ถ้าเป็นคนติดตามวงการบันเทิงไทย จะรู้เลยว่าละครโทรทัศน์สมัยนี้ช่างดุเดือดเลือดพล่านจริงๆ ซึ่งไอ้ที่ดุเดือดเลือดพล่านนี้ไม่ได้หมายถึงฉากบู๊ แอ๊กชั่น แต่เป็นฉากเลิฟซีนที่ “ขยันใส่” เพื่อหวังเรียกกระแสและเรตติ้ง
และก็ดูเหมือนจะเป็นดังหวัง
เพราะจะยังไง เรื่องแบบนี้ก็ช่วยได้
เหล่านักแสดงทั้งหลายจึงต้องเตรียมตัวและเตรียมใจไว้ให้พร้อม เพราะแม้จะไม่เจอเลิฟซีนหนักๆ หากอย่างน้อยๆ วันดีคืนดีก็ต้องเจอฉากจูบกันบ้างละน่า
วันนี้ มติชน เลยขอไปพูดคุยกับนักแสดงที่เคยผ่านฉากใกล้ชิดๆ ลักษณะนั้น เพื่อสอบถามว่าตอนถ่ายทำนั้นรู้สึกอย่างไร รวมถึงต้อง
เตรียมตัวกันมากน้อยแค่ไหน
เริ่มจาก ก้อย-กรกช แข็งขัน นักแสดงสาวจากละครที่กำลังเป็นกระแส “สงครามนางงาม” ที่เจ้าตัวรับบทเป็น “โบว์” ซึ่งเคยเป็นแฟน “ทินวัฒน์” (ตูมตาม-ยุทธนา เปื้องกลาง)
“ตอนที่รู้ตกใจมาก” ก้อยสารภาพ
“เพราะคิดว่าแค่เอาปากชนกัน ตอนเข้าฉากหลับตาปี๋ โดนพี่ป้อน (นิพนธ์ ผิวเณร ผู้กำกับ) ดุเลย” ก้อยเล่าพลางหัวเราะ
แหม,ก็เพราะเป็นมือใหม่หัดแสดงบทจูบ ดังนั้นนอกจากจะทำอารมณ์ตามบทไม่ได้เแล้ว ยังเขินมากกก
และแม้จะแปรงฟันมาแล้วอย่างดี แถมแปรงซ้ำไปมาหลายรอบ ก็ดูเหมือนจะช่วยลดความเกร็งเรื่องความใกล้ชิดได้ไม่เท่าไหร่
โชคดีที่ตูมตามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ มีทั้งการช่วยเซฟ ให้เกียรติในแง่ความเหมาะสม ขอโทษก่อนแสดง ทั้งยังชวนสนทนาทุกอย่างจึงผ่านมาได้ด้วยดี
ขณะ มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน ที่เคยผ่านฉากจูบกับ ชาคริต แย้มนาม ในละคร “ทรายสีเพลิง” ก็ว่า แม้จะไม่ได้เป็นนักแสดงมือใหม่ แต่เจอฉากนั้นเข้าไปก็ตื่นเต้นมาก
“เราต้องเล่นเป็นสาวอายุ 20 ต้นๆ ยังแสดงออกทางความรักไม่เก่ง เวลาถูกผู้ชายใกล้ชิดจะเขิน”
ซึ่งอารมณ์นี้สบายมาก เพราะ “เขินจริง เลยค่อนข้างตรงกับอารมณ์ในซีนนั้น” เธอเล่าพลางหัวเราะ
ส่วนการเตรียมตัวนอกจอ มิวบอกว่า ทั้งเธอและเขาเตรียมตัวกันมาอย่างดี
“ก็ต้องมีคุยกันมาก่อนอยู่แล้วค่ะ แล้วก็ต้องอินว่าเป็นตัวละครนั้น แล้วจำเป็นต้องเล่นเลิฟซีนนั้น ทุกอย่างมีเหตุผลของมัน”
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะมีเหตุผลรองรับขนาดไหน ในการถ่ายทำสำหรับเธอก็ไม่มีการจูบจริง เพราะผู้กำกับการแสดงจะเป็นคนหามุมให้ ว่าถ่ายอย่างไรจึงจะออกมาเซฟและสวย
แต่หากมีกรณีต้อง “จูบจริง” มาร์ช-จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล เขาจะขอโทษนักแสดงหญิงที่ร่วมเล่นด้วยกันก่อน “และถ้าหากแม่ของเขามาด้วย เราก็ต้องเข้าไปขอโทษแม่ของเขา ถือเป็นการให้เกียรติ เพราะผู้หญิงเสียหายกว่า” มาร์ชให้เหตุผล
ด้วยวิธีคิดเช่นนี้ ทุกครั้งที่ต้องเข้าฉากดังกล่าวก็จะพยายามทำให้มันผิดพลาดน้อยที่สุด ซึ่งถือเป็นการเซฟฝ่ายผู้หญิงให้ไม่ต้องถ่ายซ้ำบ่อยๆ “ถือเป็นการให้เกียรติเขาในอีกทางหนึ่ง”
อ้อ, เรื่องแปรงฟันนี่ไม่ต้องพูดถึง เพราะต้องแปรงแน่นอน
แล้วยุคนี้สมัยนี้ที่ความรักไม่ได้จำกัดอยู่ที่เพศหญิงกับเพศชาย เพชร-เผ่าเพชร เจริญสุข เลยมีฉากต้องหอมแก้มกับนักแสดงเพศเดียวกันในซีรีส์ดัง “ไดอารีตุ๊ดซี่”
“ตอนแรกในฉากนั้นผมไม่รู้ตัวนะว่าต้องโดนหอม แค่ผู้กำกับบอกว่าน้องเล่นอะไรมาให้เล่นต่อ ซึ่งในฉาก เจเจ (กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม) หอมมา เราก็ต้องรับอารมณ์ตามบท”
ซึ่งเมื่ออินกับบุคลิกตัวละครแล้ว จึงไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากมาย “แค่แทนค่าน้องเขาเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ก็ใช้การแทนค่าไป เพราะถ้าแทนค่าว่าน้องเป็นเด็กผู้ชาย เราก็เขิน จนเล่นไม่ได้”
ต่างๆ นานาเหล่านี้แหละ ที่เหล่านักแสดงใช้เป็นเทคนิคพิเศษ สำหรับฉากสำคัญ
