หลังจูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ดีกรีความหวานของ เทย่า โรเจอร์ และนักฟุตบอลหนุ่ม มิก้า ชูนวลศรี ก็ไม่เคยลดลงเลย โดยทั้งคู่ควงกันมาออกรายการ พร้อมกับเผยเรื่องราวความรักเป็นครั้งแรก ในรายการ ClubFridaySHOW ซึ่งเมื่อเปิดประเด็นถามเทย่าถึงความเจ้าชู้ เทย่าก็ยอมรับว่าเคยได้ยินมาบ้างว่านักฟุตบอลเจ้าชู้ แต่หากถามถึงสามีเทย่ายืนยันว่า
“ไม่จริงคะ ไม่งั้นคงไม่แต่งงาน เราก็เคยล้อกันตั้งแต่ต้นเนอะ เพราะว่าตอนรู้จักกันใหม่ๆเลยก็จะมีคนเข้ามาถามว่า มิก้าจีบเทย่าเหรอ เทย่าบอก ก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมเหรอ เขาก็บอกนักบอลเขาเจ้าชู้กันนะ สาวเข้ามา มีแฟนคลับ มีนู่นมีนี่เข้ามาตลอดเวลาเลยนะ”
“แต่เทย่าก็คิดในใจด้วย ก่อนที่จะเจอมิก้าว่า คนนี้หน้าตาเจ้าชู้ได้เลยนะ คือหล่อเก่ง ถ้าเขาอยากเจ้าชู้คงง่ายอะ แต่ว่าพอคุยไปคุยมาก็มีความรู้สึกว่าไม่น่าจะเจ้าชู้นะ แล้วพอคุยกันจริงๆเขาบอกว่าเขาไม่เจ้าชู้ เทย่าก็เชื่อ”
ด้านมิก้า ก็ยืนยันว่าตั้งแต่มีแฟนมาไม่เคยนอกใจแฟนเลยสักครั้งเดียว ซึ่งสาเหตุก็มาจาก
“ผมนึกตลอดว่า มีประโยคหนึ่งว่า “คุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าถูกกระทำแบบนั้น” คือผมคิดประโยคนี้ตลอด ผมก็พยายามเก็บความรู้สึกว่า “ถ้าเขาทำกับเรา เรารู้สึกอย่างไร” ผมก็เลยไม่เคย แล้วด้วยความที่โตมาที่เมืองนอก ผมรู้สึกว่าถ้าจะเจ้าชู้หรือว่าจะนอกใจ เลิกไปเลยดีกว่า”
เทย่าเสริมว่า “ซึ่งตอนที่เราเริ่มเป็นเพื่อนกันใหม่แล้วเราคุยกัน เพราะว่าเขาก็มีประสบการณ์ที่คบกับคนที่อยู่ต่างประเทศ เทย่าก็มีประสบการณ์ เคยมานั่งคุยกันว่า เราก็จะไม่ทำสิ่งที่เราไม่อยากให้เขาทำกับเรา ถ้าเขาทำแบบนี้กับเรา แล้วเราทำกับเขา เลิกกันไปเลยไม่ง่ายกว่าเหรอ”
ในความสัมพันธ์ถ้าตัดเรื่องนอกใจ เรื่องไม่ซื่อสัตย์แล้ว มองว่าชีวิตง่ายขึ้น
“ซึ่งถ้าเขาไปชอบคนอื่นผมก็ไม่มีปัญหา เพราะถ้าเขามีความสุข ดีกว่าการที่เขาจะมานอกใจเราหรือมาเจ้าชู้ ผมบอกเทย่าว่า ผมไม่เคยปิดบังอะไรกับเขาเลย โทรศัพท์ผม รหัสทุกอย่างเขามีหมดเลย”
“ไม่เคยทะเลาะกันสักครั้งเดียวเรื่องนี้เลยครับ เรื่องเที่ยวหรือเรื่องอะไร ถ้าเทย่าบอกว่าเดี๋ยวคืนนี้ไปเที่ยว ตามสบายเลย ผมจะไปเที่ยวกับเพื่อนผู้ชาย ไปกับแก็ง ไปภูเก็ต 3 คืน เขาก็ไม่เคยมีปัญหาเลย”
“ผมจะชอบบอกพวกแฟนนักบอลหรือแฟนคนไทยว่า ถ้าคุณให้เขาไปนะ เขาจะไม่ไป แต่ถ้าคุณห้ามเขา เขาจะแอบไป ให้ไปเหอะ สักพักนึงเขาก็จะไม่ไปแล้ว” มิก้าว่า
นอกจากนี้ชีวิตคู่ยังทำให้ได้เรียนรู้ว่า การไม่มีเวลาให้กัน ไม่สำคัญเท่ามีเจตนาจะให้เวลา มิก้าพยายามเสมอที่จะบอกว่า ถ้าเกิดมีเวลาเมื่อไหร่เทย่าอยู่ตรงไหน เราต้องมีเวลาด้วยกัน และเทย่าจะมีความคิดหนึ่งว่าถ้ามิก้าต้องติดงานบอล ก็จะบอกกับตัวเองว่า ไม่เป็นไรหรอก เพราะยังไงอีกหน่อยเขาก็ต้องมีเราอยู่แล้ว
“ใช่ค่ะ เพราะเทย่าเข้าใจว่าอาชีพเขา มันมีเวลาที่กำหนดไว้ใช่ไหมคะ ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นนักบอลตลอดชีวิต หลังจากที่เขาไม่ได้เตะแล้ว อาชีพเขาจะเปลี่ยนเป็นอะไรก็ตาม เทย่าก็ยังอยู่ตรงนี้ เขาก็คงมีเวลาให้เทย่ามากขึ้น คือ ให้เวลากับสิ่งที่สำคัญตอนนี้ ไม่ได้แปลว่าเรา ไม่ได้สำคัญเท่าบอล แค่การแบ่งเวลามันยากกว่ากันนิดนึง”
ก่อนที่มิก้าจะเปิดใจว่า “อย่างผมบอกเทย่าว่าตอนนี้อยู่เมืองไทย อนาคตเราอาจจะอยู่ที่อเมริกาก็ได้ ซึ่งตอนนี้ด้วยทุกอย่างที่เรามีให้กับฟุตบอล กับอาชีพของนักกีฬาฟุตบอลและเทย่าก็สามารถทำงานที่เมืองไทยได้สบาย ผมคิดว่าตอนนี้ชีวิตของเราที่เมืองไทย ผมจะทำตรงนี้ให้เต็มที่ ในนานที่สุด หลังจากนั้นถ้าเราคิดว่าจะไปอยู่อเมริกา เราก็ไปอยู่ตรงนั้นได้ แต่พอมาอยู่ตรงนี้ เราก็พยายามทำตรงนี้ให้ดีที่สุด ให้มันนานที่สุด”
“ผมเป็นคนที่ไม่อยากจะมาเสียดาย คือถ้ามีเวลาอย่างอื่นจะทำแบบนี้ ซึ่งผมเป็นคนที่เทย่าและทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าโฟกัส 120 เปอร์เซ็นต์กับอาชีพตรงนี้ให้มากที่สุดก่อน”
