มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรี ของดีปีละครั้งจากนานาชาติ

งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ กำลังจะมีขึ้นอีกครั้ง โดยในครั้งที่ 21 นี้ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11 กันยายน ถึง 23 ตุลาคมที่จะถึง ซึ่งมหกรรมฯ จะเปิดม่านด้วยการแสดงโอเปราคลาสสิกสองชุด คือ ตูรันโด (Turandot) และ รูซัลกา (Rusalka) จาก Ekaterinburg Opera Theatre คณะโอเปราที่เก่าแก่ที่สุดของรัสเซีย ซึ่งได้รับการการันตีคุณภาพด้วย 15 รางวัล หน้ากากทองคำ หรือ Golden Mask Awards ซึ่งเป็นรางวัลที่มีชื่อเสียงเทียบเท่ารางวัลออสการ์ของวงการภาพยนตร์

Turandot ซึ่งจะแสดงวันที่ 11 กันยายน เป็นผลงานการประพันธ์ของ เกียโคโม ปุชชินี โอเปราสององก์ที่ขับร้องเป็นภาษาอิตาลี เรื่องราวของเจ้าชายคาลาฟที่ตกหลุมรักเจ้าหญิงตูรันโด ผู้มีหัวใจเย็นชา เพื่อเอาชนะใจเธอ เจ้าชายต้องไขปริศนาสามข้อ หากตอบผิดจะถูกประหาร แต่แม้เจ้าชายจะผ่านบททดสอบ แต่เจ้าหญิงก็ยังยืนกรานปฏิเสธ เจ้าชายจึงยื่นข้อเสนอว่า หากเจ้าหญิงทราบชื่อของเขาก่อนรุ่งสาง เมื่อแสงอาทิตย์แรกมาถึงเจ้าชายจะถูกประหาร และการแต่งงานจะไม่เกิดขึ้น การแสดงนี้ เปาโล ลาดินโซเน นักร้องโอเปราระดับเสียงเทเนอร์ชาวอิตาลี ผู้รับบทเจ้าชายคาลาฟ เป็นนักร้องที่เคยคว้าหลายรางวัลมาครอง

Calaf – Paolo Lardizzone. Photo by Olga Kerelyuk

 วันที่ 13 กันยายน คณะเดียวกันนี้จะนำเสนอการแสดงโอเปราจากผลงานการประพันธ์ของ อันโตนิน ดโวชาค เรื่อง รูซัลกา (Rusalka) โอเปราสามองก์ ขับร้องเป็นภาษาเช็ค จากโอเปราทั้งหมดสิบเรื่องที่ดโวชาคได้ประพันธ์ขึ้น Rusalka นับเป็นเรื่องเอกที่คณะโอเปราชื่อดังมากมายนำไปใช้แสดงอยู่เสมอ เรื่องของพรายน้ำผู้เป็นอมตะเกิดตกหลุมรักเจ้าชายรูปงาม จึงเกิดความปรารถนาจะเปลี่ยนเป็นมนุษย์ บทรูซัลกาได้รับการถ่ายทอดโดย เยเลนา พาฟโลวา ส่วนเจ้าชายหนุ่มแสดงโดย อิลแกม วาเลียฟ ศิลปินเกียรติยศแห่งสาธารณรัฐตาตาร์สถาน และผู้ชนะเลิศรางวัล Golden Mask Jury Special Award

Vodnik – Mikhail Korobeinikov, Rusalka – Elena Pavlova. Photo by Olga Kerelyuk

ดนตรีประกอบโอเปราทั้งสองเรื่องเป็นผลงานการบรรเลงโดยวงออร์เคสตรา ภายใต้การควบคุมวงของ คอนสแตนติน ชูดอฟสกี วาทยกรเจ้าของรางวัลมากมาย และยังได้รับการยกย่องจากนิตยสาร Financial Times ให้เป็นหนึ่งใน 25 ชาวรัสเซียที่น่าจับตาในฐานะหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนและสร้างความสั่นสะเทือนให้กับประเทศ

Advertisement

วันที่ 16 และ 17 กันยายน เป็นการแสดงบัลเลต์ตลก ล้อเลียนโดยคณะ Les Ballets Trockadero de Monte Carlo จากนิวยอร์ก คณะนักบัลเลต์ชายล้วนที่นำเสนอการแสดงในรูปแบบของบัลเลต์คลาสสิกและระบำร่วมสมัย ที่ประสบความสำเร็จมานานนับทศวรรษจากการนำเสนอที่ล้อเลียนการแสดงบัลเลต์คลาสสิกในแบบฉบับของพวกเขา

Valpurgeyeva-Noch_Walpurgisnacht_2009_photo-credit-Sascha_Vaughan

วันที่ 21 และ 22 กันยายน เป็นการแสดงชุด La Verità ของคณะ Compagnia Finzi Pasca  จากสวิตเซอร์แลนด์ การแสดงที่ผสมผสานกายกรรม, ละคร, ระบำ และดนตรี

