หลังมีข่าวลือหนาหูว่าคู่รักนักแสดงรุ่นเล็ก พีช พชร จิราธิวัฒน์ กับ แพทริเซีย กู๊ด เลิกราล่าสุดในวันนี้ (20 สิงหาคม) พีชก็ได้เปิดใจถึงกรณีนี้ในระหว่างไปร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ The Divine Fury มือนรกพระเจ้าคลั่ง ที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์ และนี่คือคำให้สัมภาษณ์แบบคำต่อคำ
กับข่าวที่เกิดขึ้นอยากพูดอะไรบ้าง
“จริงๆ สิ่งแรกที่ผมอยากจะพูดคือ ผมขอโทษทุกก่อนล่วงหน้า ผมขอโทษจริงๆ ที่ผมโกหกในวันนั้นนะครับ เพราะผมคิดว่าปัญหานี้ผมแก้ด้วยตัวเองได้ คิดว่าเป็นปัญหาที่คุยกันภายในแล้วแก้ปัญหาได้”
แสดงว่า ณ วันที่ออกมาพูดเกิดปัญหาแล้ว
“คือถามว่ามีเหตุการณ์ไหมมีครับผมว่าทุกคู่มีปัญหา แล้วเราคิดว่าไม่จำเป็นที่ต้องมาบอกทุกคนว่ามันคือเรื่องภายในอ่ะ คิดว่าถ้าปัญหานี้มันจบหรือว่าเราให้โอกาสกันมันก็น่าจะจบ แล้วทีนี้มันเกิดการที่เราให้โอกาสกันไปหลายครั้งแล้ว แล้วมันก็ไม่เวิร์ค สุดท้ายแล้วมันก็เป็นตามที่เห็น”
เกิดปัญหามาตั้งแต่ช่วงไหน
“ถ้านับระยะเวลาจริงๆ ก็เป็นเดือนอ่ะครับ”
สาเหตุหลักๆคืออะไร
“ผมว่าหนึ่งมันคือการไม่คอมมูนิเคตกัน สองเป็นเรื่องของบุคคลนะครับ ที่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันออกมาเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร”
ณ วันนี้เรียกว่าเลิกกัน
“ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็ใช่แหละครับผม ก็เลิกกันแล้วแหละครับ ถามว่านานหรือยังก็ช่วงที่เขาไปเที่ยวกับครอบครัวที่โปรตุเกส”
ตอนงานนาฏราชความสัมพันธ์เป็นอย่างไร
“คือสถานะตอนนั้น ยังเป็นอยู่ครับ เราก็พยายามแก้ปัญหา คือเรื่องแบบนี้มันสามารถเกิดขึ้นได้ เราก็พยายามให้โอกาสกันว่าทำยังไงให้มันดีขึ้นได้ไหม ปรับอะไรยังไงแต่สุดท้ายมันไม่เวิร์ค”
ตอนที่พีชให้โอกาสเขาได้ปรับตัวไหม
“ในเรื่องรายละเอียดผมขอไม่พูดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เรื่องส่วนตัวขอเก็บไว้บ้าง”
แสดงว่ามีปัญหาคาราคาซังหลายครั้งแล้ว
“ก็ไม่เชิงว่าคาราคาซังขนาดนั้นก็มาเป็นเคสๆ”
ตัดสินใจยากมั้ยที่จะเลือกเดินออกมา
“ยากครับ ไม่ว่าใครก็ยากทั้งนั้น เราไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ไม่มีใครในโลกต้องการให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ผมว่าแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ต้องการให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แต่สุดท้ายเกิดขึ้นแล้ว ทำไงได้ เราก็ต้องเดินต่อไป ทุกคนต้องใช้ชีวิตไปข้างหน้า”
คนมองพีชเป็นคนให้โอกาสและยื้อรักครั้งนี้ไว้
