ชีวิตต้องสู้ ′แห้ว รีเจนซี่′ เผยกว่า 10 ปีที่พิชิตมะเร็งตับหลังหายหน้าไปอยู่อเมริกา

แห้ว รีเจนซี่ เผยชีวิตต้องสู้กับมะเร็งตับมากว่า 10 ปี หลังหายหน้าจากวงการบันเทิงไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา

หายหน้าจากวงการบันเทิงไปร่วม 15 ปี ล่าสุดตลกชื่อดัง แห้ว รีเจนซี –  ปณิธาน สังข์ประเสริฐ  ได้มาเปิดใจผ่านรายการ “จุดเดือด” ทางช่อง 2 ถึงการไปใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่พ.ศ. 2545  รวมถึงการต่อสู้กับมะเร็งตับ

โดยแห้วว่า ตอนไปอยู่ที่นั่นค่อนข้างจะปรับตัวลำบากเพราะทำงานในซุปเปอร์มาร์เก็ตแต่โชค ดีที่เรียนรู้เร็วตำแหน่งจึงเพิ่มขึ้นงานจึงไม่หนักนัก กระทั่งทราบว่าป่วย เป็นมะเร็งตับเกือบจะระยะที่3จึงได้เข้ารับการรักษาตัว ซึ่งแพทย์ได้ให้ยาแต่ไม่ได้ให้เคมีบำบัด โชคดีที่ตอนนั้นอยู่ในส่วนของผู้มีรายได้ต่ำค่ารักษาจึงราคาถูกมากกว่าปกติ หลายเท่า

“บุญยังส่งครับที่โน้นไม่เสียอะไรไปอยู่ส่วนของผู้ที่มี รายได้ต่ำในชีวิตนี้ค่อนข้างจะโชคดีอย่างหนึ่งที่บุญกุศลที่ทำส่งผลให้ไปเจอ ผู้ที่ให้ความอนุเคราะห์ นำพาไปในส่วนที่เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย แม้แต่ตอนที่บวชอยู่ตอนนั้นก็ได้รับความอนุเคราะห์จากคนไทยที่อยู่ที่นั้น พาไปในส่วนที่ไม่มีรายได้ เป็นพระนะครับที่โน้นพระก็ถือว่าเป็นอาชีพหนึ่ง เขาจัดการให้ ไม่ว่าจะเป็นผ่าตัดตาซ้ายที่ตอนนั้นเป็นต้อก็ไม่เสียค่าใช้จ่าย ดูแลค่ายา เสียนิดเดียว เช่นค่ายายกตัวอย่างว่า 130 เหรียญ เราก็จะเสียประมาณ 1-2 เหรียญครับผม”

“พูดถึงเรื่องการต่อสู้ ผู้ใดที่มีโรคประจำตัว หรือว่ากำลังป่วยหนักถ้าคิดจะสู้ สิ่งหนึ่งนอกจากความรู้เกี่ยวกับโรคที่เราเป็นแล้ว สำคัญที่สุดคือดูแลตัวเองด้วยครับ ดูสาเหตุโรคนี้ ศึกษาด้านอาหารการกิน มีโอกาสออกกำลังกายได้ก็ยิ่งดีเลย ถ้าให้ยามากก็จะไปลงถึงไตกับตับ ทำงานมากก็จะมีผลต่อเนื่องอีก หายจากโรคนี้ก็จะเป็นโรคนี้ ถ้าวิถีทางแห่งชีวิตอดทนได้บางท่านนะครับ ผู้มีรายได้ต่ำผมจะได้ยินเสมอต้องรอนาน” แห้วกล่าว

Advertisement

 พร้อมบอกด้วยว่า “ยาที่สำคัญที่สุดคือใจ ถ้าใจเราคิดว่าเราจะสู้ เราต้องบอกใจเราด้วยว่าเราต้องดูแลอะไรบ้าง ผมจะบอกคนใกล้ตัวเสมอว่าถามครั้งเดียว ตอบครั้งเดียว เวลาไปเยี่ยมคนป่วยสิ่งแรกก็ต้องถามว่าเป็นไงบ้าง อย่าถามเขาเลยครับคำถามนี้ คนไข้เขาอยากตอบอย่างอื่นมากกว่าสิ่งที่จะบอกว่าไม่ไหวแล้วหรือดีขึ้น ถามเรื่องอื่นเลยครับ”

อย่างไรก็ตามตอนนี้โรคมะเร็งตับที่แห้ว เคยเป็นได้หายเกือบเป็นปกติแล้วเช่นเดียวกับโรคเส้นเลือดในสมองตีบที่อยู่ใน ช่วงปกติเพราะควบคุมเรื่องอาหารและออกกำลังกายซึ่งต้องระมัดระวังเนื่องจาก เชื่อว่าโรคนี้เป็นโรคเวรโรคกรรมต้องใช้ชีวิตไม่ประมาททั้งนี้ที่กลับมา ประเทศไม่ใช่เพราะเงินหมดแต่เห็นว่ายังมีอะไรที่ไม่ได้ทำหลายอย่างจึงอยากทด แทนแผ่นดินเกิด โดยที่คิดไว้คืออยากทำเกี่ยวกับผักผลไม้ออร์แกนิคด้วยวัน ข้างหน้าคงจะมีประโยชน์และไม่บาป ไม่สารเคมีใดๆ ถ้าผู้ปฏิบัติธรรมได้บริโภค ตนก็จะได้กุศลด้วย นอกจากนี้ตนยังขอบคุณกอบสุข จารุจินดา ผู้จัดละครที่ให้กลับมาแสดงละครอีกครั้งในเรื่อง “บุญหล่นทับ” ด้วย

“เป็นชีวิตที่ถึงมันจะไม่… มันอาจจะกลับมาอีกก็ได้ สิ่งเหล่านี้ผมไม่ประมาท สิ่งที่เราไม่ประมาทเป็นสิ่งที่ทำให้เรายังอยู่ได้อีกนาน” แห้วกล่าวในที่สุด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image