่พอไปเรื่อยๆ พอเห็นว่านี่เป็นตัวตนที่ไม่ได้มีอะไร ไม่ได้ร้าย ตรงๆ เฉยๆ คนที่แอนตี้ก็เปลี่ยนมาชอบ แล้วอาจจะแอบเชียร์นิดๆ”
ทั้งนี้สำหรับเสียงติ เสียงว่า ติช่าบอกเลยบางเรื่องนั้น “ไม่รับฟัง”
“เพราะช่าเชื่้อในตัวเอง เขาไม่รู้จักเรา มาว่าเรา จะไปแคร์ทำไม เรารู้จักตัวเอง แล้วจะไปฟังเธอที่ไม่รู้จักฉัน แต่มาบอกฉัน เพื่ออะไร”
อย่างไรก็ดี นี่เป็นคนละกรณีกับสิ่งที่บอกแบบมีเหตุผล เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ติช่ายืนยันว่ายินดีรับฟัง เหมือนอย่างที่ฟังเหล่าเมนเทอร์ บี – น้ำทิพย์ จงรัชตะวิบูลย์,คริส หอวัง,ลูกเกด – เมทินี ชาร์พเพิร์ล และพร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำ
เพื่อพัฒนาตัวเองต่อไป
