หลัง บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี และสามี เอกริน นิลเศรษฐี ออกมาโวยผ่านอินสตาแกรมเรื่องลูกค้า สแมชยิม ของเธอไม่มีที่จอดรถเพราะเจ้าของพื้นที่ให้เช่าอย่างฟิตเนส ‘911 by JT’ โดย เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ กันพื้นที่ให้ลูกค้าตัวเอง แถมพนักงานรับรถก็ยังพูดจาไม่สุภาพ
โดยหลังจากนั้นเพื่อนสนิทที่ทำหน้าที่ดูแลฟิตเนสให้เจนี่ก็ออกมาตอบโต้เป็นคลิปวิดีโอขณะเอกบุกเข้ามาหา พร้อมมีผู้อ้างว่าใกล้ชิดกับฝั่งเจนี่ให้ข่าวผ่านสื่อว่าบุ๋มไม่จ่ายค่าสัญญาเช่ามา 3 เดือนตั้งแต่เปิดให้บริการมา แถมยังไม่จ่ายค่าส่วนกลาง ทั้งค่าห้องน้ำและที่จอดรถ ทำให้ทาง 911 อาจพิจารณาไม่ต่อสัญญา ซึ่งเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางบุ๋มก็ออกมาเคลียร์ประเด็นเหล่านี้เป็นที่เรียบร้อย ทั้งยังบอกว่าถ้าเจนี่ชดเชยค่าก่อสร้างอาคารซึ่งจ่ายไป 3 ล้านบาท เธอก็อยากจะย้ายออกเพราะกลัวจะมองหน้ากันไม่ติด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้้น (‘บุ๋ม ปนัดดา’ ร่ำไห้เปิดใจศึกชิงที่จอดรถลูกค้าฟิตเนส เผยคิดย้ายออก กลัวมองหน้าไม่ติด)
ล่าสุดวันนี้ (27 มิถุนายน) เวลา 18.30 น. ที่ 911 By JT ถนนเกษตรนวมินทร์ ย่านแยกลาดปลาเค้า เจนี่พร้อมนายนิติธร แก้วโต ก็ได้แถลงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเจนี่กล่าวว่า ตนเองได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นซึ่งก็คือเรื่องที่จอดรถด้วยการไปเช่าพื้นที่ข้างๆ ไว้ ซึ่งจริงๆ แล้วปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดเฉพาะในช่วงคลาสซุมบ้าที่สัปดาห์หนึ่งมีการเปิดแค่ 4 วัน วันละ 1 ชั่วโมง ไม่ใช่ตลอดทั้งวัน นอกนั้นจอดได้ตามปกติ ขณะที่สแมชยิมเองเปิดบริการทั้งวันตั้งแต่ 07.00-23.00 น. แต่อย่างไรก็ตามต้องขอโทษลูกค้าสแมชยิมถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้เจนี่ยอมรับว่า ตอนแรกนั้นตนเป็นผู้มาหลังสุดที่มาร่วมกับหุ้นส่วนอีกคนและบุ๋ม แต่ด้วยอะไรก็ตามแต่ สุดท้ายสัญญาเช่านี้เป็นของตนเพียงผู้เดียว บุ๋มเป็นเพียงผู้เช่า แต่ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น
ด้านนายนิติธรได้กล่าวถึงเรื่องสัญญาเช่าว่า ได้มีการทำสัญญาเช่าระหว่างเจนี่และนายอาทิตย์ หุ้นส่วนของบุ๋ม ที่จะต่อเติมสิ่งปลูกสร้างและจะประกอบการเป็นฟิตเนสซึ่งได้มีการส่งมอบพื้นที่ให้ผู้เช่าแล้ว โดยช่วงต่อเติมก็ไม่ได้มีการเก็บค่าเช่า และระบุว่าจะเริ่มเก็บเมื่อพร้อมที่จะเปิดธุรกิจ จากนั้นเมื่อเปิดธุรกิจก็ได้มีการวางบิลเรียกเก็บเงินค่าเช่าตั้งแต่เดือน มี.ค.-มิ.ย. แต่ยังไม่มีการชำระทั้งค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าบริการจากทางสแมชยิม ซึ่งสัญญาเช่ากำหนดไว้ชัดเจนว่าถ้าไม่ชำระ 2 งวด ผู้เช่าสามารถยกเลิกสัญญาได้
นายนิติธรยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีสัญญาในข้อ 2 ระบุว่า ผู้เช่าต้องไม่ทำให้อีกฝ่ายเสื่อมเสียชื่อเสียง ถ้าอีกฝ่ายทำให้เสียชื่อเสียงขอยกเลิกสัญญาได้ ส่วนข้อต่อไป คือ เรื่องการประกอบธุรกิจ ซึ่งบุ๋มประกอบธุรกิจฟิตเนส แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือมีการประกอบธุรกิจอื่นนอกจากฟิตเนส
