‘หม่ำ จ๊กมก’ รับห่วง ‘เอ็ม’ ลูกสาวโต้ตอบดราม่าโซเชียลบ่อย เข้าหูเยอะทำไมไม่เหมือนพ่อ(คลิป)

มีคุณพ่อเป็นคนดังระดับซุปตาร์ตลก งานนี้ เอ็ม บุษราคัม ลูกสาวของ หม่ำ จ๊กมก ก็ย่อมจะมีคนคอยติดตามในโลกออนไลน์อยู่ไม่น้อย บางส่วนก็มาพร้อมความชื่นชมชื่นชอบ แต่บางรายก็พร้อมที่จะมาปั่นกระแสดราม่าด้วย ซึ่งทางด้าน คุณพ่อ ก็เปิดใจในงานบวงสรวงภาพยนตร์ คุณชายใหญ่ ที่บริษัท บั้งไฟฟิล์ม โดยยอมรับว่าเป็นห่วงลูกสาวกับเรื่องนี้

“ผมก็ห่วงนะ เหมือนเอ็มก็จะชอบไปต่อปากต่อคำ อย่างผมจะไม่ชอบไปต่อปากต่อคำ เราคนกลางแจ้งเราเสียเปรียบ”

“แล้วผมไม่ชอบคนขอโทษทีหลัง ผมว่าเป็นเรื่องน่าอับอาย ก็อย่าไปทำสิ จะได้ไม่ต้องไปขอโทษ ผมคิดอย่างนั้น ขอโทษไปเพื่ออะไร ผมผิดไปแล้วรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถุ้ย! ก็อย่าไปพูด ก็อย่าไปทำสิ”

“เขาจะใส่อะไรก็เรื่องของเขา เขาจะนั่งโรลส์รอยซ์จะนั่งเบนท์ลี่ย์ก็เรื่องของเขา เราไม่มีตังเราอย่าพูดมันเรื่องของเขา อุ้ย ดีใจด้วยนะ อยากมีโอกาสเหมือนเขามากเลย มันดีกว่าอวดร่ำอวดรวย เอาอีกละ ก็มีตังมันผิดอะไรวะ มันก็พูดได้ทุกคนก็พูดได้ แล้วสุดท้ายคืออะไร มันก็ต้องมานั่งขอโทษขอโพยกัน”

Advertisement

ทั้งนี้ หม่ำ ยังว่ากับประเด็นดังกล่าวก็ได้มีการพูดเตือนลูกสาวอยู่ตลอด “เตือนก็บอกลูกประจำว่าอย่าไปทำ”

“แต่ว่าถ้าบอกไม่ฟังแล้วมันก็จะเป็นผลกับครอบครัว ความศรัทธา แล้วเขาก็จะแบ่งแยก ต่างกับพ่อมันมากเลย”

“มันเป็นผลกระทบกับสิ่งที่ทำอยู่ด้วย ถูกไหม หนังคนนั้นผมดูแล้วไม่ดีเลย เราจะกล้าพูดแบบนี้หรอเราคนทำหนังอ่ะ ถูกหรือเปล่า ผมจะพูดเพื่ออะไรผมก็ไม่พูด พูดทำไม นี่คือทักษะง่ายๆ มันก็แค่นั้นเอง ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย”

Advertisement

ซึ่งก็สิ่งที่ทำบางครั้งก็อาจจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวได้ ก่อนจะยกตัวอย่างให้ฟังว่า

“อันดับแรก ทำไมมันไม่เหมือนพ่อมันวะ เปรียบเทียบละ พ่อมันเป็นคนเรียบๆ ง่ายๆ นะ ไม่ค่อยเห็นไปตอบคอมเมนต์อะไร”

“แล้วก็เป็นผลกับกิจการร้านข้าวแกงใช่ไหม ท่าทางไม่น่ากินแล้วร้านข้าวมันอ่ะ มันขายอะไรก็เป็นอันนั้นแหละ เพชรก็น้ำไม่งามถ้าขายเพชรเพราะปากมันเป็นแบบนี้ นี่มันเป็นผลทั้งๆ ที่ของเราดี ก็เพราะเราไปทำตัวแบบนั้นมันก็มีส่วน”

“แต่บอกได้แค่บอกนะคนพวกนี้แม้กระทั่งลูกอ่ะนะ ถ้าบอกแล้วมันไม่จำมันไม่ฟัง ก็ต้องรู้ด้วยตัวเองว่ามันจะถดถอยลงไปเรื่อยๆ ก็ได้แค่ประคอง มันมีได้เท่านี้แหละ” ตลกดังว่า

รวมถึงถ้อยคำที่บอกเล่าเรื่องราวของลูกสาวที่ได้ยินเข้าหูมาตลอด แม้ว่าตนจะไม่เล่นโซเชียลเท่าไหร่นัก

“คือผมไม่ใช่คนเก่งเรื่องโซเชียลเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ชอบดูด้วย มีแต่คนเล่าให้ฟังเล่าให้ฟังผมก็ไม่อยากฟัง เพราะเป็นเรื่องของมันด้วยวัยของมันแล้วลูก อายุจะ 35 แล้ว ไม่ใช่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมันเลยนิติภาวะไปเยอะมากแล้ว ต้องคิดเองได้ต้องคิดเป็นได้”

“ถ้าคิดไม่เป็นก็เป็นแบบนี้ไง เออ..ลูกหม่ำใจร้อนเนอะไม่เหมือนพ่อเนอะ ทำไมลูกหม่ำลงแบบนี้วะ ทำไมหม่ำเขาลงแต่ทำกับข้าวมัน ก็จะต่างกันไปอีกแบบนึง ลงเมียเต้นไปสนุกสนานไป”

“บางทีก็ไม่อยากจะเป็นห่วงแต่คนรอบๆ เล่าให้ฟัง ท้ายสุดก็คือมันจะถูกเปรียบเทียบว่าต่างจากพ่อมาก แล้วก็เป็นผลกับธุรกิจ คนเขาก็ไม่เชื่อใจหรอก”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image