จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ อเล็กซ์ เรนเดล ซึ่งสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้มาขอสัมภาษณ์ในฐานะนักแสดงไทยผู้อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บอกว่า ตอนนี้โครงการและกิจกรรมต่างๆของค่าย EEC (Environmental Education Camp) ที่เขาจัดตั้งขึ้นโดยมุ่งหวังจะส่งเสริมความรู้ให้เด็กๆในเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เริ่มเติบโต ด้วยเหตุนี้นอกเหนือจากงานแสดง ซึ่งยังไงเขาก็ไม่ทิ้งแล้ว วันไหนที่ว่างจากกองถ่ายเขาจึงจะใช้เวลาให้กับงานของ EEC ดังกล่าว
ขณะเดียวกันก็ยังต้องจัดสรรเวลาเพื่อการเรียนปริญญาโท คณะสังคมศาสตร์และมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ด้วย
ทั้งนี้อเล็กซ์ในวัย 29 ซึ่งเรียนจบปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้เหตุผลของการเปลี่ยนสาขาในด้านการศึกษาของตัวว่า
“พอมาทำองค์กรนี้ อยากส่งเสริมความรู้ให้เด็กๆ ให้การศึกษาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมจริงๆ จะมาเป็นผู้บริหารที่มีเด็กๆเยอะๆ ทีมงานเยอะๆ ก็ควรจะมีความรู้บ้าง จะได้จัดการ ได้แก้ พัฒนา และทำให้มันถูกต้อง”
“ไม่ใช่ว่าจะไปเป็นครู 100 % นะ” ออกตัวพลางยิ้ม
“แต่ถ้าจะทำตรงนี้ ไปพูดตรงโน้น ตรงนี้ ซึ่งมีคนเริ่มมาฟังเรามากขึ้น เราก็ควรที่จะพูดแบบไม่ใช่เป็นนักแสดงคนหนึ่ง แต่พูดให้มันสร้างอิมแพคอะไรบางอย่าง พูดให้มันสร้างแรงบันดาลใจจริงๆ ซึ่งคอนเทนท์เราก็ต้องมีระดับหนึ่ง”
คนซึ่งเคยได้รับเชิญจากที่องค์การสหประชาชาติไปร่วมประชุมระดับนานาชาติ ในเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงได้รับเชิญจากหลายสถาบันการศึกษา รวมถึงได้รับการติดต่อขอสัมภาษณ์ในประเด็นต่างๆเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมบอก
“มีมาตลอดเลยครับ” อเล็กซ์เล่า
ในส่วนงานการแสดง อเล็กซ์บอกว่า หลักการรับงานของนักแสดงทั่วไป จะแยกการรับงานออกเป็น 2 ส่วน สำหรับละครเรื่องแรกมักให้คิวถ่ายทำในวันจันทร์ , อังคาร และพุธ กันวันพฤหัสบดี , ศุกร์ , เสาร์ และอาทิตย์ให้ละครอีกเรื่อง แต่สำหรับตัวเขา ด้วยภารกิจของ EEC และการเรียนจึงจัดสรรวันสำหรับงานละครได้แค่วันจันทร์ถึงวันพุธ ดังนั้นหากช่วงไหนมีการถ่ายทำพร้อมกัน 2 เรื่อง ผู้จัดจะเป็นคนแบ่งสรรปันส่วนคิวกันเอง
ทั้งนี้หากจะมีใครสงสัย ว่าทำไมเขาถึงไม่ทุ่มเวลาให้งานแสดง เพื่อสร้างชื่อเสียง เรียกเงินทองในช่วงเวลาที่ดูจะเหมาะแก่การกอบโกย คำตอบชัดเจนที่เขาให้คือ
“เราไม่ได้มองว่าการแสดงมีช่วงนี้ช่วงเดียว เดี๋ยวมันก็มีอะไรมาใหม่ๆ ยิ่งโตงานก็น่าจะหลากหลายมากขึ้น”
