เล่าโมเมนต์สู่ขอ โทนี่ รากแก่น เผยโดนครอบครัว แก้ว สัมภาษณ์ยาวก่อนมั่นใจให้ดูแล

เล่าโมเมนต์สู่ขอ โทนี่ รากแก่น เผยโดนครอบครัว แก้ว สัมภาษณ์ยาวก่อนมั่นใจให้ดูแล

ควงคู่กันมาให้สัมภาษณ์แบบออนไลน์ สำหรับคู่หวานที่เพิ่งสวมแหวนกันไปหมาดๆ อย่าง โทนี่ รากแก่น และ แก้ว จริญญา (อ่านข่าว โทนี่ รากแก่น สวมแหวนตีตราจอง แก้ว จริญญา แฟนคลับร่วมยินดี) ที่เปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกถึงเรื่องราวความรักที่สุกงอมได้ที่ โดยทั้งคู่ได้เริ่มเล่าตั้งแต่โมเมนต์วันสวมแหวน พร้อมหน้า 2 ครอบครัวว่า

โมเมนต์วันนั้นเป็นยังไงบ้าง

โทนี่ : จริงๆ เกิดขึ้นวันศุกร์ครับ ผมได้เข้าไปหาพ่อกับแม่ของแก้วก่อน ไปเปิดประเด็นคุยกับเขาเรื่องจะขอแต่งงานกับแก้ว แล้วก็มีสัมภาษณ์กันยาวหลายชั่วโมง (หัวเราะ) คือตอนแรกเราแพลนไว้ว่าจะพาทั้งครอบครัวเข้าไปขอพร้อมกัน แต่พอคุยกับพี่สาวแก้วแล้วก็บอกว่าน่าจะไปคุยกับพ่อแม่ก่อนดีกว่า เผื่อเขาจะตกใจเราเลยเข้าไปก่อนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เข้าไปคุยคนเดียวก่อนว่าผมจริงจังนะครับ ผมอยากจะมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ เป็นลูกของบ้านนี้ ก็อยากให้เขารับเราไว้ เขาก็ตกใจครับว่าชัวร์แล้วหรอ มั่นใจไหม เขาก็ถามสไตล์ผู้ใหญ่ เขาก็สัมภาษณ์เรายาวเลย ก็ผ่านขั้นตอนผู้ใหญ่รับรู้หมดแล้วครับ แล้วก็ไปบอกทางที่บ้านผมว่าอาทิตย์นี้เข้าไปให้คุณแม่ให้พี่ๆ เข้าไปเป็นทางการอีกรอบนึง

ก็ได้เรียนรู้ว่าพ่อแม่เขาค่อนข้างเป็นห่วงมากเรื่องนี้ และอยากจะมั่นใจว่าตัวเราเองพร้อมจริงๆ ใช่ไหม ที่จะดูแลลูกสาวเขา และเราก็ได้เรียนรู้ว่าการแต่งงานไม่ใช่เรื่องของคนสองคน ตอนแรกเราคิดง่ายว่าเราอยู่กัน เรามีความสุขด้วยกัน เราไปไหนด้วยกัน เรียนรู้  รู้จักกันเยอะมาก และเราก็อยากจะอยู่ด้วยกันไปตลอด ก็เข้าไปขอพ่อแม่เขาตรงๆ แต่พอได้คุยแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่อย่างที่เราคิด การแต่งงานเป็นเรื่องของครอบครัวเขาและครอบครัวเรา เพราะว่าเขาก็เลี้ยงดูลูกของเขามาดีมาก ตั้งแต่เด็กจนโตเขาก็รักของเขา

