| ผู้เขียน | น้ำแข็งเปล่า |
|---|
กลับมาสร้างความตื่นตาตื่นใจอีกครั้งกับกลชุดเด็ดใน ‘Now You See Me 2 : อาชญากลปล้นโลก 2’ ที่ครั้งนี้ได้ ‘จอน เอ็ม. ชู’ มานั่งแท่นเป็นผู้กำกับ ทั้งยังได้ทัพนักแสดงเดิมอย่าง เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก, วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน, เดฟ ฟรังโก กลับมารับบทเดิมอีกครั้ง โดยมี ลิซซี่ แคปแลน เป็นสมาชิกใหม่
ในภาคนี้เล่าถึงเรื่องราว 1 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคที่แล้วที่เหล่า ‘จตุรอาชา’ ได้ทำโจรกรรมครั้งใหญ่ไว้จนต้องหลบซ่อนตัว กระทั่งรู้สึกเบื่อหน่ายกับการอยู่หลังแสงไฟ แต่ไม่นานนักพวกเขาก็ได้รับภารกิจให้เปิดโปงเบื้องหลังโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหนึ่ง โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกซ้อนกลโดย ‘วอลเตอร์ เมบรี’ อัจฉริยะมหาเศรษฐีสติเฟื่องที่พาทุกคนมาโผล่ที่มาเก๊าอย่างเหลือเชื่อ เขาเสนอให้กลุ่มจตุรอาชาขโมยชิปอัจฉริยะเพื่อแลกกับอิสรภาพ พวกเขาจึงต้องเผชิญหน้ากับอันตรายและบุคคลที่คาดไม่ถึง พร้อมกันกับที่ความจริงบางอย่างกำลังเปิดเผย
หนังเล่าเรื่องได้อย่างมีชั้นเชิง ตัวบทมีความน่าสนใจและความซับซ้อนมากกว่าภาคแรก เสน่ห์ของหนังอยู่ที่การใช้มายากลเป็นเครื่องมือดำเนินเรื่อง โดยใช้ลูกเล่นแบบกลซ้อนกลหลอกล่อกันไปมา ซึ่งไม่ใช่เฉพาะตัวละครเท่านั้นที่โดนหลอก แต่คนดูอย่างเราก็ตกหลุมพรางความแนบเนียนนั้นอยู่ไม่น้อย บ่อยครั้งที่หนังเฉลยกลแล้วต้องมานั่งคิดในใจ อ้าว! เป็นแบบนี้หรอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค่อยๆ เผยความจริงถึงตัวตนบุคคลที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทุกอย่าง ซึ่งหนังค่อยๆ เล่าแบบชวนให้เชื่อในสิ่งที่เห็น แต่แล้วมันกลับไม่ใช่อย่างที่คิดไว้ เมื่อความจริงเปิดเผยแล้วถึงกับต้องปรบมือให้ผู้เขียนบทที่ผูกเรื่องเชื่อมโยงกับภาคแรกได้อย่างแยบยล
ด้านฉากมายากลต่างๆ ก็ทำได้น่าประทับใจ เมื่อประกอบกับสเปเชียลเอฟเฟ็กต์และเพลงประกอบสุดเร้าใจ ยิ่งทำให้ดูไปแบบลุ้นจนตัวไม่ติดที่นั่ง ซึ่งส่วนตัวรู้สึกชอบกลซ่อนไพ่ในภารกิจขโมยของ ที่ดูแล้วตื่นเต้น ชวนหวาดเสียว ทำเอาลุ้นอยู่ไม่น้อยว่าจะรอดหรือไม่ แถมยังเซอร์ไพรส์สุดสุดกับโชว์ชุดสุดท้าย
ส่วนเหล่านักแสดงนำก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดี งัดไม้เด็ดโชว์ของได้อย่างไม่มีใครน้อยหน้า ที่น่าประทับใจคือการแสดงของ ‘แดเนียล แรดคลิฟฟ์’ ที่สลัดคราบพ่อมดน้อยออกไปได้อย่างหมดจด เราเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขาคือมหาเศรษฐีบ้าอำนาจ ที่ค่อนข้างฟั่นเฟือน มีความโรคจิตนิดๆ อยู่ในแววตา แถมยังน่าสงสารสุดสุดในตอนสุดท้าย
นอกจากความสนุก ตื่นเต้น และตื่นตาตื่นใจแล้ว เรายังได้เห็นอีกแง่มุมของการทำงานในกลุ่มจตุรอาชาอีกด้วย เพราะการทำภารกิจต่างๆ ที่ว่ามานั้น คงมิอาจเกิดขึ้นและผ่านพ้นไปได้ หากขาดความเชื่อใจและความสามัคคี นี่จึงถือเป็นบททดสอบสำหรับพวกเขา เพื่อก้าวข้ามการเป็นนักมายากลลวงตา สู่จตุรอาชาที่สมบูรณ์แบบ