“ผมแค่คิดว่าในความสัมพันธ์เราควรต้องสู้คุ ณต้องสู้เพื่อความสัมพันธ์ของคุณ ซึ่งนั่นเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ ก็เป็นหน้าที่ที่ผมทำ”
อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจไม่สู้ต่อไป
“ ไม่ใช่ว่าไม่อยากสู้ครับ ผมแค่รู้สึกว่าสุดท้ายที่เรียกว่าน่าจะมาถึงจุดที่ซ่อมไม่ได้แล้วจริงๆ เราเลยตัดสินใจว่าไม่แล้วดีกว่า”
ที่ซ่อมไม่ได้นี่คือระดับไหนเกี่ยวกับบุคคลที่3 ไหม
“เรื่องบุคคลที่ 3 ผมไม่ขอพูดถึงแล้วกันเพราะว่าแค่เรื่องของผมแล้วได้แค่เรามีปัญหากันในเรื่องที่เป็นส่วนตัว”
ได้เห็นภาพที่ออกมาบ้างไหม
“ผมเห็นพร้อมทุกคนครับ”
ความรู้สึกเป็นยังไงบ้างตอนที่เห็นภาพ
“ไม่ได้อะไร เพราะว่าเป็นปัญหาที่เรากำลังแก้กันอยู่ก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไรมากเราก็แค่สงสาร”
ก่อนที่จะตัดสินใจแยกพีชได้คุยได้ถามตรงๆมั้ยว่ามีมือที่ 3 จริงไหม
“ผมขอไม่พูดดีกว่าครับ“
รู้มาก่อนหน้านี้ไหมว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
“ถามว่ารู้ไหมมันก็มีครับคร่าวๆ เราก็ไม่อยากมานั่งนั่นนี่มาก เพราะรู้สึกว่าคนเราควรจะมีพื้นที่ส่วนตัวก็ควรจะปล่อยไป“
พอมันมีข่าวออกมาพีชเสียใจไหม
“ไม่ว่าใครหน้าไหนก็เสียใจหมดครับ ใครก็ตามกับเรื่องแบบนี้ก็เสียใจทั้งนั้น“
ได้ถามเขาไหม
“ถามครับ“
เขาตอบยังไงบ้าง?
“เฮ้อตอบยากมาก (เงียบไปสักพัก) อ่า… ก็มัน… ก็เป็นตามสภาพครับ เขาก็คุยกับเราเขาก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ ไม่ใช่เรื่องตั้งใจ ไม่ใช่เรื่องที่ใครอยากให้เกิดขึ้นเขาคงรู้สึกผิดเป็นใครก็รู้สึกผิดทั้งนั้น“
ตัวเราเราคิดว่าเราเคลียร์ไหม
“เราก็เคลียร์นะ ก็เคลียร์แหละเราก็คิดว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว“
เขาให้คำตอบเลยไหมว่าเขาเลือกฝั่งโน้น หรือเลือกเรา หรือพอฟังแล้วเราตัดสินใจได้เลย
“ก็ตัดสินใจได้“
แล้วครอบครัวเราทราบเรื่องไหม
“ก็รู้อยู่ครับ“
คุณแม่ให้กำลังใจยังไงบ้าง
“คุณแม่ก็เป็นห่วงแหละ เขาก็คิดว่าเราจัดการได้“
ทั้ง 2 ครอบครัวสนิทกันมาก
“กับครอบครัวเขาผมไม่ได้คุยในเรื่องนี้เลย“
มันจะมีผิดความสัมพันธ์กับครอบครัวเขาไหม
“ผมคิดว่าไม่เราก็ต้องแยกให้ออกให้ได้ว่ามันเป็นเรื่องของคนไม่ใช่เรื่องของครอบครัว“
กระแสค่อนข้างแรงพีชรู้สึกยังไงบ้าง
“ผมรู้สึกแย่นะครับเอาตรงๆ ในขณะที่ผมมีคนจะซัพพอร์ตมาก แต่เขาคือคนที่โดนด่า ผมคิดว่าต่อให้เราทำผิดหรือไม่ผิดผมก็ไม่รู้ด้วย แต่ไม่มีใครที่ควรถูกด่าครับ ไม่มีใครควรถูกใครก็ไม่รู้มาด่าด้วนถ้อยคำที่รุนแรง ไม่มีใครชอบครับ ไม่มีใครอยากถูกด่าว่าเป็นคนเลว ซึ่งก็ไม่ใช่คนเลวครับแค่ผิดที่ผิดเวลาเท่านั้นเอง“