‘ถ้าเป็นผม…’ ค้นทางเลือกในใจ เจ้านาย จินเจษฎ์ ‘ฉลาดเกมส์โกง’

‘ถ้าเป็นผม…’ ค้นทางเลือกในใจ เจ้านาย จินเจษฎ์ ‘ฉลาดเกมส์โกง’

ตอนที่นั่งดู ‘ฉลาดเกมส์โกง’ ในโรงหนัง เจ้านาย-จินเจษฎ์ วรรธนะสิน ไม่เคยคิด ว่าชีวิตนี้จะได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของกลุ่มตัวละคร ที่คิดการใหญ่ในการโกงข้อสอบ

“มีแต่เกิดความสงสัย ว่า เอ๊ะ! ตรงนี้มันมาได้ยังไง มันจะเกิดอะไรต่อ ทำไมตัว ‘แบงค์’ ในเรื่องถึงต้องเครียดขนาดนั้น ลำบากอะไรมาก่อน แล้วเขาโดนอะไรต่อ หลังจากหนังจบ”

“แล้วก็แอบหวังในใจ อยากจะให้มีภาค 2”

แต่กระนั้น ตอนที่รู้ว่า บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด  จับมือกับ บริษัท นาดาว บางกอก    นำงานชิ้นนี้มาสร้างใหม่ ในเวอร์ชั่นซีรี่ย์ แทนที่จะดีใจเต็มร้อย ด้วยสิ่งที่คาดหวังกลายเป็นจริง เขากลับบอกว่า “ผมอึ้งไปแป๊บนึง” ด้วยสิ่งที่มาพร้อมการ ‘ได้รู้’ คือการถูกชักชวนให้มาแคสต์ติ้ง

Advertisement

“อยากทำนะฮะ อยากมานานแล้ว” เจ้านาย ซึ่งเป็น ‘ลูกไม้ใต้ต้น’ ของ เจ เจตริน และ ปิ่น เก็จมณี บอก

แต่ “ค่อนข้างจะเครียดนิดนึง แล้วก็กดดันด้วย ว่าถ้าได้เล่นแล้ว เราจะทำได้เจ๋งกว่าหนังไหม หรือจะทำได้เท่าหนังไหม”

คิดแล้วคิดอีก ทบทวนไปมา แล้วก็ตัดสินใจไปแคสต์ “พร้อมความหวังเล็กๆ ว่ามีโอกาสนี้ ก็ลองไปวัดดู”

Advertisement

ไปลองทั้งในบทของ ‘แบงค์’ และ ‘พัฒน์’

ก่อนจะถูกเลือกว่าเขาน่าจะเหมาะกับการถ่ายทอดภาพของแบงค์มากกว่า

‘แบงค์’ ซึ่งเป็นตัวละครที่เก็บเรื่องราวหลายๆอย่างไว้กับตัว

“เก็บไว้เยอะมาก”

มากเหมือนตอนที่ ชานน สันตินธรกุล แสดง ตอนเป็นหนังที่ นัฐวุฒิ พูนพิริยะ กำกับ

อย่างไรก็ตาม ในซีรี่ย์นี้มีรายละเอียดของเรื่องเพิ่มเติมจากกำกับ คือ พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ซึ่งจะทำให้เราๆได้เห็นมุมต่างๆที่เพิ่มขึ้นของตัวละคร

“แบงค์ในหนังจะเป็นเวอร์ชั่นที่เครียดเลย ตั้งใจเครียด ตั้งใจโกงๆๆๆเน้นๆ แต่ในเวอร์ชั่นละคร จะได้เห็นความอ่อนโยนกับครอบครัว ที่บ้าน จะได้เห็นการอยู่กับแม่มากขึ้น เห็นการใช้ชีวิตอยู่ของเขา เห็นว่าทำไมเขาถึงต้องโกง”

“เขาเป็นคนดีแทบตาย แต่ทำไมไม่มีอะไรดีเกิดขึ้นกับเขา”

ขณะเดียวกันก็ยังจะได้เห็นมุมความรักกับ ‘ครูพี่ลิน’ และเห็นความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นๆ ที่เจ้าตัวคนแสดงใช้คำว่า “ไขว้กันหมด มีเรื่องส่วนตัวกับทุกๆคน”

