สิ่งที่ค้นพบของ ‘คุณชายอดัม’ ที่สะท้อน ให้เห็นภาพชัดๆ ของดารา-นักแสดงในวงการมายา

ออกพูดเล่าเรื่องและพูดถึงวงการบันเทิงอยู่บ่อยครั้ง สำหรับ ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล หรือ คุณชายอดัม ผู้กำกับชื่อดัง ที่ล่าสุดก็ได้เผยถึงเรื่องราวที่คุณชายอดัมบอกว่า ค้นพบระหว่างนั่งทำแคสติ้งซีรีส์ของตน

“นั่งทำแคสติ้งซีรีส์ที่ตัวเองทำเรื่องต่อไป …ค้นพบว่า

– คนสวยในไอจีบางครั้งก็ไม่ใช่คนสวยในทีวี หล่อสวยแบบอยากเป็นแฟนจัง กับหล่อสวยแบบขึ้นกล้องได้ต่างกันนะ

– วัยรุ่นจำนวนหนึ่งคิดว่ายอด Follower ทำให้ตัวเองเป็นพระเจ้า … บางครั้งอาจจะเป็นเพียงพระเจ้าครีมกระปุกก็เป็นได้

Advertisement

– นักแสดง/ไอดอลจำนวนมากช่วงนี้กลับมาถือสินค้าผิดกฎหมายอีกครั้งเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา …การ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์เป็นการ์ดคอมม่อนที่เปิดใช้บ่อยจนชินชาในสังคมไทย

– อยากให้นักแสดงอายุมากขึ้นสอนเด็กสมัยนี้ว่าอย่าหยิ่งผยองพองตัวมาก พอถึงอายุช่วงหนึ่งมันจะมีช่วง “วืดดดดดด” แล้วจบเห่เหมือนกัน ถึงตอนนั้นความที่เล่นตัวกับคนอื่นไว้จะกลับมาชนเราเอง

– พวกงานสุกเอาเผากินแต่ปากหวานมักจะเก็บนักแสดงหน้าใหม่ได้ดีกว่าพวกทำงานแต่ปากตรงกับใจ …ดังนั้นจำไว้ว่าอยู่ในวงการ ให้หลอกลวงกันไว้เยอะๆ

Advertisement

– เด็กวัยรุ่นหน้าตาดีส่วนใหญ่คิดว่า การเป็นเบลล่า รานี หรือเป็นญาญ่า อุรัสยา มันเป็นเรื่องเกิดขึ้นชั่วข้ามคืน บางคนทำงานหลังแทบหักกว่าจะขึ้นไปจุดนั้นได้ ….ผมเจอนางเอกระดับประเทศหลายๆ คนที่เริ่มต้นจากการวิ่งโมเดลลิ่งบทเอ็กซ์ตร้า แต่พอเล่นเยอะๆ เค้าก็ดันจนได้เล่นบทใหญ่

– สิ่งที่ตามมาจากความคิดข้อก่อนหน้าคือเด็กสมัยใหม่คิดว่า นักแสดงเบอร์ตองมีวันหยุด 6 วัน แล้ววันเล่นละคร 1 วันเบาๆ ที่สามารถทำอะไรก็ได้ตามใจฉัน ก็เลยคิดว่าสวยหล่อแล้วสามารถทำตัวอะไรก็ได้ใส่ผู้ใหญ่ นายทุน และผู้บริหารช่อง ซึ่งจะต้องมาก้มกราบขอร้องให้มาทำงานให้ …ซึ่งจริงๆ แล้วมันคือการทำงานแบบมืออาชีพ และทุกคนก็ทำงานหนักมากจริงๆ

– เด็กใหม่ๆ สมัยนี้เกิน 50% เบี้ยวแคสติ้ง …รับปากไปไม่เป็นรับปาก ต่อให้เป็นซีรีส์ใหญ่โตค่าตัวเป็นพันๆ ล้านบาทก็ตามแต่ เพราะตัวเองไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่จะส่งผลต่อตัวเองอย่างไรในอนาคต

