แง้มประตูออกนอกบ้าน ซื้ออาหารอร่อยกลับไปกิน

แง้มประตูออกนอกบ้าน ซื้ออาหารอร่อยกลับไปกิน

แง้มประตูออกนอกบ้าน ซื้ออาหารอร่อยกลับไปกิน

ผ่อนปรนให้บางอาชีพได้ทำมาหากินเลี้ยงชีวิต ก็เปิดโอกาสให้คนอยู่บ้านได้ผ่อนคลายเช่นเดียวกัน ร้านอาหารได้ค้าขายกว้างขวางขึ้น แม้จะไม่ต้องนั่งกินใกล้ชิดคนอื่นๆในร้าน แต่ส่วนมากก็ย่อมพอใจที่ซื้อกลับไปกินพร้อมหน้ากันที่บ้าน เพราะยังไม่อยากใกล้ชิดติดใครตอนนี้เหมือนกัน

แต่ก่อนอื่นเลย อยากจะถามในที่นี้ก่อนว่า มีใครเคยรู้บ้าง ว่าที่เราเกิดมากินอาหารไทย อาหารจีน อาหารญี่ปุ่น เกาหลี อิตาเลียน ฝรั่งเศส อินเดีย มาเลย์ เวียดนาม ฯลฯ หรือที่ไหนต่อไหนที่เคยกินมานั้น

มีประเทศอะไรที่พอเรียกได้ว่าเป็น “ ประเทศแห่งน้ำจิ้ม “ บ้าง

ฮะฮา – ถ้ายังไม่รู้ ก็ต้องติดตามกันต่อไปถึงจะได้คำตอบ ประเทศไหนนะ คือประเทศแห่งน้ำจิ้ม

Advertisement

นับจากเคเบิล ทีวี มีรายการ ฟู้ด เนทเวิร์ค และต่อมาก็มีรายการ เอเชียน ฟู้ด เนทเวิร์ค ก็ได้เห็นว่า อาหารไทยเป็นที่นิยมของคนส่วนมากจริงๆ ทั้งโลกตะวันตกและโลกตะวันออกด้วยกัน

นอกจากนี้ ยังได้เห็นว่า รายการอาหารทางโทรทัศน์ของเพื่อนบ้านนั้น เป็นรายการให้สาระ ความรู้ และบันเทิงอย่างจริงจัง ไม่เหมือนเราที่มักเอาจำอวด หรือนักแสดงหนุ่มสาวที่มีชื่อ ไปชิมร้านโน้นร้านนี้ แล้วบอกเพียงว่าอร่อยไม่อร่อยจากลิ้นสัมผัส หรือพยายามบรรยายให้ได้มากไปกว่านั้น แต่เมื่อเทียบกับรายการอาหารของเพื่อนบ้าน เกาหลีใต้หรือสิงคโปร์แล้ว ไม่ว่าไปชิมหรือแสดงการปรุงล้วนยังห่างชั้นกันมาก โดยเฉพาะที่เขามีบุคลากรด้านนี้ออกหน้ามากมาย

จริงอยู่ เราอาจมีแม่ครัวพ่อครัวเก่งกาจอยู่มากหน้า และมีคนรู้เรื่องอาหารไทยและเทศในเชิงลึกไม่น้อย แต่ความที่รายการอาหารทางโทรทัศน์ของไทย ที่ผ่านๆมา ยังไม่สามารถลงทุนให้เต็มที่ไปได้ เพราะเป็นไปได้มากว่า โฆษณาสินค้าไม่สนใจซื้อเวลา รายการอาหารทางโทรทัศน์ของเราจึงยังไม่โดดเด่น โดยเฉพาะโดดเด่นพอจะขายไปต่างประเทศได้