“จะได้เห็นว่าเรื่องที่มีก่อนหนังคืออะไร ในหนังมีอะไร แล้วหลังจากที่หนังเล่าไป มันเป็นยังไง”

กับการเป็นมือใหม่ ในท่ามกลาง จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุนพัฒน์ ที่รับบท ‘ลิน’ , ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต ที่รับบท ‘พัฒน์’ และ นาน่า-ศวรรยา ไพศาลพยัคฆ์ ที่เป็น ‘เกรซ’ เจ้านายบอกแบบมีรอยยิ้มนิดๆที่มุมปากว่า “เครียดครับ”

“แต่ผมมาปรับทัศนคติใหม่ คือเราทำตรงนี้ ตรงปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อน เพราะฉะนั้นจะไม่คิดถึงอนาคตหรืออะไร เพราะมันสามารถดีขึ้นเรื่อยๆได้”

“แล้วผมดีใจที่ทั้ง 3 คน ไม่ได้มีความโชว์ หรือความเบ่งใส่เพื่อนๆคนอื่น ว่าฉันเคยเล่นมาแล้วนะ ทุกคนตกลงกันตั้งแต่ตอนเวิร์คชอปว่า เราจะสู้ไปด้วยกัน เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นการให้พลังกันมาตลอด”

แต่แม้จะได้พลังขนาดไหน เจ้านายก็ว่า เอาเข้าจริงนี่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับเขา

“มีฉากที่เล่นกับแม่ (นก-รัชนก แสงชูโต) ฉากหนึ่ง ผมต้องแสดงอารมณ์บางอย่างที่ค่อนข้างจะอึดอัด แล้วมันไม่ออกมาสักที จนเราเครียดมากๆ เครียดมาถึงทุกวันนี้”

ฉากนั้นเขาว่าน่าจะแสดงไปเกิน 10 เทค ซึ่งสุดท้ายแล้ว แม้ผู้กำกับจะยืนยันว่า ใช้ได้ และให้ผ่าน แต่เขาเองยังรู้สึกค้างคา

“แต่ถึงตอนนี้ มาคิดดูอีกที ความอึดอัดตรงนั้น ไอ้ที่ผมเครียดๆๆๆนั่นแหละ อาจจะเป็นสิ่งที่เขาต้องการ” ประเมินผ่านการคิดรอบด้าน แล้วคราวนี้เขาก็ยิ้มออก

เจ้านายในวัย 19 ปี ยังบอกอีกว่าแม้เขาจะเป็นนักร้องมาก่อน แต่พอมาเป็นนักแสดงก็มีอะไรให้ต้องปรับตัวหลายอย่าง

อย่างแรกที่มาพร้อมเสียงหัวเราะคือ “ผมมีวินัยมากขึ้น”

“การตื่นเช้าไปถ่าย การท่องบท การทำการบ้านเพื่ออินกับตัวละครให้มากขึ้น”

“ซึ่งพอผ่านมันมาได้ก็เป็นสิ่งที่ภูมิใจมากๆ”

ในฐานะของผู้ถ่ายทอด เจ้านายบอกว่า ความรู้สึกที่เขาได้มาเต็มๆจากการแสดงซีรี่ย์เรื่องนี้ แล้วอยากบอกต่อให้คนอื่นรู้ คือ “ไม่ว่าคุณจะอยู่ฐานะไหน จะรวยหรือจะจน หรือเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ใช้ชีวิตปกติทั่วไป คุณควรหาความสวยงามในทุกๆอย่าง ควรเห็นคุณค่าในทุกๆอย่างที่มี แล้วชีวิตมันจะมีความสุขขึ้น”

“ส่วนกับแบงค์ ถ้าผมบอกอะไรเขาได้ ผมอยากจะบอกว่า เขามีทางเลือกอื่น มันมีทางเลือกอื่นเสมอ แต่แบงค์เลือกทางที่มันบู๊ไปเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ มันก็เลยทวีคูณ เพราะเขาเป็นคนที่อยากจะได้ เพราะเขาไม่เคยมี”

“ถามว่าถ้าเป็นผม ผมเลือกแบบไหน…ผมจะใจเย็นๆ เพราะมันมีทางออกเสมอนะฮะ และมันเลือกทางออกได้”

เพื่อจะได้เจอหนทางที่ดีที่สุด สำหรับชีวิต.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image