เรื่องเล่าจากพลอย เฌอมาลย์ การขอโอกาสและอยากพักเรื่องดราม่า

เพลิงนาง

เรื่องเล่าจากพลอย เฌอมาลย์ การขอโอกาสและอยากพักเรื่องดราม่า

ต้องบอกว่าไม่เพียงแต่ผู้ชมจะจับตามาตั้งแต่ครั้งที่ เช้นจ์2561 ของ ฉอด สายทิพย์ ประกาศว่าจะนำบทประพันธ์ เพลิงนาง ของ กฤษณา อโศกสิน มาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ โดยให้ พลอย เฌอมาลย์ แสดงประกบผู้ชายทั้ง 5 คือ ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล, แซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี, อินดี้-อินทัช เหลียวรักวงศ์, บุ๊ค-พงษ์นิรันดร์ กันตจินดา และ บิ๊ก-ศรุต วิจิตรานนท์ หากในส่วนของนักแสดง พลอย ก็เผยความรู้สึกว่าเธอเองก็ตื่นเต้นกับผลงาน ซึ่งกำลังออกอากาศทางอมรินทร์ ทีวี ในวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 22.00 น. เช่นกัน

“ได้กลับมาเล่นบทร้ายอีกครั้ง บอกเลยว่าร้ายจริงๆ ร้ายมาก” เธอว่า

จากนั้นก็บอกถึงตัวละครที่ได้รับว่า ‘พลับพลา’ เป็นผู้หญิงฉลาดและแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นตรงที่มีนิสัยเหมือนผู้ชาย นอกจากนั้น “ยังเป็นคนที่รักตัวเองที่สุด ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่สุดท้ายสิ่งที่เขาทำเหมือนกับการตีปิงปอง ลูกจะเด้งกลับมาหาเขา”

ในส่วนภาพรวมของละคร พลอยก็ว่านี่เป็นละครดราม่า ที่มีซีนอารมณ์เยอะมาก

Advertisement

“แล้วบทเรื่องนี้จะหนักที่พลอยล้วนๆ บทหนึ่งตอน เราเล่นทุกฉาก บทพูดก็ค่อนข้างเยอะ”

จึงรู้สึกเหนื่อย หนัก หากก็สนุกนัก

“ในฐานะนักแสดง ทุกฉากที่เข้า พลอยค่อนข้างเหนื่อย ส่วนตัวพลอยมองว่าแซ่บทุกซีนเลย เพราะพลับพลาอารมณ์ร้ายตลอดเวลา”

Advertisement

แต่ “จริงๆ ตัวละครนี้เป็นผู้หญิงที่น่าสงสาร” เนื่องจากเติบโตมาในฐานะลูกเลี้ยง ซึ่งคนที่รับเลี้ยงก็ตกอยู่ในฐานะกล้ำกลืนฝืนใจ พลับพลาจึงมีความทะเยอทะยาน จากเหตุที่ต้องการทำทุกอย่างให้แม่เลี้ยงพอใจ

งานนี้แม้ตัวบทประพันธ์จะเป็นแนวอีโรติก แต่พลอยบอกว่า การนำเสนอในละครจะไม่ขนาดนั้น

“ไม่ใช่อีโรติก ไม่ใช่หนังโป๊ เรื่องของละครก็ทำได้ประมาณนึง”

เลิฟซีนในเรื่องจึงไม่ได้หวือหวา แค่ถ่ายทอดให้คนเห็นว่าเรื่องเป็นแบบไหน อีกทั้งยังมีสถานการณ์โควิด-19 ก็ยิ่งต้องระมัดระวัง อย่างตัวเธอเองก็ต้องเข้ารับการตรวจเช็กทุกสองอาทิตย์ เพราะว่ามีทั้งร้องไห้ ทั้งตะโกนใส่กัน

“ส่วนเลิฟซีน แค่หน้าชน แค่นี้ก็คัตแล้ว ใช้ภาพให้คนดูจินตนาการเอาเอง” เจ้าตัวบอกพลางยิ้ม

“อย่างพี่แซม ยุรนันท์ เขาก็จะเป็นเจ้าพ่อไซ้ เล่นเก่ง ไม่ต้องจูบปากอะไรเลย เป็นคนที่เอาหน้าชนตรงหัว ตรงคอ มันก็ดูเหมือนจริง แล้วมันจะมีเทคนิคการแสดง จบเสร็จก็บอกหน้าพลอยเป็นรูเลย เจอจมูกพี่แซมจิ้มๆ” พลอยเล่าแล้วก็หัวเราะ

