ย้ง ทรงยศ เปิดมาตรการใหม่ค่ายนาดาวปรับตัว เพื่อไปต่อ

ย้ง ทรงยศ เปิดมาตรการใหม่ค่ายนาดาวปรับตัว เพื่อไปต่อ

 หลังมาตรการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ อันเข้มข้นจนถึงตอนนี้ที่ภาครัฐเริ่มมีการผ่อนปรน จนหลายๆอย่างเริ่มกลับมาดำเนินการได้ หนึ่งในนั้นคือการทำงานในกองถ่าย

  แต่กระนั้นก็ยังต้องมีมาตรการควบคุมเพื่อความปลอดภัย จะได้ไม่มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น

 ทั้งนี้ในส่วนของค่าย นาดาว บางกอก ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์ บอกว่า เตรียมการไว้หลายสิ่ง ทั้งการให้นักแสดงไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในช่วง 14 วันก่อนเริ่มงาน การขอความร่วมมือไม่ออกไปในที่สาธารณะ การไม่รับงานอื่นใดนอกเหนือไปจากซีรี่ย์เรื่องที่กำลังถ่ายทำ ฯลฯ  

 ซึ่งเขาเล่าว่า ผมบอกทุกคน ว่าเราต้องจริงจังกับมาตรการนะ เพราะถ้ามันกลับมาระบาดรอบ 2 แปลว่าทุกคนต้องอยู่บ้านและไม่ได้ทำงาน เพราะฉะนั้นทุกคนต้องจริงจังกับมาตรการในระดับซีเรียส

Advertisement

 ทั้งนี้เขาออกตัวมาเป็นลำดับต้น ว่นาดาวจะยึดมาตรการของภาครัฐเป็นหลัก อะไรที่รัฐยังไม่อนุญาต แปลว่าเขาจะไม่ฝ่าฝืน อย่างไรก็ดีได้มีการคิดเผื่อไว้ล่วงหน้าว่าเมื่อถึงเวลาที่ทำได้ ก็จะใช้หลักการเหล่านี้ในการทำงาน

 นั่นคือ “ถ้าจำเป็นต้องมีซีนที่ใกล้ชิด ถึงเนื้อถึงตัว หรือเลิฟซีน นักแสดงตัวหลักเหล่านั้นจะต้องไปตรวจโควิดก่อนถึงกระบวนการออกกองถ่ายทำ 14 วันล่วงหน้า

 และนับจากวันตรวจนั้น “เขาจะต้องเก็บตัว ไม่ออกไปที่สาธารณะ”

Advertisement

 “ซึ่งแสดงว่าชีวิตเขาจะไม่มีโอกาสไปติดเชื้อมาจากที่อื่น และเมื่อผลออกมาว่าเขาไม่มีเชื้ออยู่ ก็แสดงว่าปลอดภัย

 ขณะเดียวกันยังลงรายละเอียดไปด้วยว่า ในการเดินทางมากองถ่าย นักแสดงก็จะมาด้วยรถคันเดิม คนขับคนเดิม , เวลาอยู่ในกองถ่ายทุกฝ่ายก็จะมีพื้นที่จำกัดของตัวเอง

 “นักแสดงก็จะอยู่ในพื้นที่ของเขาเท่านั้น เช่น ลงจากรถตู้ก็จะเดินเข้าห้องแต่งตัว ซึ่งจะเป็นห้องแต่งตัวที่เป็นกลุ่มเฉพาะพวกเขา

 ในการแต่งหน้า นักแสดงหลักทุกคนก็ต้องมีอุปกรณ์สำหรับแต่งหน้าของตัวเอง และต้องใส่เฟซชิลด์ตอนแต่ง ส่วนช่างแต่งหน้าต้องใส่ทั้งเฟซชิลด์และหน้ากากอนามัย ขณะที่ในส่วนนักแสดงสมทบ หากใครไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้ของตัวเอง ก็สามารถใช้ของทีมงาน ซึ่งก็จะมีการทำความสะอาด มีตู้อบอนามัย เตรียมไว้ให้

