“ห่างหายไป 2 ปี ที่ไม่ได้จัดคอนเสิร์ตของตัวเองจริงจังสักที” อารักษ์ อาภากาศ บอกอย่างนั้น ด้วยเหตุนี้เมื่อมีคนมาชวน มีทีมมาช่วย แถมมี ศศิน เฉลิมลาภ มาเสริมทัพ “เลยบอกตัวเองต้องเอาสักหน่อย” เขาว่า
ทั้งนี้คอนเสิร์ตซึ่งนอกจากตัวเขาแล้ว ยังมี เดช อัสดง ,วิ วงแม่น้ำ , ชิต วงแม่น้ำ ร่วมด้วยช่วยกันเล่นนั้น จะมีในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน เวลา 17.00 น. ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
การนี้เจ้าของงานบอกเหตุผลถึงการเลือกผู้ร่วมแสดงว่า “ครั้งนี้เนื่องจากเป็น 27 ปีอัลบั้มคนเดินดิน ผมอยากคงไว้ซึ่งบรรยากาศเดิมๆ จึงชวนวิ วงแม่น้ำ มือกลองที่ตีกลองให้ในอัลบั้มนี้ วิจึงชวนชิต วงเดียวกันรู้ใจกันซ้อมกันมาตั้งแต่หนุ่มๆมาแจมช่วยเพิ่มสีสัน และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ คือเดช อัสดง เขามีซาวด์ใหม่ๆ ลูกเล่นใหม่ๆ ที่เราไม่มี มาช่วยเพิ่มความโมเดิร์นให้กับคอนเสิร์ตครั้งนี้”
“คิดว่าทุกคนคงได้สัมผัส กลิ่นอายเก่าๆ เหมือนเล่นคอนเสิร์ตเมื่อ 20กว่าปีก่อน อยู่ในบรรยากาศใหม่ๆที่อบอุ่น แสงและเวที ออกแบบ ให้เป็นแบบธรรมชาติๆ เหมือนคอนเสิร์ตโฟล์คซองสมัยก่อนๆ ใกล้ๆชิดๆ อบอุ่นๆ เรื่องเครื่องเสียงเนื่องจากครั้งนี้เล่นชั้น 1 การจัดการกับระบบเสียงง่ายขึ้น คงจะได้อรรถรสมากขึ้นกว่าเดิม”
ส่วนเรื่องอื่นใด ที่ยังไม่ได้บอกในตอนนี้ เขาก็ว่า “อยากให้ไปรับชมรับฟังกันในงาน”
งานซึ่งรับคนฟังแค่ 200 คน ดังนั้นสำรองที่นั่งกันพลาดกันได้ที่ เพจ 27 ปี คนเดินดิน หรือที่ตุ๊ก โทร. 090-007-6780 และอีส 081-458-3621
….
*ขณะที่ โฟร์โนล็อค ก็จับมือ เจวายพี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จัด DAY6 WORLD TOUR ‘GRAVITY’ in BANGKOK นำ 5 หนุ่ม DAY6 (เดย์ซิกซ์) มาแสดง ในวันที่ 7 ธันวาคม 17.00 น. ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ซึ่งบัตรราคา 5,900 / 4,900 (ยืน) / 4,500 / 3,500 และ 2,500 บาท จะเริ่มจำหน่ายวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคมนี้ ที่ www.thaiticketmajor.com
*ด้าน เอ็ม พิคเจอร์ส และ บีฮีมอธ แคปปิตอล เอาใจคอหนังไทยเต็มที่ ด้วยการจัดโปรโมชั่น ขุนแผน แสนที่นั่ง ให้ดูหนังเรื่อง ‘ขุนแผน ฟ้าฟื้น’ ในราคาเริ่มต้น 100 บาท จำนวน 1 แสนที่นั่ง ตั้งแต่วันนี้ โดยติดตามรายละเอียดได้ที่ทุกโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านจ้า
…
เป็นความบังเอิญที่ช่างภาพ 2 คน เริ่มงานถ่ายรูปแนวสตรีทอย่างจริงจัง ที่ ‘หัวลำโพง’ โดย มานิต ศรีวานิชภูมิ เริ่มเมื่อปี 2528 ขณะที่ แรมมี่ นารูลา เริ่มในปี 2558
มานิตถือกล้องเดินสำรวจถ่ายภาพไปรอบๆจากบริเวณโถงขายตั๋วไปจนสุดชานชาลา ทั้งกลางวันและกลางคืน บันทึกรูปแม่เฒ่า พระ เณร หนุ่มนักแสวงโชค นักพนัน คนไร้บ้าน จนถึงขี้ยา ซึ่งภาพขาว-ดำชุดนี้มีบรรยากาศหนักหน่วง เหนื่อยล้า และชวนหดหู่ ราวกับผู้โดยสารในภาพติดค้างอยู่ในสถานี หรือไม่ก็กำลังรอคอยรถไฟที่ไม่เคยมาถึง
ตรงกันข้ามกับแรมมี่ที่เลือกปักหลักถ่ายภาพอยู่ตรงชานชาลา หมายเลข 10 เขาอาศัยตัวโบกี้รถไฟเป็นฉากหลัง และจงใจให้แสงแดดส่องสว่างมาจากด้านบนเหนือหลังคาโบกี้รถไฟ จากนั้นก็ปล่อยให้ผู้โดยสารเดินเข้ามาในเฟรมของภาพ และเลือดกดชัตเตอร์ในจังหวะที่ผู้โดยสารหันหลังให้กล้องหรือเหม่อมองไปทางอื่น เพื่อลดทอนอัตลักษณ์ให้เหลือเท่าที่จำเป็นและเปิดพื้นที่ให้ผู้ชมภาพเติมแต่งเรื่องราวที่เหลือเอาเอง
ทั้งนี้ผลงานที่ผ่านมาของมานิตได้รับการคัดเลือกแสดงในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยและเทศกาลภาพถ่ายนานาชาติมากมาย และยังได้รับการสะสมในพิพิธภัณฑ์ศิลปะสำคัญๆของโลกหลายแห่ง และนี่เป็นครั้งแรกที่เขานำผลงานชุด ‘หัวลำโพง’ ออกแสดง ส่วนแรมมี่เป็นช่างภาพแนวสตรีทรุ่นใหม่ของไทย ผลงานของเขามีเอกลักษณ์อัดแน่นด้วยสีสันเข้มข้น ผลงานของเขาได้รับเชิญให้เข้าร่วมแสดงในเทศกาลภาพถ่ายนานาชาติหลายแห่ง สำหรับผลงานหัวลำโพงของเขาครั้งนี้ ใช้ชื่อว่า ‘ชานชาลา 10’ (Platform 10)
เข้าชมได้ระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน ถึง 28 ธันวาคมนี้ ที่คัดมันดู โฟโต้ แกลเลอรี่ (87 ถนนปั้น แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ)
