‘เพชรา’ รู้สึกผิด เหตุการณ์พระเอก ‘มิตร ชัยบัญชา’ ตกฮ.ดับ

วันนี้ (18 มกราคม 2563) เวลา 14.00 น. หอภาพยนตร์ จ.นครปฐม ได้จัดพิธีประทับรอยมือรอยเท้าครั้งสำคัญของเพชรา เชาวราษฎร์ “ราชินีจอเงิน” เจ้าของฉายา นางเอกนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง ทั้งยังร่วมพูดคุยถึงประสบการณ์การทำงานในวงการภาพยนตร์ พร้อมชมตัวอย่างผลงานภาพยนตร์ในอดีต

เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรม เพชรายังให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงความรู้สึกในครั้งนี้มาว่า ตนอยากเห็นหน้าแฟนๆ ที่มารอเจอตนวันนี้

“ขอบคุณที่คิดถึงกัน วันนี้ได้มาย้อนความหลัง เราก็รู้สึกดีมากค่ะ รู้สึกดีที่มาเจอแฟนๆ วันนี้ แต่อีกใจก็ไม่มั่นใจในตัวเอง เพราะมองไม่เห็นตัวเอง เลยไม่อยากออกไปไหน เลยจะเก็บตัวหน่อย”

“แต่ช่วงหลังๆ ที่ออกมาพบแฟนๆ มากขึ้น เพราะคิดว่าอีกไม่นานจะสิ้นชีวิตแล้วเลยอยากออกมาเจอกันกลัวว่าจะไม่มีโอกาสค่ะ”

Advertisement

ทั้งนี้ เพชรายังได้พูดถึงอดีตพระเอกคู่ขวัญ มิตร ชัยบัญชา ทั้งน้ำตาถึงความรู้สึกผิดที่ติดค้างในใจ

“สงสารเขานะคะ แล้วก็รู้สึกผิดที่เพราะในวันที่เขาเสียชีวิต (8 ต.ค.2513) ความจริงเราต้องไปถ่ายภาพยนตร์กับเขา แล้วเขาน่าจะลืมว่าตัวเองเป็นผู้กำกับการแสดง วันที่เขาโหนบันไดลิงเขาลืมว่าข้างบนนะไม่ใช่เรา เป็นเพียงนักบินเอาหมวก เอาเสื้อเราไปคลุมไว้”

“เราก็ผิดเองที่ไม่ได้ช่วยสื่อสารกับนักบินว่าจะไปทางไหน นักบินเองก็ไม่รู้เรื่อง คนที่อยู่ข้างล่างก็ไม่รู้ ตอนนั้นนักบินก็บินไม่รู้ทิศทาง ไปไกลเกินกว่าที่กำหนด มิตรเองก็ยังโหนไม่ได้ที่ เขาไม่มีอะไรยึดก็ทนไม่ได้ เขาพยายามควานหาที่เกาะแต่ว่าเขาเจ็บข้อมือ เขาก็เกาะไม่ไหว”

Advertisement

เพชรายอมรับว่าตนยังรู้สึกผิดและติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน

“ถ้าวันนั้นเราไปเขาคงไม่มีอันเป็นไป พูดถึงเรื่องนี้ทีไรก็รู้สึกผิดบาป และรู้สึกเสียใจ ที่ตัวเองไม่ได้ไป ซึ่งมีคิวไปถ่ายนะ แต่ว่าติดถ่ายภาพยนตร์อีกเรื่องที่กำลังจะฉาย เราก็เลยต้องให้คิวอีกที่หนึ่งก่อน จึงไม่มีโอกาสไปเจอมิตร”

“อยากบอกว่าขอโทษในสิ่งที่เราถกเถียงกัน แล้วเราคิดว่าตัวเองถูก มาถึงวันนี้ถึงรู้ว่าที่เขาพูดเป็นความจริง อยากบอกว่าขอโทษ อโหสิให้เราด้วยแล้วกัน”

ทั้งนี้ เพชราเผยกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ได้มีโอกาสฟังละครโทรทัศน์สมัยนี้อยู่เหมือนกัน จึงพอรับรู้ความเป็นไปของนางเอกไทยในยุคปัจจุบัน

“สมัยก่อนนางเอกก็มีกรอบอยู่เยอะมากนะคะ ผู้หญิงจะแก่นแก้วเกินไปไม่ได้ พูดเสียงดังมากไม่ได้ มันมีความไม่ได้เยอะเลยสมัยนั้น ทำอะไรต้องพอดี ทำมากเกินไปจะถูกตำหนิ”

“แต่ในยุคนี้นักแสดงมีความสามารถและมีการศึกษาที่ดี บทบาทที่ได้รับก็ดี เก่งกันทั้งนั้นเลย เป็นนักแสดงที่ดีไม่มีอะไรมาก แค่ต้องตรงเวลาเท่านั้นเอง”

ส่วนสุขภาพในวัย 77 ตนมองว่าตัวเองสุขภาพแย่ลงไปมากเนื่องจากมีโรคความดันโลหิตเป็นโรคประจำตัว

“ก่อนหน้านี้ที่ดวงตามองไม่เห็นเราก็ร้องไห้คนเดียวตลอด บอกว่าตายก็ได้ช่างมัน เราก็คิดว่ามองไม่เห็นเราจะอยู่อย่างไร ตาเรามองไม่เห็น แล้วคนจะมองอย่างไร เราก็คิดมากไปหมด แต่ตอนนี้เราก็ดูแลสุขภาพตามวัยค่ะ ”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image