 และแน่นอนด้วยว่าส่วนของทีมงาน ทุกคนที่ทำงานใกล้ชิดนักแสดงจะต้องไปตรวจโควิดและใช้มาตรการเข้มข้นเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อเช่นกัน

 เขายังบอกอีกว่า จากสถานการณ์และความจำเป็นที่ต้องระมัดระวังเรื่องการติดเชื้อดังกล่าว นักแสดงในสังกัดคนไหนที่มีคิวต้องออกกองของค่าย ก็จะต้องไม่รับงานอื่นระหว่างนั้น

  “โชคดีว่าน้องนักแสดงที่เราทำงานด้วย เป็นน้องนักแสดงนาดาวเสียส่วนใหญ่ เราก็แมเนจได้ เพราะงานที่เขาจะไปรับ ก็เป็นงานที่เรารับให้เขาเองนี่แหละฮะ

  “ทั้งหมดนี้ มันจะทำให้วันหนึ่งเราถ่ายได้น้อยลง ก็อาจจะส่งผลถึงค่าใช้จ่าย แต่ก็เป็นเรื่องของความจำเป็นที่เราจะต้องทำ”

  “และก็ดีกว่าที่จะไม่ได้ออกกอองถ่าย

ย้ง ทรงยศ

  สำหรับโรคระบาดครั้งนี้ ย้งบอกว่า สำหรับตัวเองเขารู้ว่าสิ่งที่เกิด ทำให้เขามีสติมากขึ้น

  “คือพอผมโต หรือผมแก่ ผมก็ใช้ชีวิตหรือวางระบบอย่างมีสติมากขึ้นแหละครับ แต่ว่าพอโควิดมันเกิดขึ้น ครั้งแรกๆเลยที่ได้ยินว่ามันจะอยู่กับเราไปอย่างน้อยครึ่งปี ปีนึ่ง หรือ  2 ปีก็อาจจะเป็นไปได้ แล้วเดี๋ยวจะต้องเกิดขนบใหม่ นิว นอร์มอล ที่เราจะต้องอยู่กับมัน หมายถึงว่าเราจะไม่มีทางกลับไปเป็นปกติ ตอนนั้นเครียดมาก ว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง เราจะทำงานอยู่บนสิ่งนั้นได้ยังไง

   “สมมุติเราเคยออกกองถ่ายกัน 70 คน แล้วเราทำหนัง หนังมันต้องฉายในโรง คิดไม่ออกเลยว่าจะใช้ชีวิตต่อจากนี้ได้ยังไง

  “แต่พอผ่านไปสัก 2-3 วัน ฝุ่นหายตลบ ก็อ่านข่าว ตามข่าว ทำความเข้าใจกับไวรัสที่เกิดขึ้น ว่าจริงๆแล้วมันมีกระบวนการรับมือหรือจะใช้ชีวิตอยู่กับมันยังไง พอค่อยๆทำความเข้าใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มันก็มีทางที่จะปรับเปลี่ยนชีวิตเราเพื่ออยู่กับมันให้ได้

  “ผมว่ามันเหมือนเวลาออกกองแล้วไปเจอปัญหาเฉพาะหน้า แล้วถ้าเราเครีย ตื่นตระหนก หรือลน เราจะคิดไม่ค่อยออก แต่ถ้าเรานิ่งๆ เจอปัญหาแล้วตั้งสติ ลงไปทำความเข้าใจกับปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาอะไรที่แก้ไม่ได้

   “กับโควิด เราจึงต้องปรับตัวให้ได้ แล้วใครปรับตัวได้เร็วที่สุด คนนั้นก็จะเป็นคนที่จะไปต่อข้างหน้าได้เร็วที่สุด

  และนั่นเป็นสิ่งที่เขากำลังพยายามทำอยู่

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image