Advertisement

โชคดีที่เราเจอพ่อแม่ของแก้ว แล้วเขาจริงใจกับเรามาก มีอะไรเขาพูดตรงๆ คิดอะไรก็พูดออกมาเลย ทำให้เราได้พูดกันตรงๆ คือถ้าพ่อแม่เป็นห่วงเรื่องนี้ ผมจะหาทางจัดการเรื่องนี้เป็นพิเศษ หรือว่าเรื่องไหนที่ผมยังบกพร่อง เราก็จะปรับปรุงตัว ก็ค่อนข้างซีเรียสประมาณนึงในการคุยกัน อย่างที่บอกเพราะว่าพ่อแม่แก้วค่อนข้างเลี้ยงดูเขามาเป็นอย่างดี เลี้ยงดูแบบสบาย เขาก็ไม่อยากให้ลูกเขามาลำบากกับเรา ก็ต้องทำให้พ่อแม่มั่นใจว่าเราจะไม่พาลูกเขามาลำบากครับ”

วางแผนนานไหมก่อนที่จะเซอร์ไพร

โทนี่ : จริงๆ เราไม่ได้กะเป็นเรื่องเซอร์ไพร์สขนาดนั้นครับ เพราะผมกับแก้วเราคิดไว้แล้วว่าอยากเดินทางกับคนนี้ เราอยากใช้ชีวิตกับเขาไปตลอดชีวิตเราอยู่แล้วครับ ฉะนั้นการแต่งงานก็เหมือนเราทำให้ถูกต้องตามธรรมเนียมครับ ก็เป็นเรื่องที่รอจังหวะที่เหมาะสมก็เลยเข้าไป แต่ว่าไม่ได้ตั้งใจเซอร์ไพร์ส แต่ที่ว่าเขาเซอร์ไพร์สเพราะว่าไม่ได้คิดว่าเราจะมีแหวนมาด้วย เขาเห็นเราบื้อๆ ไม่น่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้

Advertisement

ความรู้สึกของแก้วนาทีนั้นที่ “โทนี่” เอาแหวนออกมา

แก้ว : คือหนูรู้อยู่แล้วว่าจะต้องคุยกัน อย่างที่บอกว่าตอนที่ถ่ายวิดีโอหนูไม่รู้เรื่องว่ามีแหวน หนูยังมีคิดในใจอยู่ว่าถ้ามีแหวนจะน่ารักกว่านะ

ตอนนั้นจำได้ไหมว่า “โทนี่” พูดว่ายังไงบ้าง

โทนี่ : คือผมพูดไม่ออกเหมือนกันครับ ต้องเล่าให้ฟังว่าโมเมนต์ที่พอพาแม่และครอบครัวเข้าไปเนี่ย คือทางแม่ของแก้วเขาก็ค่อนข้างหวงลูกเขามาก เขาก็มีการคุยกันนานครับระหว่างทางผู้ใหญ่ให้มันลงตัวว่าเขามั่นใจว่าจะดูแลแก้วได้ดี เขาจะมั่นใจได้ว่าเราดูแลแก้วได้ดี เหมือนกับที่เขาเคยดูแลมาไหม ระหว่างที่เรารอลุ้นว่าแม่เขาจะเซย์เยส จริงๆ เราก็เครียดมาก กลายเป็นว่าพอแม่เขาโอเค มาถึงจุดที่แม่เขาสบายใจ เชื่อใจ และไว้ใจเราแล้ว เขาก็เซย์เยส เราพูดอะไรไม่ออกเลย เพราะว่าตื้นตันมาก”

เหมือนเราต้องให้คำมั่นกับแม่ของแก้ว ณ ตอนนั้นใช่ไหม ว่าเราจะดูแลแก้วให้ดี

โทนี่ : “ใช่ครับ”

อะไรที่ทำให้เรามั่นใจว่าโทนี่คือคู่ชีวิตของเราและถึงเวลาแล้วที่จะแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน?

แก้ว : “หนูว่าตั้งแต่เรารู้จักกันมา จากเพื่อนเปลี่ยนเป็นแฟน มีหลายอย่างที่ทำให้เราเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งในเรื่องภาพเรื่องของจิตใจ หนูว่าอย่างอื่นเลยนอกจากที่เราดูแลสุขภาพและจิตใจกันให้ดีและมั่นคง รู้สึกว่าถ้าจิตใจเรามั่นคงดีแล้ว เรื่องอื่นก็สามารถปรับไปได้เรื่อยๆ”

ในส่วนของโทนี่ เรามั่นใจยังไงว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่เราจะมาสร้างครอบครัวด้วย?

