‘ธงชัย ประสงค์สันติ’ แจงเหตุผลหอบ ค่ายพอดีคำ ซบช่องวัน รับใจหาย แต่ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลง

วันนี้ (29 ม.ค.) เวลา 14.00 น. ที่บริษัท พอดีคำ เอ็นเทอร์เทนเมนต์ จำกัด ซอยรามคำแหง 104 ผู้จัดละครคนเก่ง ธงชัย พร้อมภรรยาคนสวย เก๋ มณีรัตน์ ประสงค์สันติ เชิญสื่อมวลชนร่วมฟังคำชี้แจงถึงกรณีข่าวลือที่มีการโยกย้ายค่ายจากช่อง7 เตรียมซบช่องวัน ซึ่งก่อนที่เรื่องดังกล่าวจะลุกลามไปมากขึ้น ทางธงชัยได้ขอเปิดใจเรื่องนี้มาว่า ตนลาจากช่อง7 ไปร่วมงานกับช่องวันจริง นับตั้งแต่เป็นข่าวตนเกิดความไม่สบายใจเลย จึงตัดสินใจออกมาชี้แจง ซึ่งเบื้องต้นค่ายพอดีคำไม่มีปัญหากับช่อง7

“รู้สึกขอบคุณช่อง7 ที่ให้โอกาสเรา ให้โอกาสมาตั้งแต่ยุคของ คุณแดง สุรางค์ เราเป็นเกียรติที่ได้ทำละครกับช่อง7 แล้วช่อง7 แข็งแรง ผลักดันพอดีคำมาได้ไกลมาก แต่สุดท้ายก็ต้องมีจาก จากกันด้วยดี”

เหตุผลที่ตนตัดสินใจเปลี่ยนแปลงเพราะลูกชาย แผ่นดิน ประสงค์สันติ ต้องการผลิตคอนเทนต์ใหม่ๆ บวกกับตนผันตัวไปผลิตภาพยนตร์ในนาม BuffaloFilm เตรียมผลิตภาพยนตร์เรื่อง เลิฟยู โคกอีเกิ้ง

“ตอนนี้มีแพลตฟอร์มมากมายบุกมา แล้วผมก็อายุเยอะแล้ว ถึงเวลาที่จะให้ลูกมาบริหาร เพราะมีอะไรที่เราทำไม่ได้เยอะแยะ ”

Advertisement

“แล้วพอมีคนรุ่นใหม่มาเราต้องขยายงาน และไปได้ไกลหน่อย ความฝันเราคืออยากทำภาพยนตร์ เราคงคิดตอนนี้จะค่อยๆวางมือ แล้วให้คนรุ่นใหม่มาทำงาน ”

ทั้งนี้ตนและทีมงานยังเคารพและคิดถึงช่อง7 อย่างมาก ยืนยันว่าไม่มีการแตกหักแต่อย่างใด

“ผมรักงานทุกชิ้น รักทุกอย่าง พอถึงวันเปลี่ยนแปลง ผมหวั่นไหวในความรู้สึกมาก ”

Advertisement

“เราเห็นนะมีคนคอมเมนต์ด่าเรา ยังคิดเลยว่าถึงคิวเราแล้วหรือเนี่ย ก็ดีโดนด่า รับได้ เราจะได้มีสติ แต่ขอบคุณคนที่รักเรานะ เราดีใจมาก”

“ตอนนี้ผมเหมือนเป็นครูบ้านนอกย้ายไปในเมือง งานขยายใหญ่มาก แต่ต้องสู้ ไม่อย่างนั้นบริษัทผมหาย”

ทั้งนี้ตนอยากผลิตเนื้อหาเกี่ยวกับเพลง อยากเป็นผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ ละครเวที และภาพยนตร์ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดช่องวันพร้อมสนับสนุนพอดีคำเต็มที่

ซึ่งทาง เก๋ มณีรัตน์ กล่าวเสริมว่า พอดีคำได้เจรจาเรื่องดังกล่าวกับช่อง7 ตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งวิกหมอชิตเคารพในการตัดสินใจทางบริษัท

“คุยเคลียร์เรียบร้อย ไม่ได้คบซ้อน ทำทีละขั้น ถึงก้าวออกมา ซึ่งกับช่องวันเราก็เข้าไปหา ไม่มีการซื้อตัวค่ะ ”

ธงชัยกล่าวเสริมว่า ตนอยากวางรากฐานให้ลูก และไม่มีความขัดแย้งใดๆ ไม่มีการน้อยใจวิกหมอชิตที่เสนองานไปแล้วไม่ตอบรับ ตามที่มีข่าวลือ มีเพียงความต้องการอยากขยับขยาย อีกทั้งการตัดสินใจครั้งนี้ไม่มีทำให้ช่อง7 สั่นสะเทือนแต่อย่างใด

“โอกาสที่กลับมาก็มี แล้วผู้จักคนอื่นเขามีเยอะด้วย เราก็ใจหาย แต่ต้องไป แล้วที่ผมไปเขามีอะไรให้ผมทำพอสมควร”

“ผมอาจไปทำพิธีกรคลายเหงา แต่ที่เหลือภรรยาและลูกทำ”

ตอนนี้การทำงานระหว่างตนและช่องวัน ยังไม่สามารถลงรายละเอียดหรือลงขั้นตอนได้เนื่องจากตนอยากให้คุณบอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ เป็นผู้ตอบคำถามเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ทั้งนี้ในเวลาปัจจุบันระหว่างช่องวันและพอดีคำเป็นการเจรจาเบื้องต้น

“ที่ตัดสินใจร่วมงานกับช่องวันเพราะจังหวะครับ อาจจะฟ้าลิขิต ส่วนเรื่องเรตติ้งคือก็ต้องปรับตัวไม่รู้จะเจออะไรบ้าง ต้องก้าวต่อไป”

ส่วนที่มีคนมองว่าตนเนรคุณช่อง7 นั้น ตนยอมรับว่าจิตตก

“ผมไม่โกรธ ผมเองก็เสียใจ ผมรักช่อง7ครับ แต่ดีแล้วจะทำให้เรามีสติ ”

สำหรับอนาคตคอนเทนต์ที่ตนและบริษัทจะผลิตต่อจากนี้นับเป็นความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ ที่ตนจะต้องเรียนรู้ และปรับตัวอีกมาก แล้วสถานที่ทำงานใหม่เป็นสถานีโทรทัศน์ที่ร่วมสมัยและปรับตัวเสมอ

“ชีวิตผมก็ไม่เรียบง่าย ต้องเผชิญกันไป ที่ว่าละครโทรทัศน์อาจจะเรตติ้งน้อยลงเพราะความนิยมของสถานีโทรทัศน์ใหม่ก็ต้องปรับกันไป เราเผชิญด้วยสติ ทุกอย่างที่มาจากสองมือของเราเรายอมรับได้อยู่แล้ว”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image