ดราม่า ‘เอ็กซเม็น อะพอคคาลิปส์’ แม้แต่มนุษย์กลายพันธุ์ก็ยังมีปัญหาเรื่องเพศ

กรณีโปสเตอร์โฆษณาภาพยนตร์ต่อเนื่องเรื่อง ‘เอ็กซเม็น อะพอคคาลิปส์’ (X-Men: Apocalypse) ซึ่งเป็นภาพเจ้าตัวล้างโลกแสดงโดย ออสการ์ อิซัค กำลังบีบคอตัวละครหญิง ‘มิสทีก’ ซึ่งแสดงโดย เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ โดยมีประโยคกำกับภาพว่า “มีแต่ผู้แข็งแรงเท่านั้นจะอยู่รอด” ถูกวิพากษ์วิจารณ์กว้างขวางในสหรัฐอเมริกาว่าแสดงถึงความรุนแรงหรือสนับสนุนการใช้ความรุนแรงต่อสตรี จนค่ายทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ๊อกซ์ ต้องออกมาขอโทษเเละชี้เเจงว่าแค่ต้องการแสดงให้เห็นภาพลักษณ์ร้ายๆ ของตัวละคร และไม่ได้มีนัยยะอื่นเเอบแฝง และต่อมาก็ได้ปลดป้ายโฆษณาดังกล่าวออกไปนั้น

ในโลกความจริงซึ่งความจริงทางนิตินัยที่หญิงชายเสมอภาคกันทางกฎหมาย แต่ความจริงทางพฤตินัยยังไม่มีความเสมอภาคกันระหว่างเพศอย่างกว้างขวาง

ตั้งแต่ทรรศนะเหยียบย่ำสตรี ให้คุณค่าสตรีเพียงร่างระบายอารมณ์เพศ หลายสังคมสตรียังอยู่ในสถานะพลเมืองชั้นสอง ร้ายกว่านั้นบางวัฒนธรรมประเพณีสตรียังต้องกระโจนเข้ากองไฟตายตามสามี

และถึงจะเข้าศตวรรษที่ 21 นี่แล้ว

Advertisement

แม้มนุษย์กลายพันธุ์ก็ยังมีการแยกเพศเด่นเพศด้อย มนุษย์กลายพันธุ์สตรีที่มีฤทธิ์เดชพิสดารกว่าคนธรรมดาหรือชายธรรมดา ก็ยังดูด้อยอยู่ดีเมื่ออยู่ในกำมือที่กำลังเค้นคอของมนุษย์คนละพันธุ์อีกเพศ

ยังเป็นภาพที่ทำให้เกิดความรู้สึกถึงการสื่อนัยการใช้ความรุนแรงต่อสตรีได้

นั่นเพราะความคิดและทรรศนะเกี่ยวกับเพศในโลกความจริงยังกำกับด้วยความจริงเรื่องเพศที่ปรากฏอยู่ดังกล่าวแล้วนั่นเอง

Advertisement

ไม่ว่าจะมีเรื่องมนุษย์กลายพันธุ์ มนุษย์กายสิทธิ์ หรือมนุษย์อภินิหารลักษณะใดก็ตาม ที่สตรีสามารถเหาะเหินเดินอากาศ หรือมีดวงตาที่สามารถพุ่งไฟประลัยกัลป์ หรือแม้สตรีสามัญที่ฝึกฝนศิลปการต่อสู้อย่างหนัก ซึ่งสามารถอาจหาญต่อกรกับชายอกสามศอกอย่างไม่ระย่อ แต่ด้วยความจริงตามธรรมชาติแล้ว ยุคสมัยนี้ไม่มีผู้ใดนำเรื่องทางกายภาพมาถกเถียงเอาแพ้เอาชนะกันระหว่างเพศ

เนื่องจากความจริงตามธรรมชาติ หญิงกับชายมีกายภาพที่แตกต่าง

กระทั่งทุกวันนี้ ที่สตรีเพิ่มศักยภาพทางกายหลายด้านขึ้นมา เช่นการเป็นหนึ่งในนักรบเข้าสงคราม ด้วยการเป็นทหารภาคพื้นดิน หรือนักบินรบ ก็เป็นความพยายามที่จะเปล่งความสามารถให้เหนือข้อจำกัดที่เคยถูกขีดเส้นแบ่งไว้นมนาน โดยเฉพาะทางกาย เนื่องจากศักยภาพทางความคิด อันเป็นที่มาของความเสมอภาคทางเพศทั้งนิตินัยและพฤตินัยนั้น ยอมรับกันมานานแล้วว่าสตรีต้องมีโอกาสเท่าเทียมกันกับชาย

เช่นประเทศมหาอำนาจชั้นหนึ่งอย่างสหรัฐอเมริกากำลังมีสตรีเป็นตัวแทนพรรคเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งที่จะถึงนี้ เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์

ดังนั้น จึงเป็นความจำเป็นอยู่เองที่โลกซึ่งปัจจุบันมิได้มีเพียงสองเพศ แต่ยังมีเพศที่กลับกลาย กับเพศทางเลือก ต้องเข้าใจความแตกต่างของสองเพศหลัก ว่าอะไรคือความแตกต่างที่แท้ และอะไรคือความแตกต่างที่ถูกสร้างหรือกำหนดขึ้นมา ซึ่งยังเป็นเหตุของปัญหาสังคมนานาอยู่

เพื่อจะช่วยกันคลี่คลายปัญหาเหล่านั้น จนกว่าคำนิยามที่เคยจดจำมานานนับศตวรรษที่ว่า ชายเป็นเพศเข้มแข็ง หญิงเป็นเพศอ่อนแอ จะถูกลืมเลือนไป

ไม่เช่นนั้น ต่อให้มนุษย์กลายพันธุ์หญิงเป็นฝ่ายเค้นคอเจ้าตัวล้างโลกจนตาเหลือกตาปลิ้น ก็จะเป็นเพียงความสะใจชั่วครั้งชั่วครู่เท่านั้นเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image