– เด็กๆ อยากอยู่ในวงการ 99.99% ไปไม่ถึงดวงดาวเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คนจะเป็นนักแสดงดาวค้างฟ้าได้มันต้องมีส่วนผสมหลายอย่างมากๆ ไม่ใช่สวยแต่รูปจูบไม่หอม

– แค่คุมความประพฤติตัวเอง ไม่สำส่อน ไม่หลงไหลในแสงสี ไม่หวังเงินก้อนเล็กแล้วไม่แคร์งาน …แค่ด่านประมาณนี้ก็จบไปเกินครึ่งของคนที่จะขึ้นมายืนแท่นระดับพระนางคู่ใหม่

– การฝึกการแสดงของบ้านเรายังด้อยกว่าต่างชาตินัก …นักแสดงจำนวนมากเลือกเอาไปบำรุงสภาพผิวและการเที่ยวหรือทำบุญ แต่มีจำนวนน้อยมากที่ไปหาลงเรียนแอคติ้ง Workshop กับครูดีๆ หรือการฝึกยืนเดินนั่ง ฝึกบุคลิกภาพ ฝึกภาษา ฯลฯ

– เล่นบทที่ไม่ใช่ 50 เรื่องก็ไม่ดังเท่าเล่นบทที่โดนและใช่ 1 เรื่อง …อันนี้คนไม่เข้าใจ

– พริตตี้หน้าตา ผิว และบุคลิกดีมีเยอะมาก แต่มักเลือกงานมอเตอร์โชว์มากกว่าไปเป็นนักแสดงเบอร์ใหญ่ เช่นเดียวกับสาวเชียร์เบียร์และนายแบบโชว์ตัว

– อายุการเริ่มเข้าวงการระดับพระนางควรจะอยู่ที่ 16-25 ….เกินกว่านั้นนายทุนหรือค่ายหรือช่องก็คิดว่าหมดโอกาสแจ้งเกิดแล้ว ….เด็กส่วนใหญ่คิดว่าตัวเอง 30-40 ก็เริ่มเข้าวงการเป็นนางเอกได้ …ซึ่งผิด

– ที่น่าเสียดายคือนักแสดงมืออาชีพ เล่นดีๆ ในเมืองไทยมีเยอะ ขาดที่หน้าตาเขาไม่ได้เอื้อให้เป็นพระนางหรือนักแสดงดังได้ …ที่น่าสงสารคือพวกเขาเหล่านี้มองคนที่น่าจะมีโอกาสไปได้ดีกว่าเค้าทำลายโอกาสดีๆไปครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วคิดกับตัวเองว่า “ทำไมฉันถึงไม่ได้โอกาสนี้บ้าง”

– ทีมงานและคนทำงานในวงการคุยกัน …พวกเขามีบัญชีหนังสุนัขปกดำที่จะคอยจำชื่อคนคิดและทำไม่ดีไว้ แล้วก็มักจะแชร์กันอยู่เสมอๆ เพื่อไม่ให้เสียเวลาการทำงานอันมีค่าของคนทำงาน

– โมเดลลิ่งสมัยนี้ชอบทำตัวเป็นโมเดลลิ่งหว่าน …คือไม่ปั้นคน แต่เหมาเอาหัวคิวแทน …ทำให้วงการสร้างนักแสดงใหม่ๆ ดีๆ ยาก

– แล้วพวกทีมงานหลอกฟัน หลอกลวง หลอกใช้ ก็เยอะ ทำให้คนที่น่าจะไปได้ไกลเข็ดขยาดแล้วก็หนี

– พวกโดนดองไว้ก็มีมาก …พวกนี้คิดว่าจะมีโอกาสดีกับที่ที่มีคนเยอะๆ แต่ท้ายสุดก็มีแค่งานเล็กๆ เพื่อเลี้ยงเค้าไว้ในโหล …พอดองจนหมดอายุขัยก็ปล่อยมาตามยถากรรมในวงการแทน

….ว่าแล้วก็วางแคสต่อไป ทดไว้ในหัวในระหว่างการทำงาน”

ขอบคุณภาพจาก เฉลิมชาตรี ยุคล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image