โทนี่ : “ผมมั่นใจตั้งแต่วันแรกแล้วนะครับ คือประสบการณ์ชีวิตเราก็ประมาณนึง ที่ทำให้เราได้เห็นอะไรชัดเจนด้วย เราว่าการเดินทางด้วยกันเยอะๆ เจออุปสรรคเยอะ ทำให้เราได้เห็นตัวเราและตัวเขา เวลาที่เกิดปัญหาเราอยู่ด้วยกันยังไง ช่วยเหลือหรือไม่ช่วยเหลือกันยังไง แต่หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น ค่อนข้างดีครับ ค่อนข้างไปในทางที่เราโอเค เราชิลไปกับปัญหา

อีกอย่างที่ผมรู้สึก ผมรักตัวเองมากๆ ที่เวลาอยู่กับเขาแล้วเราเปลี่ยนแปลงไปหลายๆ อย่างที่เช่น การเลิกบุหรี่ ไม่ยุ่งกับแอลกอฮลล์ เลิกกินเนื้อสัตว์ สิ่งพวกนี้มันต้องอาศัยความเข้มแข็งของจิตใจเรามากๆ แต่ถ้าเกิดไม่มีเขา เราอาจจะทำไม่ได้ขนาดนี้ เราเห็นแล้วว่าสิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่มีคุณค่ากับชีวิตที่เราอยากจะทำ

อย่างเลิกกินแอลกอฮอล์ ผมรู้สึกว่าอยากมีสภาวะสติที่ค่อนข้างนิ่งและเฉียบคม ไม่อยากให้แอลกอฮอล์ทำให้เรามึนเมาและขาดสติไปช่วงหนึ่ง ก็เลยคิดว่าถ้าเราตัดมันออกไปจากชีวิตเราเลย เราเองก็จะมั่นใจได้ว่าเราจะอยู่ในสภาวะปกติ วิเคราะห์และทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ผมเป็นคนชอบคิดลึก ชอบคิดถึงรากฐานของมัน แอลกอฮอล์ผมเลิกขาดเลย ต้องบอกว่าผมไม่ได้ติดนะ ก็แค่สังสรรค์ แต่ต่อไปนี้เราเลือกว่าต่อจากไปก็ไม่ต้องดื่ม ไม่มีสภาวะมึนเมาหรือเป็นแบบเมื่อก่อนที่ต้องเกิดความสนุก ตอนนี้ไม่มีมันก็สนุกได้ ส่วนบุหรี่ก็เลิกขาดเช่นกันครับ ส่วนเรื่องเนื้อสัตว์ก็คือเลิกหมดครับ ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากเนื้อสัตว์ นม ไข่ เนื้อสัตว์ทุกชนิด ถ้าเรารู้เราจะไม่ทานเลย ทานอาหารแบบวีแกนเลย ซึ่งเรากินวีแกนทั้งคู่เลยครับ”

โทนี่ รากแก่น

วางแผนไว้ว่าจะแต่งปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า?

โทนี่ : “คิดไม่ออกเลย เพราะว่าเอาจริงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อน มันเพิ่งเกิดขึ้นเอง ผมคิดแค่นั้นตอนแรก ว่าอยากจะขออย่างเป็นทางการกับทางบ้านแก้ว และอยากที่จะให้โมเมนต์นั้นมีครอบครัวของเราทั้งสองครอบครัวอยู่ด้วยกัน แล้วเขาเห็นภาพนี้พร้อมกัน หลังจากนั้นค่อยมาช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่ จัดแบบไหน ที่ไหนยังไง”

ตัวแก้วเองมีภาพงานแต่งงานในฝันมั้ย?

แก้ว : “เอาจริงๆ ป่ะคะ ความฝันหนู หนูคิดว่าหนูจะไม่ได้แต่งงาน (หัวเราะ) พอจะได้แต่งก็แอบงงอยู่ เอาจริงๆ คือแบบอะไรก็ได้ทั้งนั้น เพราะสิ่งสำคัญคือหนูรอดูชีวิตหลังแต่งงานมากกว่า ว่าจะเป็นยังไง”

โทนี่ : “ก็เป็นอย่างนี้แหละ”

มีการเตรียมการเรื่องแหวนไว้ยังไง?

