3-5 ก.ค.นี้ มาเก็บภาพประทับใจ พร้อมดูหนังอำลาสกาลา ‘ราชาโรงหนังแห่งสยาม’

3-5 ก.ค.นี้ มาเก็บภาพประทับใจ พร้อมดูหนังอำลาสกาลา ‘ราชาโรงหนังแห่งสยาม’

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า โรงภาพยนตร์สกาลา จะปิดตัว (อ่าน ไปต่อไม่ไหว โรงหนังสกาลาปิดตัวแล้ว เหตุโควิด-19 กระทบหนัก) ล่าสุดเพจ Apex Scala ก็แจ้งว่า ระหว่างวันที่ 3-5 กรกฎาคมนี้ สกาลาจะจัด “LA SCALA ลาสกาลา” เพื่อให้แฟนๆ ได้ร่วมเก็บความทรงจำสุดท้ายเกี่ยวกับโรงภาพยนตร์แห่งนี้ โดยในวันที่ 3 กรกฎาคม ทางโรงจะเปิดไฟทุกดวง เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้มาเก็บภาพความสวยงาม และบรรยากาศของโรงภาพยนตร์ที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘ราชาโรงหนังแห่งสยาม’

จากนั้นในวันที่ 4 และ 5 กรกฎาคม จะมีการจัดฉายหนังเรื่องพิเศษที่หอภาพยนตร์คัดสรรมาให้ โดยเรื่องที่จะฉายมีทั้ง

– ‘Blow-Up’ หนังระทึกขวัญคลาสสิกของผู้กำกับชั้นครูชาวอิตาเลียน มิเคลันเจโล อันโตนิโอนี งานคว้ารางวัลกรังปรีซ์ จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประจำปี 2510 ที่เล่าเรื่องของโทมัส ช่างภาพแฟชั่น ที่เชื่อว่าตัวเองได้ถ่ายภาพเหตุฆาตกรรมโดยไม่ได้ตั้งใจ จากการพบหลักฐานบนรูปถ่ายที่เขาถ่ายไว้ในสวนสาธารณะ Blow-Up เป็นหนังที่ว่าด้วยพลังของภาพถ่ายและมิติของการมองเห็น บนฉากหลังของสีสันและวัฒนธรรมใต้ดินของลอนดอนในช่วงทศวรรษที่ 1960

BLOW-UP

-‘The Scala’ และ ‘นิรันดร์ราตรี’ สารคดีว่าด้วยความรุ่งเรืองและร่วงโรยของโรงภาพยนตร์สแตนด์อโลนในเมืองไทย ที่จะฉายควบกัน โดย The Scala เป็นงานที่กำกับโดย อาทิตย์ อัสสรัตน์ ศิลปินศิลปาธร สาขาภาพยนตร์ ประจำปี พ.ศ.2553 โดยงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งในชุดสารคดีที่อำนวยการสร้างโดย สถานีโทรทัศน์ KBS สาขาใหญ่ปูซาน และเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน ภายใต้ชื่อ ‘Power of Asian Cinema’ ซึ่งเป็นโปรแกรมพิเศษที่จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์ที่เฟื่องฟูของภาพยนตร์เอเชีย เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี ของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน เมื่อปี พ.ศ.2559

Advertisement

ใน The Scala อาทิตย์ติดตามถ่ายให้เห็นเบื้องหลังและซอกหลืบของชีวิตคนทำงานในสกาลา ที่ผู้ชมทั่วไปไม่เคยเห็น สลับกับเรื่องราวความหลังอันรุ่งโรจน์ ที่ทุกคืนจะมีผู้ชมเต็มโรงในความจุ 1,000 ที่นั่ง ในสมัยที่การออกไปชมภาพยนตร์เป็นสิ่งวิเศษ เป็นที่ที่ผู้คนแต่งตัวดี มานัดเที่ยวกับแฟนและตกหลุมรัก ก่อนที่ปัจจุบัน สกาลาจะกลายเป็นโรงภาพยนตร์แบบแสตนด์อโลน โรงเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยูในกรุงเทพฯ ท่ามกลางโรงภาพยนตร์แบบซีเนเพล็กซ์มีอยู่ในแทบทุกห้างสรรพสินค้า และคนรุ่นใหม่ที่สามารถดูภาพยนตร์ผ่านจอโทรศัพท์มือถือได้

THE SCALA

ส่วน นิรันดร์ราตรี หรือ Phantom of Illumination สารคดีเชิงทดลองปี 2560 ของ วรรจธนภูมิ ลายสุวรรณชัย ได้บอกเล่าเรื่องราวของคนฉายหนังคนสุดท้ายในโรงหนังสแตนด์อโลนแห่งหนึ่งที่ต้องปิดตัวลง เมื่อทักษะอาชีพฉายหนังที่มีมาตลอด 25 ปีกลายเป็นทักษะที่ไร้ค่า เขาจึงจำเป็นต้องอาศัยต่อในโรงหนังร้างทำหน้าที่เฝ้าดูแลอาคารและรักษาสถานที่ และมักหลีกหนีความทุกข์ด้วยการดื่มเหล้าและอ่านหนังสือธรรมะ ก่อนจะตัดสินใจกลับไปอยู่กับลูกเมียและหาอาชีพใหม่

นิรันดร์ราตรี

‘นิรันดร์ราตรี’ จึงเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความล่มสลายของยุคสมัยแห่งโรงหนังสแตนด์อโลน ซึ่งไม่เพียงแต่หมายถึงตัวอาคาร หากแต่ยังเกี่ยวพันมาถึงชีวิตผู้คนที่เคยร่วมทำงาน สารคดีเรื่องนี้ได้รับรางวัลชมเชยพิเศษจากการประกวดในเทศกาลภาพยนตร์สารคดีนานาชาติโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก สาย Next:Wave รวมทั้งยังเดินสายฉายตามเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆ มาแล้วทั่วเอเชีย

-อีกเรื่องที่จะได้ชมในโปรแกรมนี้ คือ ‘CINEMA PARADISOภาพยนตร์อิตาลีที่ครองใจผู้ชมมาแล้วทั่วโลก เจ้าของรางวัลรองชนะเลิศจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ และรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ว่าด้วยเรื่องราวของโตโต้ ผู้กำกับภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต และเดินทางกลับมายังบ้านเกิดที่ต่างจังหวัดเพื่อร่วมงานศพของอัลเฟรโด คนฉายหนังประจำโรงภาพยนตร์ท้องถิ่น ผู้ซึ่งเปรียบเป็นดั่งครูผู้สอนให้เขารู้จักการใช้ชีวิต และทำให้เขาหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของภาพยนตร์มาตั้งแต่เด็ก

CINEMA PARADISO

ทั้งนี้โปรแกรมการฉายทั้ง 2 วันจะเหมือนกัน คือ

🎬 12.00 น. Blow-Up (111 นาที / คำบรรยายไทย)

🎬 15.00 น. The Scala (52 นาที) ➕ นิรันดร์ราตรี Phantom of Illumination (68 นาที)

🎬 18.00 น. Cinema Paradiso (124 นาที / คำบรรยายไทยและอังกฤษ)

ผู้สนใจซื้อบัตรที่จำหน่ายราคาใบละ 140 และ 160 บาท ได้เรื่องละไม่เกิน 2 ใบ ที่โรงภาพยนตร์สกาลา โดยวันที่ 27 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม จำหน่ายเวลา 10.00-16.00 น. วันที่ 3 กรกฎาคม เวลา 10.00-20.00 น. และวันที่ 4-5 กรกฎาคม เวลา 10.00-18.00 น.

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image