ซึ่งเจนี่กล่าวเสริมว่า “911 เจนี่เป็นเจ้าบ้าน แล้วเจนี่ก็มีลูกบ้านหลายๆ คนด้วยกัน มีร้านตัดผมของคุณนานา มีร้านนวด มีซุมบ้า มีมวย มีคอฟฟี่คลับ แล้วก็มีสแมชยิม ซึ่งแต่ละบ้านจะทำธุรกิจที่ไม่เหมือนกัน ส่วนสแมชยิมธุรกิจก็คือ ทำการยกเวท แล้วก็จะไม่มีการทำอย่างอื่นเลย ซึ่งตัวพี่บุ๋มเองล่าสุดก็คือมีการทำคลาสเต้นขึ้นมา ซึ่งมันตรงกับคลาสซุมบ้าของเจนี่ที่เจนี่มีอยู่ใน 911 อยู่แล้ว ที่สำคัญก็คือ โยคะ แล้วโยคะนี่ก็คือ 911 ก็สอนโยคะด้วย อีกอย่างที่เจนี่อยากพูด คือ เรื่องของอาหารคลีนแล้วก็น้ำดื่ม ซึ่ง 911 ก็มีขายอาหารแล้วก็ขายน้ำด้วย ตอนนี้พี่บุ๋มก็มีขายน้ำด้วยเหมือนกัน”
อย่างไรก็ตาม สำหรับคลาสที่ทางบุ๋มเปิดขึ้นมาใหม่นั้น เจนี่ยอมรับว่ามีการแจ้งมาก่อน โดยบอกว่าเป็นคลาสที่ไม่เหมือนกับ 911 เปิดอยู่ แต่ตนขอไม่ตัดสินว่าถ้าเห็นทั้ง 2 คลาสอยู่ด้วยกันจะคิดว่าเป็นคลาสเดียวกันหรือไม่ ซึ่งทางบุ๋มก็เขียนว่าเป็นคลาสโยคะเช่นเดียวกันกับที่ 911 เขียนไว้
“จริงๆ การทำธุรกิจอยู่ในบ้านเดียวกัน เจนี่ว่าโดยพื้นฐานเราควรจะรู้ว่าไม่ควรที่จะทำอะไรเป็นคู่แข่งกัน ควรช่วยเหลือกันและกัน ช่วยกันทำคลาสที่แตกต่างกัน แต่ที่ชัดเจนคือเรื่องของอาหารคลีนที่มีอยู่ ก็มีลูกบ้านเขามาเช่าแล้วทำอาหารคลีนอยู่ ก็ไม่อยากให้ลูกบ้านรู้สึกว่าอยู่ที่นี่แล้วลำบากใจ เพราะมีของที่ขายเหมือนกันแต่ราคาแตกต่างกัน” เจนี่กล่าว
จากนั้นนายนิติธรได้กล่าวว่า ที่เจนี่เงียบหายไปได้มีการพูดคุยกันสองฝ่ายแล้วว่าลำบากใจที่จะทำธุรกิจร่วมกันจึงจะมีการยกเลิกสัญญาเช่า และมีการชดเชยส่วนที่บุ๋มได้ก่อสร้างไปจำนวน 3,000,000 บาท ตามที่บุ๋มเสนอก่อนหน้านี้เพื่อเป็นการยุติปัญหา
“เรื่องการดำเนินคดีอันนั้นให้เป็นเรื่องในอนาคต แต่ในแนวการดำเนินคดีของผม ผมไม่เน้นฟ้องร้องคดี ผมเน้นคุยมากกว่า เพราะคนฟ้องเขาไม่ได้คุยกัน สุดท้ายไปถึงศาล ศาลก็ต้องไกล่เกลี่ย เอาเวลาไปเสียรบกวนศาล รบกวนทนายท่านอื่นคงไม่จำเป็น” นายนิติธรกล่าว
ทั้งนี้ สำหรับเรื่องสัญญาที่บุ๋มแจงว่ารอจากทางเจนี่อยู่ แม้จะทวงถามก็ยังไม่ได้รับ ทนายความกล่าวว่า สัญญาหลักยังคงมีอยู่ ไม่ได้ตกเป็นโมฆะ เพราะจะตกเป็นโมฆะได้ก็ต่อเมื่อมีวัตถุประสงค์ต้องห้ามชัดแจ้งตามกฎหมาย แต่นี่มีการเซ็นทั้งของผู้เช่าและผู้ให้เช่าชัดเจน จึงสามารถนำไปใช้ประกอบกับทางบัญชี ใช้ในการวางบิลเพื่อสั่งจ่ายเช็คมาชำระค่าเช่าได้
โดยเจนี่กล่าวเสริมว่า สัญญาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เพราะเป็นธุรกิจแรกของตนที่เพิ่งเปิด สัญญาเหมือนชีวิตทั้งชีวิต ถ้าจะทำสัญญาใหม่ต้องดูอย่างละเอียดและรอบคอบ ซึ่งเมื่อเห็นคลาสที่ตรงกัน เห็นการที่วางบิลแล้วไม่ได้จ่าย รายละเอียดสัญญาจึงต้องมีเยอะขึ้น
ส่วนกรณีที่มีพนักงานของ 911 นำคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดไปเผยแพร่ว่า เดี๋ยวเรื่องนี้คงต้องไปตกลงกันทีหลัง พร้อมย้ำว่ากรณีนั้นเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวกับทาง 911
ขณะที่เจนี่ได้ย้ำว่า “เจนี่ยังเคารพพี่บุ๋มเป็นพี่คนหนึ่ง ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของธุรกิจระหว่าง 911 กับสแมชยิม ยังเคารพพี่บุ๋มเป็นพี่สาวคนหนึ่งอยู่ แล้วก็พร้อมที่จะขอโทษลูกค้าสแมชยิมที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องที่จอดรถ ต่อไปนี้เจนี่จะปฏบัติให้ดีขึ้น จะหาคนมาจอดรถเพิ่มด้วย”
