เรียกเสียงชื่นชมได้อย่างกว้างขวาง หลังจากประกาศกลางรายการ ‘ปากโป้ง’ ทางช่อง 8 เมื่อวานนี้ (16 มิถุนายน) ว่าหากสเต็มเซลล์ของ น้องมายู – ภูรดา กำเนิดพลอย ลูกสาวสามารถใช้รักษา จอย – สุภาภร ชุมทอง อดีตพริตตี้ที่ป่วยเป็นโรคหนังแข็ง ซึ่งพบ 1 ใน 5 แสนคน และยังไม่มีทางรักษาได้ก็เต็มใจจะมอบให้
ล่าสุดวันนี้ หนุ่ม กรรชัย พิธีกรดังก็ได้เปิดใจกับ ‘มติชนออนไลน์’ ว่า ติดตามข่าวของคุณจอยมานานมากแล้ว ช่วงก่อนเคยจะเชิญมาออกรายการ แต่ตอนนั้นมีคนดูแลช่วยเหลือเยอะจึงได้แต่ติดตามอยู่ห่างๆ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเมื่อได้คุยกับคุณหมอท่านไหนจะถามตลอดว่าโรคนี้รักษาไม่ได้จริงหรือ จนได้ทราบเรื่องการใช้ ‘สเต็มเซลล์’ ซึ่งเมื่อสอบถาม นพ.สมนึก ศิริพานทอง กรรมการสมาคมเซลล์บำบัดไทย และได้คำตอบว่าใช้ได้ ถ้าเป็นสเต็มเซลล์บริสุทธิ์ของมนุษย์ ยิ่งได้จากสายสะดือยิ่งดี ซึ่งตนมีของมายูก็ได้เก็บไว้ตอนคลอดเลยตัดสินใจบริจาคให้
“ขอบริจาคให้คุณจอยดีกว่า ใช้ 10-20 ล้านสเต็มเซลล์ เป็นส่วนหนึ่งที่เก็บไว้ คือสเต็มเซลล์เป็นเซลล์ต้นกำเนิด เป็นการเอาสายสะดือมาแล้วไปเพาะ เราแบ่งมาเพาะไว้จำนวนหนึ่ง แล้วแบ่งให้คุณจอย ถ้าช่วยได้ ทำให้คุณภาพชีวิตเขาดีขึ้น ดูแลลูกได้ ดูแลตัวเองได้ก็ยินดี” หนุ่มกล่าว
พร้อมกับว่า ขั้นตอนต่อจากนี้คงต้องให้คุณจอยตรวจเลือดและอื่นๆ ให้เรียบร้อย ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นตนจะทำเรื่องเพื่อเบิกสเต็มเซลล์ โดยที่ตัดสินใจช่วยอดีตพริตตี้รายนี้ เพราะทราบว่าอีกฝ่ายมีลูก 3 คน คนสุดท้องเพิ่งอายุ 2 ขวบ แถมสามียังแยกทางไปตั้งแต่ตอนท้อง และมองด้วยการบริจาคเงินช่วยเหลือก็เป็นเรื่องดี แต่อาจจะรองรับตลอดชีวิตไม่ได้ จึงควรแก้ไขที่ต้นเหตุ แม้ต่อให้การรักษาอาจจะไม่หาย 100% แต่ก็น่าจะได้ลอง เพราะมีทั้งสเต็มเซลล์และคุณหมอที่ช่วยรักษา ถ้าหายก็ถือเป็นโชคดีของคุณจอย
“หัวอกพ่อแม่ ถ้าเทียบเป็นตัวเองล่ะ เรามีลูก เราเข้าใจตรงนี้มากขึ้น ตอนปอ (ทฤษฎี สหวงษ์) ป่วย เราเข้าใจ รู้สึกถึงความรู้สึกเขา คือคงไม่มีใครอยากจากลูกไปไหนไกลๆ เลยเห็นใจ อันไหนพอจะช่วยได้ก็ยินดี ทางคุณเมย์ (ปทิดา กำเนิดพลอย ภรรยา) ก็เห็นอกเห็นใจคนที่มีลูก เขาเป็นคนชอบทำบุญอยู่แล้ว บอกเขา เขาก็แฮปปี้”
“แล้วไม่ได้ต้องการทำเพื่อให้ได้บุญกลับมา แต่ทำเพราะอยากช่วย เพราะเป็นพ่อแม่คนเหมือนกัน อยากช่วยเขาให้ตรงจุด ช่วยให้เขาทำงานทำการได้ เพราะคนมองว่าเขาเป็นโรคติดต่อ ทำน้ำ ทำขนมส่งขาย คนก็ไม่ยอมทาน ทรมาน” หนุ่มกล่าว
ก่อนจะตอบข้อซักถามที่ว่าถ้าอนาคตมีคนมาขอให้ช่วยเหลือเรื่องสเต็มเซลล์อีกจะทำอย่างไร ว่า “ณ ตอนนี้สเต็มเซลล์มีจำนวนจำกัด ต่อไปอาจเป็นเรื่องของเคสบายเคส พอช่วยได้ก็อาจช่วย ช่วยไม่ได้จริงๆ ก็ไม่สามารถ ไม่ทำบุญเกินตัว ทำเท่าที่ช่วยได้”
ขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม kanchai