โทนี่ : “อย่างที่เล่าว่าวันศุกร์ ผมตั้งใจที่จะเข้าไปหาที่บ้านแก้ว มีวันก่อนหน้านั้นที่ผมว่าง ก็เลยแอบออกไปซื้อแหวนในช่วงกลางวันแล้วก็เอามาซ่อนไว้ในห้องเก็บของ ปรากฏว่าอีกวันหนึ่งที่เรามาเปิดดู คือวันก่อนหน้านั้นแก้วเข้ามาใช่ไหม แล้วเราเห็นกล่องขวดน้ำที่อยู่ตรงนั้นมันหายไป แล้วมันอยู่ใกล้ๆ กับถุงแหวนของเรา ตอนนั้นเราก็คิดว่าเอาแล้วแก้วเห็นแล้วแน่เลย เราเห็นกล่องขวดน้ำที่อยู่ตรงนั้นมันหายไป แล้วมันอยู่ใกล้ๆ กับถุงแหวนของเรา เราก็คิดว่าแก้วเห็นแล้วแน่ๆ เลย ปรากฏว่าพอถึงวันจริงเขาไม่รู้เรื่องจริงๆ เราก็ดีใจมาก เพราะเขาคิดว่าเราบื้อๆ แนวเรื่องอะไรแบบนี้ แต่เราก็แอบเตรียมการไว้อยู่

แหวนมีความหมายพิเศษมั้ย?

โทนี่ : มีครับ จริงๆ เป็นรุ่น Love ครับ ความหมายคือรักตัวเอง แล้วก็รักคนรอบข้างครับ จริงๆ เราชอบคำนี้มาก อย่างป๊าแก้วก็พูดวันนั้นว่า คนเราต้องรู้จักรักตัวเองก่อน ไม่งั้นเราก็จะไม่รู้จักรักคนอื่น ถ้าเราไม่รู้จักรักตัวเอง เราก็ไม่สามารถที่จะดูแลตัวเองให้ดีได้ ถ้าเราดูแลตัวเองดีไม่ได้ ก็ไม่สามารถดูแลคนอื่นได้ มันตรงกับความหมายของแหวนเลย

พี่แคนดี้บอกว่าคุณแม่บานเย็นอยากให้แต่งปลายปี?

แก้ว : “ยังไม่ได้สรุปกันเลยค่ะ

โทนี่ : ผมว่าต้องค่อยๆ ครับ อยากให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่อยากฉุกละหุก จนทำอะไรไม่ทัน เราผ่านช่วงที่สำคัญมากๆ ไปแล้ว ก็รู้สึกว่าเรามีความสุขมากแล้ว ณ ตรงจุดนี้ที่พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ จริงๆ พอเราโพสต์ไป คนหลายๆ คนที่ได้เห็นข่าวก็รับรู้กันหมดแล้ว เราไม่ต้องมีงานแต่งก็ได้มั้ง เพราะงานแต่งงานคือการให้คนมาเป็นสักขีพยาน เราว่าถ้าคนได้รับรู้เยอะขนาดนี้ไม่ต้องมีก็ได้มั้ง

แก้วรู้สึกยังไงบ้าง ที่คุณแม่บานเย็นบอกว่าเห็นเราเป็นลูกสะใภ้ตั้งแต่วันแรกที่เจอ?

แก้ว : ไม่รู้เรื่องเลย ก็เพิ่งมารู้วันนี้ที่ทุกคนบอก ก็ดีใจที่คุณแม่มองเราเป็นวัยรุ่นที่เรียบร้อย ก็ขอบคุณ จริงๆ ครอบครัวพี่โทนี่ก็น่ารักมากเลย ทั้งคุณแม่ พี่สาว แล้วก็พี่เขย ทุกคนเลย เป็นบ้านที่อบอุ่น หนูไปเจอทีไรก็รู้สึกว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน

สร้างเรือนหอหรือยัง?

