เรียกว่าเป็นสุดยอดคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสายสตรองของน้อง ฑีฆายุ สำหรับ แอนนี่ บรู๊ค ที่เจ้าตัวมาเปิดเผยเรื่องราวผ่านรายการ DARASTORY บันเทิงเรื่องใหญ่ ถึงมรสุมชีวิตและเจอปัญหาหนักๆ มามากมาย จนหายหน้าหายตาไปจากวงการ เพราะต้องเป็นเสาหลักหาเงินเลี้ยงครอบครัวรวมถึงดูแลลูกชายและคุณแม่ที่ล้มป่วยอีกด้วย
โดยเจ้าตัวได้เล่าถึงการตัดสินใจไปเป็นนักร้องในผับที่ต่างประเทศว่า
“ตอนนั้นไม่มีงานไม่มีเงินและลูกก็กำลังจะเข้าอนุบาลแล้ว จำได้ว่าเหลือเงินในบัญชี 3,000 บาทได้“
“เราก็มองว่ามันน่าจะได้เงินเร็วและได้เงินเยอะ เราคิดว่าเราเป็นคนสนุกสนาน เอนเตอร์เทนเก่งก็น่าจะไปได้ในเวลาที่รวดเร็ว อยู่ 15 – 20 วัน ก็ได้มา 50,000 – 80,000 บาท แต่เราก็ต้องประหยัดมากๆ“
นอกจากร้องเพลงก็ต้องไปเจอแขก ต้องหาลูกค้ามาคล้องมาลัยให้ โดยการเดินทางไปด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว เลยมีประสบการณ์หนีตำรวจด้วย
“เคยเจอที่มาเลเซีย เขาเอารถสิบล้อมารอรับเลย เราเห็นเท่านั้นแหละก็รีบวิ่งหนีเลยเหมือนในหนังเลยค่ะกลัวมากเพราะถ้าโดนจับนี่คือเข้าคุกเลยก็ไม่รู้ว่าร้านจะมาประกันตัวไหม“
“จนวิ่งเข้าไปที่ตึกแล้วก็กดลิฟต์ขึ้นไปซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่าคือที่ไหน จนไปเจอสระว่ายน้ำข้างบนก็ถอดเสื้อผ้าแล้วกระโดดน้ำเลย“
กับการที่เคยถูกเมาธ์ว่าไปขายตัวที่ต่างประเทศนั้น แอนนี่ก็ชี้แจงว่า
“คนเขาก็จะมองว่าคนที่ไปทำงานต่างประเทศนั้นไปขายแน่นอน เรียกว่าโดนตราหน้า นอกจากจะบอกว่าไปเรียนต่อค่ะ แต่เราไม่สนใจก็บอกไปว่าไปทำงานค่ะเพราะเราไปทำงานจริงๆ“
อย่างไรก็ตามเมื่อสอบถามว่ามีคนมาติดต่อให้ไปเป็นเมียน้อยจริงไหม แอนนี่ก็ยอมรับว่ามีจริง
“มีค่ะ เขาก็มาบอกว่าชอบเรามากอยากให้คุณมาเป็นแฟนแต่มีค่าใช้จ่ายให้นะ เดือนล่ะ 1 – 2 แสน และก็ขอมีอะไรด้วยเดือนล่ะ 2 – 3 ครั้ง บอกชัดเจนมากมีหลายคนคือเขาอินบ็อกซ์เข้ามา บางทีก็มีคนที่เคยรู้จักกันตามงานทักมาก็มี ตามประสาผู้ชาย“
“แอนตอบกลับไปว่าถ้าพี่มีเมียอยู่แล้วสักวันหนึ่งเมียพี่ก็ต้องรู้“