บุคลากรด้านอาหารหน้าจอโทรทัศน์บ้านเรา จึงยังไม่อาจมีเทียบเคียงได้เหมือนบ้านเขา

ยกตัวย่างเช่น “อาเสียน” หรือ เจสัน โหย่ว (Jason Yeow) คุรุด้านอาหารของมาเลเซีย อาเสียนมีความรู้ด้านอาหารดียิ่ง เดินทางแนะนำอาหารในประเทศทั่วทุกแห่ง สามารถเชื่อมโยง และเล่าความเป็นมาของอาหารชนิดต่างๆในมาเลเซีย ไม่ว่าจีน มาเลย์ หรือแม้แต่ฮินดู ให้ฟังได้ไม่ติดขัด อาเสียนพูดได้ทั้งภาษาจีน มาเลย์ และอังกฤษ จึงซักไซ้ไล่เรียงเนื้อหาเรื่องราวได้หมดจด

ไม่ใช่ว่าอาเสียนกินไปฝอยไป แต่จะหาความรู้จากคนท้องถิ่น ถกถามพ่อครัวแม่ครัวหัวป่าก์ทุกที่ที่พบ แล้วผูกประสานความรู้ที่มีผสมเข้าไป ผู้ชมจึงได้รับทั้งรสชาติเอร็ดอร่อย และบันเทิงกับความรู้พร้อมไปด้วย

บางรายการ อาเสียนจะแวะหาร้านอาหารจีน ของคนมาเลย์ซึ่งเป็นจีนโพนทะเล เพื่อเทียบกับบ้านเก่าที่จากมา ผู้ชมไทยสามารถร่วมอารมณ์ได้ทันที เพราะหลายชนิดแทบจะพิมพ์เดียวกัน

ตอนนี้แพร่ภาพอาเสียนแวะเวียนไปชมตลาดสดในเมืองต่างๆในมาเลเซีย ที่กำลังจะสูญหายไป ขณะซูเปอร์มาร์เก็ตเข้ามาแทนที่ ผู้ชมคนไทยจะเห็นบรรยากาศที่คล้ายคลึงอย่างที่เห็นกันในบ้านเรา

สามปีห้าปีมานี้ มีแม่ครัวเพื่อนบ้านหลายคนเดินทางตรงเข้ามากินอาหารไทยถึงที่ อีลี่ สุไลมาน (IlI Sulaiman) แม่ครัวสาวมาเลย์ร่างท้วมน่ารัก ก็มา ซาราห์ หวง เบนจามิน (Sarah Huang Benjamin) แม่ครัวสิงคโปร์ลูกครึ่งอังกฤษสาวสวย ก็มา ล้วนชิมอาหารภาคต่า บางครั้งก็ไปถึงอีสานบ้านเฮา หัดทำอาหารพื้นบ้านกับคุณน้าคุณยายสนุกสนาน

แต่ในที่นี้ จะพูดถึงนักชิมชื่อดังเกาหลีใต้คนหนึ่ง ซึ่งทำการบ้านแล้วเดินทางมากินอาหารไทยเป็นเรื่องเป็นราว ทำรายการที่แพร่ภาพทั้งในเกาหลีใต้ และทุกที่ที่ซื้อรายการนี้ไปออกอากาศ

นั่นคือ แบคจงวอนที่มาไทยด้วยรายการดัง สตรีท ฟู้ด ไฟเตอร์ (Street Food Fighter) ซึ่งเป็นรายการเดินทางไปลิ้มรสอาหารทั่วโลก จะคุยกันตอนมากินอาหารไทย

แบคจงวอนเป็นพ่อครัวที่ทำอาหารไทยอวดชาวเกาหลีผ่านจอโทรทัศน์มาแล้ว บางคนอาจเคยเห็น

แล้วเวลามากินก็ไม่ใช่จะกินแค่หอมปากหอมคอ ชิมๆไปคำสองคำพอรู้รสเท่านั้น ตะแกไปกินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา “รุ่งเรือง” สุขุมวิท สั่งเส้นเล็ก (ภาษาไทย) แห้งชามน้ำชามมารวดเดียวเลย

กล้องก็เหลือเกิน จับภาพก๋วยเตี๋ยวชวนน้ำลายสอ ลูกชิ้นปลาขาวลออ ลอยเบียดกันในหม้อลวก ควันกรุ่นจนแทบจะลอยออกนอกจอ ตับชิ้นสวยๆ หนังปลากรอบโรยหน้า ช่างถ่ายมาให้ท้องร้องจ๊อกจริงๆ

