‘โดม จารุวัฒน์’ เปิดใจหลังโดนบูลลี่เรื่องรูปลักษณ์

เป็นนักร้องอีกคนที่มักถูกโซเชี่ยลบูลลี่มาโดยตลอด โดม จารุวัฒน์ ที่นับตั้งแต่เขาเข้าวงการบันเทิงเจ้าตัวมักถูกล้อเลียน เรื่องรูปลักษณ์มาโดยตลอด ล่าสุดเจ้าตัวโดนผู้ใช้ทวิตเตอร์โพสต์ข้อความบอกให้เจ้าตัวไปศัลยกรรมผ่าตัดขากรรไกร ซึ่งโดมเปิดใจเรื่องนี้มาว่า

ดราม่าที่เกิดขึ้น

“คือพยายามจะไม่ให้มันเป็นดราม่า เพราะความรู้สึกของเราคือเรื่องนี้มันอยู่กับเรามานานมากแล้ว เมื่อก่อนยอมรับว่านอยด์ แต่ทุกวันนี่เห็นแล้วรู้สึกพยายามทำความเข้าใจมากขึ้น ใจเย็นลง หัวเราะได้ ยิ้มได้ เพราะมันเป็นประเด็นที่เรารู้สึกว่าเราเจอมาเยอะ และรู้สึกว่ามันคงดีถ้าเกิดทำให้เขาได้เข้าใจเหมือนทีาเราเข้าใจ ก็เลยพยายามตอบไปเป็นแบบนั้นครับ เราก็ตอบไปด้วยเหตุและผลครับ คือคนเราถ้าต้องเข้ารับการผ่า​ตัดใหญ่สักครั้งมันเป็นเรื่องใหญ่มาก และผลที่มันเกิดขึ้นอย่างที่ผมพิมพ์ไปเลยว่า มันไม่ได้เกิดขึ้นกับคนอื่นเลย สุดท้ายผลทุกอย่างไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี การผ่าตัดมันรับรองไม่ได้ 100% อยู่แล้วแหละ แต่ผลทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นมันตกที่ผมคนเดียว เพราะฉะนั้นทำอะไรก็ต้องคิดนิดนึงถ้าจะเป็นเหตุผลแค่ว่าอยากจะให้บุคลิกภาพดีขึ้น เราอาจจะต้องปรับด้านอื่นๆ ดูก่อน อย่างทุกวันนี้ผมก็ดูแลตัวเองมากขึ้น ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก ก็ลองปรับหลายๆ อย่างดู แต่ถ้ายังไม่ได้หรือมีปัญหาทางด้านสุขภาพขึ้นไปอีก อย่างเช่นถ้าฟันไม่สบกันแล้วมีปัญหาเรื่องสุขภาพในอนาคต เจ็บปวดทำให้ปวดหัวหรือเคี้ยวข้าวไม่ได้ อนาคตก็เดี๋ยวค่อยว่ากัน แต่สุดท้ายไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่มันต้องชั่งใจดีๆ ครับ ต้องเลือกด้วยเหตุและผลมากๆ”

 

Advertisement

มีแผนจะไปผ่าตัดยังไงบ้าง

“ปรึกษาไว้ตลอดครับ ถามคนที่เขาเชี่ยวชาญ รวมไปถึงคนที่เขารู้จักกับหมอที่เกาหลี จะบินไปเกาหลีเลยนะ คือทำด้วยเหตุผลครับ ไม่ได้ทำเพื่อให้บุคลิกภาพดีอย่างเดียว แต่ทำเพราะเหตุผลทางสุขภาพด้วย ทางการแพทย์ด้วย ก็น่าสนใจ เพียงแต่ตอนนี้เรายังทำงานอยู่ ถ้าบินไปทำต้องพักฟื้นเท่าไหร่กว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม กว่าจะฝึกพูดฝึกร้องได้ใหม่กี่เดือน แล้วเรายังมีภาระอยู่ รายได้มันจะพอมั้ย เราจะรับได้มั้ย มันต้องวางแผนทุกอย่างทั้งหมด เกิดไปทำแล้วร้องเพลงไม่ได้ 5 เดือน รับงานไม่ได้ 5 เดือน ผมนอนไหนล่ะ ก็ต้องวางแผนนิดนึง”

การชั่งใจระหว่างทำกับไม่ทำอันไหนมากกว่า

Advertisement

“ในใจอยากทำ 60-70% เลยแหละ แต่มันก็ต้องศึกษามากๆ และเป็นความกลัวเราเองด้วยเรื่องเสียง เพราะเราก็ไม่เคยผ่านการผ่าตัดมาก่อน แล้วผ่าตัดมันเรื่องใหญ่ คุณพ่อคุณแม่เขาก็ห่วงเหมือนกัน”

เรารับมือกับเสียงวิจารณ์ยังไง

“เมื่อก่อนนอยด์นะ คือเขามาพิมพ์พ่นเอาไว้แล้วเขาก็ไป แต่เราเป็นคนอ่าน เมื่อก่อนนอยด์ แต่เดี๋ยวนี้หัวเราะออกเสียงเลย ก็นอยด์ถึงขั้นที่ไปปรึกษาแพทย์นี่แหละว่าจะต้องทำยังไง แต่สุดท้ายเราก็มานั่งคิดว่ามันก็ตัวเรานะ คนอาจจะชอบเรารักเราที่เป็นแบบนี้ก็ได้”

 

เบื่อมั้ยกับการโดนบูลี่แบบนี้

“แรกๆ รู้สึกเบื่อเพราะเป็นสิ่งที่เราอธิบายยังไงคนก็ไม่เข้าใจ เขาก็ยังคงพิมพ์อยู่ ยังอยากพ่นคำไม่ดีใส่เราอยู่ เราไม่รู้จริงๆ ว่าคนเหล่านี้ต้องการอะไร แต่ว่าสุดท้ายแล้วเขาแค่อยากมีตัวตน อยากจะพูดให้คนอื่นเสียใจ เราอธิบายไปเขาก็ไม่เข้าใจหรอก ผมเป็นคนที่ไม่เคยพิมพ์ว่าใคร ถ้าจะว่าจะบอกกันตรงๆ คุยกันตรงๆ แต่คนอื่นอาจจะมองว่าเขาหวังดีนะ เขาถึงบอก อันนี้มันก็แล้วแต่บุคคล บางทีก็เลือกที่จะไม่อ่าน หรือถ้าอ่านก็จะเลือกมองมุมที่เขาหวังดีกับเรามากกว่า”

 

แต่คนก็ชมนะว่าเวลาเราตอบเรามีสติ

“ใช่ครับ ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะไม่เป็นแบบนี้ แต่เดี๋ยวนี้คือเราไม่สนใจ เราดีใจด้วยซ้ำที่เดี๋ยวนี้คนเห็นคำว่าบูลี่มากขึ้น และเริ่มไม่ทำมัน”

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image