กรณี นกน้อย อุไรพร ศิลปินหมอลำชื่อดัง เสียงอีสาน ออกมาร้องไห้ไลฟ์สด งานหด เจ้าภาพยกเลิกงานแสดง ไม่มีเงินใช้หนี้ ไม่มีแม้แต่เงินเติมน้ำมันกลับอุดรธานี หลัง ครม.มีมติให้มหรสพทุกประเภทหยุดการแสดง เพราะวิกฤตไวรัสโควิด-19 ทำให้เจ้าภาพยกเลิกงานแสดงในเดือนมีนาคมและเมษายน ทำให้ลูกวงเสียงอีสานเดือดร้อน วอนเจ้าหนี้ให้เห็นใจ ชะลอหรือพักหนี้ เพราะวันนี้ไม่มีแม้เงินเติมน้ำมันกลับอุดรธานี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนกน้อย อุไรพร ใน อ.เมือง จ.อุดรธานี พบนางอุไร ฉิมหลวง อายุ 63 ปี หรือนกน้อย อุไรพร ศิลปินหมอลำชื่อดัง ซึ่งเดินทางกลับมาบ้านและเปิดใจถึงสาเหตุการร้องไห้ไลฟ์สด ว่าวันที่ 18 มีนาคม ได้นำวงเสียงอีสานไปแสดงแถว จ.ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี และพักวงอยู่ที่ มจร (มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย) ลูกวงบางคนก็กลับบ้าน ซึ่งตนได้แจ้งว่าให้ฟังข่าวและอัพเดตข่าวจากหน้าเพจเสียงอีสานตลอด ต่อมาได้มีประกาศของมติคณะรัฐมนตรีให้หยุดการแสดง หยุดชุมนุม ตนก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งยกเลิกงานเดือนมีนาคม ซึ่งมีกว่า 10 งาน
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
นกน้อยเปิดเผยต่อว่า นอกจากจะมีเจ้าภาพโทรมายกเลิกงานแล้ว ยังมีหัวหน้าวงหมอลำ ซึ่งตนเป็นประธานชมรมหมอลำเรื่องต่อกลอนภาคอีสาน โทรมาสอบถามและปรึกษาว่าเสียงอีสานถูกเจ้าภาพยกเลิกงานหรือไม่ ตนก็บอกว่าถูกยกเลิกงานเหมือนกัน ไม่มีงานยาวไปถึงเมษายน แม้ว่าเจ้าภาพบางรายจะยังไม่ยกเลิก ขอปรึกษาและไม่ให้ตนยกเลิก แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเป็นมติ ครม. ต้องเชื่อฟังและทำตามมติ อีกทั้งลูกวงเห็นว่าไม่มีงาน จะไปสมัครที่วงอื่นเพราะมีหนี้สิน และยังมีลูกวงอื่นโทรมาสมัครกับตน วุ่นวายไปหมด
นกน้อยเปิดเผยต่อไปว่า จึงบอกให้ลูกน้องไลฟ์สดเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น คล้ายกับเป็นการแถลงข่าว ไม่ได้ออกมาเรียกร้องขอความเห็นใจ ตนไม่ได้กินข้าว ไม่ได้แต่งหน้า พูดไปเรื่อยๆ เรื่องถูกยกเลิกงาน งานก็คือเงิน ไม่มีงานก็ไม่มีเงิน แม้แต่จะเติมน้ำมันกลับอุดรธานี อีกทั้งวอนให้เจ้าหนี้เห็นใจ ว่าเราไม่หนีไปไหน แต่ให้ชะลอหนี้ พักหนี้ อีกทั้งลูกน้องในวงระส่ำระสาย เมื่อไม่มีงานก็จะไปสมัครไปอยู่วงอื่น ก็แจ้งบอกว่าไม่ใช่แต่วงเรา ทุกวงถูกเจ้าภาพยกเลิกงานหมด ตกงานกันทุกวง ทำให้ตนร้องไห้ ไม่ใช่ว่าร้องไห้ขอให้วงเสียงอีสานได้แสดง
“นอกจากพิษเศรษฐกิจทำให้คนตกงานมาก ยังมาผนวกกับพิษไวรัสโควิดอีก แม่นกน้อยร้องไห้เพราะช็อก มองทิศทางไม่ออกว่าจะทำอย่างไร หรือจะไปทางไหน ไม่ได้ร้องขอความเป็นธรรม แต่นักเลงคีย์บอร์ดออกมาด่าว่าออกมาโอดครวญ ด่ารัฐบาล ไม่เคยคิดจะต่อต้านรัฐบาลเลย หลังจากไลฟ์สดออกไปก็มีแฟนคลับ หรือคนใจบุญ โอนเงินค่าน้ำมันมาให้ 3,000 บาทบ้าง 200 บาทบ้าง 50 บาทก็มี จึงได้กลับมาอุดรธานี เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทพิสูจน์ ทำให้รู้ว่าใครรักเรา กอดคอกันไปด้วยกัน ร่วมชะตากรรมเดียวกัน”
