‘เอลิเซียม’เรื่องที่คนรุ่นนี้ห้ามเมิน

สภาพอากาศร้อนร้ายวันนี้ ทำให้หวนนึกถึงหนังบู๊วิทยาศาสตร์เมื่อสองปีก่อน ‘Elysium’ (เอลิเซียม) ซึ่งให้ภาพลอส แองเจลิสปี พ.ศ. 2697 (ค.ศ. 2154) ร้อยกว่าปีข้างหน้า ซึ่งโลกล่มสลาย ฝ่ายอภิสิทธิ์ชนขึ้นไปสร้างสถานีอวกาศหวนคืนโลกที่เคยงามพร้อมในอดีต อันร่มเย็นด้วยธรรมชาติแวดล้อม และผู้คนซึ่งมีแท่นรักษาพยาบาลประจำบ้าน ไม่ว่าโรคร้ายแรงขนาดไหนก็เยียวยากลับเป็นคนใหม่ที่แข็งแรงสมบูรณ์ได้

ส่วนชาวบ้านที่เหลือนับล้านๆ ก็กลายเป็นคนสกปรกยาจกเข็ญใจหรือเที่ยวปล้น ฉก ชิง วิ่งราวยังชีพ ภาพที่เห็นในจอคือโลกซึ่งสิ่งปลูกสร้างพังทะลาย ฝุ่นทรายคละคลุ้ง ระดะไปด้วยเพิงอาศัยซอมซ่อ

แมท เดมอน เป็นอดีตโจรขโมยรถซึ่งล้างมือเป็นกรรมกร ทำงานโรงงานที่บรรดาอภิสิทธิ์ชนข้างบนกำหนด โดยเห็นชีวิตชาวบ้านเป็นแค่มดปลวก ที่บริการตอบสนองคนบนเมืองอวกาศ ไม่มีสิทธิ์ขึ้นไปเสพรับความสะดวกสบาย

3

Advertisement

หนังของผู้กำกับนีล บลอมแคมป์ เรื่องนี้ (2556) ถูกเสนอชื่อเข้าชิงตุ๊กตาทองออสการ์ 1 ตัวสาขาบทหนังดัดแปลงยอดเยี่ยม ซึ่งผู้กำกับเขียนเองด้วย ประเด็นที่พูดไม่เกี่ยวกับเรื่องหนัง ก่อนหน้านี้ผู้กำกับคนเดียวกัน ทำหนังอีกเรื่องซึ่งเข้าชิงออสการ์ถึง 4 ตัวคือ ‘District 9’ (ดิสทริค 9) ก็เป็นนิยายวิทยาศาสตร์ที่ให้ภาพโลกอนาคตซึ่งยับเยินด้วยมือมนุษย์มาแล้วเช่นกัน

ประเด็นคือ สภาพเลวร้ายของพลโลกล้นหลามที่เห็นในหนัง มิใช่ภาพซึ่งเป็นไปไม่ได้ หากมองรอบตัววันนี้ที่สภาพอากาศเดือดระอุอย่างไม่เคยปรากฏ แม่น้ำใหญ่ คลองน้อย ห้วยละหานเล็กๆ แห้งผาก ปูปลาสัตว์น้ำลอยตายเน่าเหม็น พ้นจากบ้านเราไป แผ่นดินไหวร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ ภูเขาไฟหลายแห่งพร้อมปะทุ และการเคลื่อนของเปลือกโลกก่อคลื่นยักษ์สึนามิติดต่อกันหลายคราว นอกเหนือพายุใหญ่และน้ำท่วมหลากกลืนชีวิตและทรัพย์สินมหาศาลในหลายประเทศ

หากคนรุ่นนี้ไม่มองอนาคต เกิดมาแล้วปล่อยชีวิตไปตามยถากรรม พ่อแม่หาโรงเรียนให้เรียน เรียนจบกระเสือกกระสนหางานทำหาเงิน แต่งงาน ปล่อยให้ลูกออกมาตามมีตามเกิด โลกนี้จะรับรองได้ไหวไปอีกนานเท่าไหร่

Advertisement

หากคนรุ่นนี้ไม่เร่งเข้าไปมีส่วนกำหนดการเมือง เพื่อกำหนดทิศทางประเทศ กำหนดเป้าหมายของการมีอยู่มีกินตามอัตภาพ มิใช่ปล่อยให้ช่องว่างแบบทุนนิยมผูกขาดถ่างกว้างออกไปเรื่อยๆ อย่างนั้นภาพที่เห็นกันคุ้นตาในหนัง ก็คงได้เห็นเป็นความจริงในไม่ช้า
แค่ไม่มีน้ำกินน้ำใช้อย่างเดียว ลองคิดกันดูว่าแต่ละคนจะทนกันได้กี่วัน และเมื่อเป็นเช่นนั้น ทำไมไม่ร่วมมือกันขจัดปัญหารกเรื้อเลอะเทอะนี้ให้หมดไปเสียก่อน

บรรดาอภิสิทธิ์ชนมองหน้าเห็นๆกันอยู่นี้เอง ไม่ได้ขึ้นไปอาศัยบนเมืองอวกาศสักหน่อย

หรือบรรดาคนมีมากก็ยังอยากมีมากขึ้นไปอีก ไม่สนใจคนมีน้อย ที่เดี๋ยวนี้ก็ยังไม่รู้คิดจะร่วมกันหาทางสร้างเครือข่ายเอาตัวรอดจากวิบัติในอนาคตอย่างไร คิดแผ้วถางกากขยะการเมืองให้พ้นวงจรเอารัดเอาปรียบผู้คนไปให้ได้แบบไหน

ไม่ใช่หนังก็ส่วนหนัง คนก็ส่วนคน เพราะหนังชีวิตที่คน(คือเราทุกคน)แสดงทุกวัน แล้งร้ายจนจะสิ้นหวังในอนาคตอยู่รอมมะร่อแล้ว.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image