“ไม่ได้คิดว่าเราอายุแค่นี้ ต้องเอาให้เต็มที่”
นักแสดงที่ใครๆต่างชื่นชมในฝีมือบอกด้วยว่า เขาเองแม้จะทำงานกับช่อง 3 มานาน นานกว่า 20 ปี แต่กระนั้นก็ไม่ได้มีความคิดที่จะโยกย้าย หรือผันตัวไปเป็นนักแสดงอิสระ
“เรื่องสัญญาทางช่อง ผมขอไม่พูดถึงว่าเหลือนานเท่าไหร่ ขอให้เกียรติกับต้นสังกัดที่เป็นบ้านของเรามาเป็นสิบๆปี ปฏิบัติกับเราดีมาตลอด”
“ถ้าเราพูดว่าเหลือเท่านี้ มันจะเป็นเหมือนประกาศ ซึ่งถ้าตราบใดที่ทุกอย่างโอเค ตราบใดที่มีงานดีๆ ยังมีความสัมพันธ์ดีๆ ผมก็ไม่ได้รู้สึก”
“ณ ตอนนี้ผมคิดว่าช่อง 3 เป็นบ้านของเราอยู่”
ส่วนอนาคตน่ะหรือ นั่นเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้-เขาว่า
“คือ 10 ปีที่แล้ว วงการเป็นแบบหนึ่ง 10 ปีข้างหน้าอาจจะเป็นอีกแบบหนึ่ง” เขาให้เหตุผล
สำหรับในยุคปัจจุบัน นักแสดงคนดังบอกว่า ในความคิดของเขา “มันเป็นยุคของคนที่มีฝีมือ”
“ความต้องการของการเล่นที่หลากหลายจะเยอะขึ้น เพราะว่าโปรดักชั่นมันลึกขึ้น การเล่นก็ต้องลึกขึ้น บทก็ต้องลึกขึ้น คนดูชอบที่จะใช้ความคิดในการดูมากขึ้น ซึ่งเราชอบที่จะเล่นละครแบบนั้น”
“แต่ก็ชอบละครแบบที่เล่นอยู่เหมือนกัน” นี่เขาบอกต่อ
“เพราะว่าโปรดักชั่นค่อยๆเปลี่ยน อย่างช่อง 3 เมื่อก่อนเป็นสวิตซ์โหมด เดี๋ยวนี้เริ่มมีกล้องหนัง เริ่มเป็นไมค์บูม เริ่มที่จะปล่อยอิสระในการแสดงมากขึ้น ทุกอย่างไม่ได้เป็นคิวเหมือนสมัยก่อน”
และด้วยต่างๆนานาที่เล่ามา เขาจึงเชื่อมั่นว่า ช่อง 3 จะยังเป็นสถานที่ทำงานที่น่าสนใจอยู่ดี
“ใครจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ผมรู้สึกว่าบ้านเรายังมีความแข็งของมัน”
“ณ ตอนนี้ละครมีคนดู บทที่เข้ามา เราก็พอใจ”
“ผมอยู่ช่อง 3 มาตั้งแต่ 7 ขวบ เดินเข้าไป บางคนที่อยู่มาตั้งแต่ตอนนั้นก็เรียกเราลูก เรียกเราหลาน อยู่ๆจะหันหลังหนีเขา ก็ไม่ใช่”
“ตราบใดที่ยังเป็นแบบนี้อยู่ ผมก็พร้อมให้ทุกอย่างเดินไป”
กับอาชีพนักแสดงที่ทำอยู่ อเล็กซ์บอกว่า “รักอยู่แล้วครับ”
อย่างไรก็ดี “พยายามเลือกงานให้มากขึ้น ให้ตรงกับเรามากขึ้น”
“เหมือนก่อนหน้านี้อะไรเข้ามา ก็จะทำให้หมด แต่มันถึงจุดๆหนึ่งที่เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมานิดนึง ก็มองอะไรกว้างขึ้น มองอนาคตตัวเอง แล้วก็ตัดสินใจ “อยากจะเลือกในสิ่งที่รู้สึกว่าเหมาะ”
“เพราะผมไม่เชื่อที่เขาบอกว่า นักแสดงต้องเล่นได้ทุกบท คิดว่ามันไม่จริง”
“ไม่ใช่ว่าเราถนัดแบบนี้ อยู่ๆมีบทมา แล้วเราต้องไปเปลี่ยนตัวเอง อะไรอย่างนั้น ”
“สำหรับผม นักแสดงต้องเลือกบทบ้าง”
“เลือกที่เหมาะสมกับกับตัวเรา”