ขำขันน้ำตาซึม! ‘นี่คือสถานแห่งภาพข้างหลัง’ ละครเวทีสุดแสบสันต์

อย่าลืม ‘เบื้องหลัง’ ที่ปลูกสร้างความเป็นเราในวันนี้

‘นี่คือสถานแห่งภาพข้างหลัง’ คือละครเวทีแนวคอมเมดี้-ดราม่า ที่ฟังชื่อทีแรกชื่อก็พางง ว่าตกลงนี่มันคือละครเรื่องอะไรกันแน่

เมื่อได้ชมก็พบคำตอบว่า ละครเวทีเรื่องนี้ถูกดัดแปลงโดยได้รับแรงบันดาลใจอย่างเปี่ยมล้นมาจากวรรณกรรมชิ้นเอกเรื่อง ‘ข้างหลังภาพ’ ที่ประพันธ์โดย ศรีบูรพา และอาจจะกล่าวได้เป็นนัยว่าบทประพันธ์สุดคลาสสิกอย่าง ‘บ้านทรายทอง’ ของ ก.สุรางคนางค์ ก็อาจเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้ ปานรัตน กริชชาญชัย เขียนบทละครเรื่องนี้ขึ้นมาเหมือนกัน

03

Advertisement

เพราะละครเรื่องนี้ เล่าเรื่องของสามศรีพี่น้องอันประกอบไปด้วย ‘ชายกลาง’ ผู้เป็นพี่ใหญ่, ‘หญิงกีรติ’ พี่สาวคนกลาง และ ‘หญิงพจมาน’ น้องเล็กผู้เป็นดาราชื่อดัง ที่ความสัมพันธ์ไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไร ยิ่งเมื่อหญิงพจเดินทางกลับมาบ้านสวน พร้อมด้วย ‘เรน’ แฟนหนุ่มอายุคราวลูก กับอีกหนึ่งข่าวร้าย ก็สร้างความระอาใจให้แก่พี่ทั้งสองยิ่งนัก

แล้วเรื่องวุ่นๆ ก็เกิดขึ้นในสถานที่ที่เรียกว่า ‘บ้าน’ โดยมี ‘หนูตุ๋ย’ เด็กสาวบ้านข้างๆ เป็นอีกหนึ่งตัวแปร

อย่างที่บอกว่านี่เป็นละครแนวคอมเมดี้เฮฮา ในตอนต้นเรื่องราวจึงดำเนินไปด้วยความสนุกสนานและขำขัน ด้วยท่าทางการแสดงแบบโอเวอร์แอ๊กติ้งของเหล่าตัวละครรุ่นเก๋า ที่ทำทีคล้ายกับตนเป็นพระนางในวรรณกรรม แถมความคิดและการกระทำที่ดูจะหลุดโลกไปสักนิดก็เรียกเสียงหัวเราะได้ไม่น้อยทีเดียว

Advertisement

02

ยิ่งเมื่อตัวละครยุคใหม่อย่างเรนและหนูตุ๋ยปรากฏกายยิ่งดูตลกโปกฮาจนขำท้องแข็ง ด้วยท่าทีราวบอยแบนด์เกาหลี และท่าทางของเด็กสาวผู้บ้าคลั่งดารา บวกกับความมั่นใจอันเกินหน้า ทำให้ตัวละครนี้มีสีสันและสร้างรอยยิ้มได้มากมาย

มากกว่าความสนุกและเสียงหัวเราะ ละครเรื่องนี้ยังมีประเด็นดราม่าเข้มข้น สะเทือนใจ ซึ่งคนที่อ่อนไหวง่ายอาจเสียน้ำตามาไม่รู้ตัว

เพราะเนื้อหาประเด็นหนึ่งคือการปะทะคารมทางความคิดระหว่างคนสองยุคสมัยที่ต่างกันสุดขั้ว เมื่อหนึ่งคนหลงระเริงกับโลกยุคใหม่จนมองไม่เห็นคุณค่าในอดีต แต่อีกคนกลับยึดติดของดั้งเดิมจนไม่ยอมเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามา สุดท้ายก็เกิดการแตกหัก

อีกประเด็นมุ่งไปที่ความสัมพันธ์ภายในครอบครัว กล่าวคือการทะเลาะเบาะแว้ง กระทบกระทั่งกันของตัวละครที่อยู่ภายใต้ชายคาเดียวกันนั้น ล้วนเกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัว

ซึ่งบ่อเกิดแห่งปัญหาอาจมาได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุสำคัญของเรื่องคือ ‘ความไม่เข้าใจ’ เมื่อต่างฝ่ายต่างเลือกมองในมุมของตนเอง

04

ดังเช่นที่พี่ชายคนโตของบ้านรู้สึกน้อยใจเพราะไม่ได้เป็นเสาหลักของครอบครัวอย่างที่ควรจะเป็น เพราะรายได้หลักมาจากอาชีพในวงการบันเทิงของน้องสาว

ส่วนพี่สาวคนกลางก็รู้สึกน้อยใจด้วยเป็นลูกที่เก็บมาเลี้ยง ทั้งยังไม่เคยมีผู้ชายแลตามอง เพราะไม่โด่งดังเหมือนเช่นน้องสาวของเธอ โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วผู้ทำหน้าที่เสาหลักของบ้านนั้นรู้สึกอย่างไร และต้องรับมือกับอะไรบ้าง

ด้านน้องเล็กก็รู้สึกหนักใจเพราะคิดว่าไม่มีใครรัก ไม่มีใครเข้าใจ ทำให้ตนต้องออกนอกบ้านไปแสวงหาความสุขอันเป็นเพียงภาพมายามาหล่อเลี้ยงหัวใจ จนลืมนึกถึงคำว่า ‘บ้าน’ ไป

เรื่องราวทั้งหมดนี้ ชวนให้ย้อนกลับมามองตัวเอง ว่าวันนี้เราเข้าใจคนในครอบครัวแล้วหรือยัง เราวิ่งตามความสมัยใหม่มากแค่ไหน และเราหลงลืมอดีตเบื้องหลังไปหรือเปล่า

เราจะทำ ‘บ้าน’ ให้เป็นมากกว่าสิ่งปลูกสร้างได้อย่างไร และเราจะเรียนรู้การผสมผสานความแตกต่างระหว่างสองยุคได้ไหม

มาเรียนรู้บทเรียนครั้งสำคัญนี้ผ่าน ‘นี่คือสถานแห่งภาพข้างหลัง’ ละครเวทีสุดแสบสันต์ ที่จะจัดแสดงตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 25 ก.ค. ณ Thong Lor Art Space

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image