พอไปเบียดกับคนยามค่ำคืนในเยาวราช หน้าแผงก๋วยจั๊บ “อ้วนโภชนามีเพื่อนที่ไม่รู้จักร่วมโต๊ะห้อมล้อม ก็คราง ฮาาา… ออกมาทันทีที่ได้ซดน้ำซุปคำแรก กินไปเหงื่ออาบหน้า แล้วก็ชมรสชาติของซุปไปตลอดชาม แม้แต่กัดหมูกรอบกร้วมเข้าไป โอ๊ย อร่อย ก็ยังชมซุปอยู่ว่า หมูไม่สำคัญ ซุปอร่อยจริงๆ ถ้าใครชอบกินซุนแดกับข้าว ต้องชอบเมนูนี้แน่ บอกชาวเกาหลีทางบ้าน

กล้องก็เหลือทน จับภาพปังตอสับหมูกรอบเป้งๆๆๆ โปะใส่ชาม ตะหลิวช้อนน้ำซุปใส่ เฮ้อออ…

ประเดี๋ยวๆก็ยกชามทำท่าจะซดสองหน “ไม่ได้ ผมเกือบเผลอไปแล้วเมืองไทยเขาไม่ยกชามซดกัน

บางมื้อกินๆไปก็แนะนำ “พวง ที่อยู่บนโต๊ะว่า ไม่ว่าจะไปร้านอาหารไทยที่ไหนในโลก หรือในเกาหลี ก็จะเห็นพวงนี้ คือเครื่องปรุง 4 รส เผ็ด (พริกป่น) เค็ม (น้ำปลา) เปรี้ยว (น้ำส้มสายชูพริก) หวาน (น้ำตาล)

แล้วรายการวันนั้นก็เสนอการผลิตน้ำปลายี่ห้อดัง “ทิพรส ที่บอกว่า เหยาะลงไป อาหารยิ่งอร่อย

วันหนึ่ง แบคจงวอนออกจากที่พัก เจอแผงอาหารหน้าซอยเล็กๆมีหม้อแกงถาดกับข้าววางเต็ม ก็แวะเข้าไปชี้ถาดนั้นถาดนี้สั่งกับข้าว 5 อย่าง กินแกง ผัดผัก ปลาทอด ต้มจืด ฯลฯ กินไปบรรยายรสชาติที่กลมกล่อมไป พอกินเสร็จคิดเงิน “100บาท กับข้าว 5 อย่าง พออกพอใจมาก

พอตอนสายๆแวะไปซอยทองหล่อ กินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ “วัฒนาพานิช กินไปอร่อยไปอีก แล้วทุกครั้ง กินไปสักพักก็จะใช้พวงปรุงรส เพื่อทดลองรสชาติต่างๆ กล้องก็ทำร้ายท้องไส้ผู้ชมเหมือนเคย โดยเฉพาะเมื่อถ่ายภาพกาละมังเนื้อตุ๋นใบใหญ่ยักษ์ ควันขึ้นโฉ่ ตะแกก็สองชามตามระเบียบ

อีกวันไปกินข้าวเช้าที่ ขาหมูเจริญแสง สีลม ร้านที่ไม่ต้องสาธยายสรรพคุณให้คนไทยฟัง

นั่งกินไปกินมานอกร้าน โต๊ะเต็มก็มีคนมานั่งด้วยอีก เอร็ดอร่อยกับขาหมูสักพัก ทีนี้พอลองเหยาะน้ำจิ้มที่วางบนโต๊ะเข้าไป ตามธรรมเนียมที่ต้องกินแบบคนท้องถิ่นด้วย ก็เลยชมน้ำจิ้มไม่หยุด ยกขวดน้ำจิ้มใบโตลูบๆคลำๆ อยากจะซื้อกลับบ้านๆๆ ว่างั้น