โทนี่ : “เราจะใช้พื้นที่ ที่เรามีอยู่แล้ว”

เป็นบ้านของ โทนี่เองใช่มั้ย?

โทนี่ : “ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ คือว่าเป็นสถานที่ที่เราชอบ”

ตอนนี้คุณแม่ทั้งสองฝ่ายมองไกลถึงเรื่องมีหลานแล้ว ตัวเราสองคนล่ะ แม่แก้วอยากได้หลานแฝด?

แก้ว : “เรายังไม่ได้มองถึงแง่นั้น ตอนนี้เรื่องงานแต่งงานก็ปวดหัวแล้ว เรื่องว่าจะมีลูกเดี๋ยวค่อยว่ากันค่ะ”

สองคนอยากมีมั้ย?

โทนี่ : “เอาจริงๆ เลยนะ แค่คุยกันว่าเราจะซื้อหมามาเลี้ยงกันมั้ย เราทั้งคู่ยังรู้สึกว่าเราทั้งคู่ชอบเดินทาง กลัวดูแลเขาไม่ดี เลยคิดว่าเรื่องนั้นก็น่าจะยัง ขอเวลาให้ได้ใช้ชีวิต ได้ออกเดินทางด้วยกันอีกหน่อย เรื่องนั้นค่อยว่ากัน

แก้ว : “เอาตามธรรมชาติเนอะ”

โทนี่ : “ความรู้สึกจริงๆ เรามีก็ได้ไม่มีก็ได้ เราไม่ได้ยึดติดว่าสังคมบอกว่าเราต้องมีลูกนะ เราไม่ได้เป็นแบบนั้น เราจะคุยกันว่าเรามีเพื่ออะไร ไม่มีเพื่ออะไร เราจะเข้าใจจุดนั้นเลยมากกว่า ถ้าเกิดเราพร้อมเมื่อไหร่ก็คงมี หรือว่าพร้อมเมื่อไหร่เราก็คงไม่มี เป็นอย่างไรก็ได้

เราเข้าใจแหละ ถ้าเกิดมีจริงๆ ก็คงน่ารัก แต่สิ่งที่เราให้เขาได้เป็นวิชาชีวิต ให้เขาได้เรียนถึงวิชาชีวิตมากกว่าอยากให้เขาได้เรียนเองในสถานที่สอนวิชาชีพวิชาชีวิตมากกว่าที่จะไปเรียนในสถานที่ทั่วไป ที่ไม่จำเป็นที่คนจะต้องจ่ายเงินเยอะแยะเข้าไปเรียน ถ้ามีจริงๆ นะ”

แฟนๆ และคนรอบข้างแสดงความยินดีกับคู่เรามากๆ เลย อยากจะบอกอะไรกับเขามั้ย?

แก้ว : “ขอบคุณมากเลยค่ะ หนูว่าเขาคงตกใจแหละเนอะ (หัวเราะ) ขอบคุณที่คอยให้กำลังใจ คอยติดตามเราเนอะ”

โทนี่ : “ก็ขอขอบคุณเหมือนกันครับที่อวยพรมา เราอยากจะให้ทุกคนได้รู้ได้เห็น ได้สัมผัสได้รู้สึกไปกับเราว่า บางทีความรักมันก็เรียบง่ายได้ครับ บางทีความรักมันไม่ใช่เรื่องแค่คนสองคน แต่เป็นเรื่องของคนหลายคน คนในครอบครัวด้วย เราแต่งงานกับทางเค้าและทางครอบครัวเค้า ผมว่าเดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยได้เห็นเนอะ หรือสัมผัสถึงความรักที่เรียบง่าย เราก็อยากจะเห็นอะไรแบบนั้นมากขึ้นในไทยเรา”

มีแพลนจะไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่ไหนมั้ย?

โทนี่ : “เอารูปเดิมที่มีอยู่ก็ได้ รูปที่เราไปเที่ยวกันมา”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image