Advertisement

ขณะที่คณะดิ อิมพิเรียล ไอซ์ สตาร์ จากอังกฤษ จะเนรมิตเวทีของหอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยให้กลายเป็นลานน้ำแข็ง เพื่อการแสดงชุด Swan Lake on Ice ในวันที่ 26 และ 27 กันยายน  และ Cinderella on Ice ในวันที่ 28 และ 29 กันยายน ด้วยฝีมือของนักซึ่งล้วนเป็นนักกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตในระดับแชมป์ทั้งระดับโลก ระดับยุโรป และระดับประเทศ จำนวน 35 คน

Swan Lake

โทนี เมอร์เซอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของคณะ กล่าวว่า “การออกแบบท่าเต้นนี้ได้แรงบันดาลใจจากท่วงทำนองดนตรีดั้งเดิม และความตั้งใจของไชคอฟสกีที่มีต่อสวอน เลค ผมต้องการให้ทั้งการตีความและการถ่ายทอดผ่านการแสดงบนลานน้ำแข็งมีความสมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น จึงได้สร้างสรรค์การแสดงรูปแบบใหม่เป็นการแสดงบนลานน้ำแข็งกับฉาก แสงสี ในแบบการแสดงละครเวทีเต็มรูปแบบ”

Cinderella

สำหรับวันที่ 5 และ 6 ตุลาคม เป็นการแสดงชุด หวัง เจาจวิน (Lady Zhaojun) จากจีน ซึ่งเป็นการตีความเรื่องราวคลาสสิกของหนึ่งในสตรีผู้เลอโฉมที่สุดในประวัติศาสตร์จีนให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น ถ่ายทอดโดย หลีอิ้วกัง นักร้องเจ้าของรางวัลมากมาย ผู้ได้รับยกย่องให้เป็นปูชนียบุคคลของจีน ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่หลีอิ้วกังพร้อมคณะกว่า 70 ชีวิต จะนำเสนอการแสดงชุดนี้นอกประเทศจีนเป็นครั้งแรก

วันที่ 11 ตุลาคม อินโทรดันส คณะบัลเลต์ร่วมสมัยของเนเธอร์แลนด์จะนำเสนอการแสดงซึ่งเป็นผลงานการออกแบบท่าเต้นของสามนักออกแบบท่าเต้นชื่อดัง คือ Polish Pieces และ Black Cake โดย ฮันส์ ฟาน มาเนน , Ella พร้อมดนตรีประกอบของ เอลลา ฟิตซ์เจอรัลด์ โดย โรเบิร์ต แบทเทิล และ In Memoriam โดย ซีดิ ลาร์บิ เชอร์ครัวอี

Polish Pieces

สำหรับการแสดงดนตรีคลาสสิกที่มีมาทุกครั้งสำหรับมหกรรมฯนั้น ในปีนี้จะเป็นคอนเสิร์ตคอนแชร์โต บูดาเปสต์ ซิมโฟนี ออร์เคสตรา (Concerto Budapest Symphony Orchestra) ในวันที่ 13 ตุลาคม โดยวงออร์เคสตราจากฮังการีวงนี้ มีอายุกว่า 100 ปี ครั้งนี้พวกเขาจะนำเสนอผลงาน ผลงานของนักประพันธ์ชื่อดัง ทั้ง Les Preludes ของ ฟรานซ์ ลิตซ์ , Symphonic Fantasy – Francesca da Rimini ของ ปีเตอร์ ไชคอฟสกี และ Concerto for Orchestra ของ เบลา บาต็อก

คณะ Kremlin Ballet จากรัสเซีย ก็เตรียมการแสดงมา 3 ชุดคือ คือ The Hunchback of Notre Dame หรือ Esmerlada ในวันที่15 ตุลาคม,  A Thousand and One Nights หรือ พันหนึ่งราตรี วันที่ 17 ตุลาคม และ Swan  Lake วันที่ 19 ตุลาคม

Nurida – Irina Ablitsova, Shakhriyar – Daniil Roslanov

การแสดงชุดแรก The Hunchback of Notre Dame หรือ Esmerlada มีเค้าโครงจากผลงานวรรณกรรมโรแมนติกของ วิคเตอร์ อูโก  เรื่องราวของคนค่อมแห่งนอเตรอดาม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ส่วน Thousand and One Nights สร้างสรรค์จากนิทานพื้นบ้านอาหรับอันเลื่องชื่อ และการแสดงชุดที่สาม Swan  Lake เป็นผลงานการประพันธ์ที่เลื่องชื่อที่สุดของ ไชคอฟสกี และยังเป็นที่สุดของสัญลักษณ์ความงามแห่งบัลเลต์รัสเซียอีกด้วย

สำหรับการแสดงที่เตรียมไว้เป็นชิ้นสุดท้าย ก่อนปิดฉากงานในปีนี้ คือ การแสดงจาก José Carreras นักร้องเสียงเทเนอร์ชาวสเปน ผู้ยิ่งใหญ่ในโลกแห่งโอเปรา กับ Farewell Concert อำลากรุงเทพมหานคร โดยมีศิลปินผู้ร่วมบนเวที คือ Celine Byrne นักร้องเสียงโซปราโนรุ่นใหม่ผู้มีชื่อเสียง ภายใต้การควบคุมและกำกับวงโดย เดวิด กิมิเนซ

ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถซื้อบัตรได้ที่ www.thaiticketmajor.com  โทร​. 0-2262 -3191

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image