ตกค่ำ ไปร้าน “เจ๊โอว สั่งสันคอหมูกับยำแซลมอนมากิน มีน้ำจิ้มเคียงมาให้อีก ก็กินไปรอเวลาไป เพราะเมนูสำคัญอยู่ตอนห้าทุ่มคือ ต้มยำมาม่า มาเป็นกาละมัง กินไปชมไปร้านนี้อร่อยเหมือนร้านเจริญแสง ต้องมากินอีก แล้วก็บอกว่า ไทยทำน้ำจิ้มอร่อยมาก นี่เป็นประเทศแห่งน้ำจิ้มจริงๆ เป็นเมืองแห่งน้ำจิ้ม ทุกโต๊ะทุกร้านมีน้ำจิ้ม พูดไปชอบใจไป อยากเอาน้ำจิ้มกลับบ้าน

นี่เป็นตัวอย่างพ่อครัวนักชิมคนหนึ่ง จากเพื่อนบ้านเกาหลีใต้ ที่มาเมืองไทยแล้วไม่ผิดหวังกลับไป ตรกันข้าม หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องมากินอีก ช่วยให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักของคนในโลกอีกแรง

คุยกันเรื่องอาหารการกิน เพราะฝรั่งต่างชาติที่มาเมืองไทย พูดเหมือนๆกันอย่างหนึ่งว่า นอกจากคนไทยจะใจดี “ไม่เป็นไร”  ยิ้มง่ายเป็นสยามเมืองยิ้มแล้ว ลักษณะเด่นอีกอย่างคือชอบกิน กินได้ทั้งวัน กินแล้วมีความสุข ชวนให้ชาวต่างชาติที่พบเห็นมีความสุขตามไปด้วย

โดยเฉพาะคนญี่ปุ่นซึ่งมีธรรมเนียมเคร่งครัด ไม่ใช่เพื่อนสนิท หรือคนรักใคร่นับถือกัน จะไม่ชวนไปกินข้าวบ้าน พอพบคนไทยทั้งๆที่ไม่รู้จักก็ชวนกินข้าวด้วยกันได้หน้าตาเฉย ทั้งทึ่งทั้งประทับใจ

ดังนั้น (แม้จะเกรงใจคนเบี้ยน้อยหอยน้อย หรือคนที่ยังไม่มีทั้งเบี้ยและหอย) ก็ถือโอกาสเชิญชวนคนชอบกิน (คือยังไงก็ต้องกิน) ทั้งหลาย ใช้ช่วงผ่อนคลายของรัฐ หากอยากออกนอกบ้าน ก็คาดหน้ากาก ระวังรักษาระยะห่าง ออกมาหาของกินกลับบ้านตามอัตภาพ หรือใครที่เกิดอยู่บ้านชอบทำกับข้าวกินเองไปแล้วยิ่งดี ก็อยู่บ้านอ่านหนังสือ ดูหนังไปตามเรื่อง ปลอดภัยไว้ก่อน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงวัย 6070 อย่าหาเรื่องออกจากบ้าน

เมืองไทยแสดงประสิทธิภาพของการดูแลตัวเอง จนเกิดประสิทธิผล ให้คนทั้งโลกเห็นแล้ว คุยกันเรื่องอาหารไทยที่คนทั้งโลกรู้จักแล้ว สู่กันฟัง เรื่องดีๆที่ตัวเองมี จะได้เพิ่มพูนความมั่นใจ ภูมิใจ ในศักยภาพของตัวเอง ให้รู้ว่าเราก็หนึ่งในตองอู เหมือนกัน ไม่ใช่เก่งแต่ฝรั่งมังค่า

แถมหนึ่งในตองอูนั้น เป็นคนคมในฝัก ไม่ถึงคราวไม่ชักออกมาโอ้อวด ถ่อมตัว นุ่มนวล และเอื้อเฟื้อ

ถามนักท่องเที่ยวรัสเซียในภูเก็ตดู หรือนักเรียนวิศวรัสเซียที่เป็นเด็กวัดในสุราษฎร์ธานี ก็รู้

สุดท้าย ขอให้คุณพระคุ้มครองทุกคนให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากโรคระบาดด้วย เทอญ.


—————

อารักษ์

แง้มประตูออกนอกบ้าน ซื้ออาหารอร่อยกลับไปกิน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image