เมื่อถามถึงบทซึ่งต้องมีสามีถึง 5 คน พลอยหัวเราะนำมา แล้วว่าช่างต่างกับชีวิตจริงเหลือเกิน

“เพราะชีวิตจริงไม่มี ในละครมีเยอะมาก มีปัญญา” ว่าแล้วก็หัวเราะอีก

“บทพลับพลาต้องเข้าฉากกับตัวละครแต่ละตัวที่มีเรื่องกับทุกคน ต้องตามเคลียร์กับทุกคนไปทุกที่ อย่างที่บอกเรื่องนี้มันเราเต็มๆ เลย ยากอยู่ที่แต่ละสถานการณ์ก็มีความแตกต่างกันไป ต้องดีลกับเรื่องของคุณแม่ คุณพ่อที่บ้าน เรื่องปมของเรา เรื่องกับผู้ชายคนนี้และธุรกิจ พลับพลาเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวค่ะ พลอยอ่านบทแล้ว รู้เลยว่าคนดูต้องด่ายับมาก ว่าทำทำไม คือพลอยเล่นเองพลอยยังแบบ…ทำทำไม”

ด้วยเหตุนี้จึงคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่า ดูแล้วคุณผู้ชม “น่าจะเกลียดค่ะ”

“ขนาดพลอยเล่นเอง พลอยยังรู้สึกเกลียดเหมือนกัน ด่าทุกวัน เวลาอ่านบท”

เรื่องที่มีกระแสคนพูด ว่าเธอมักจะได้แสดงในคาแร็กเตอร์แรงๆ แบบนี้ ดังนั้นนี่จึงเป็นงานแบบเดิมๆ ไม่น่ายาก ซึ่งนั่น “ไม่จริง” พลอยยืนยัน

“กระแสว่าน่าเบื่อ รับแต่บทเดิมๆ บทแรงๆ แบบนี้เฌอมาลย์ก็เล่นได้อยู่แล้วแหละ ใครบอก จริงๆ มันไม่ง่ายนะ มันไม่เคยง่ายสำหรับพลอยที่ต้องรักษามาตรฐานของตัวเองให้อยู่อย่างนี้ตลอด ด้วยความที่พลอยอายุจะย่าง 38 แล้ว ยังได้รับบทดีๆ อย่างนี้อยู่ ก็ยิ่งต้องทำให้มันดีขึ้นๆ ก็มีความกดดันระดับกลางอยู่เหมือนกัน ที่เราตั้งใจว่าจะทำให้ดี ถ้าเราได้รับบทบาทที่ดี ได้รับความไว้ใจจากผู้จัด”

เรื่องบทเดิมๆ ที่พูดกัน นั่นก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว

“จริงๆ ก็ไม่ได้เดิมสักเท่าไหร่นะ บทเปลี่ยนไปตามคาแร็กเตอร์ของแต่ละเรื่อง อาจจะมีเส้นเรื่องบางอย่างที่คล้ายกันบ้าง ละครไทยก็มีไม่กี่อย่างที่ทุกคนจะชอบดูกัน แต่พลอยยอมรับตรงๆ ว่าพลอยเป็นคนอ่านบทเยอะ ก็พยายามปรับให้ไม่เหมือนกัน ต้องเข้าใจก่อนว่าบางทีคนแสดงคนเดิม คนก็จะคิดว่าเล่นแบบเดิมๆ แต่จริงๆ มันไม่เหมือนเดิมหรอก แต่หน้าเดิมไง คือถ้าเป็นนักแสดงหน้าใหม่ ก็คงอาจจะรู้สึกว่าแปลกใหม่ แต่นี่มันไม่มีอะไรเพิ่มไง มีแต่ความแก่” แซวตัวเองแล้วก็หัวเราะร่วน

เรื่อง ‘เพลิงนาง’ นั้น พลอยบอกว่าตอนนี้ถ่ายทำเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว และเธอก็จะถ่ายทำเรื่อง ‘เรยา’ ต่อ แล้วหลังจากนี้ก็จะหยุดรับงานดราม่าอย่างน้อยก็สัก 7 เดือน

“อยากเล่นคอมเมดี้ ดาร์กคอมเมดี้ อยากตลกๆ บ้าง เล่นอะไรที่คนไม่เคยเห็น มีความตลกร้าย” ร่ายความในใจมาเป็นชุด

“อยากเล่นอะไรใหม่ๆ เพราะมันเหนื่อยอ่ะ อยู่ในจุดที่ไม่ไหวแล้วจริงๆ”

“เดี๋ยวพอเรยาจบพลอยคงบาย เพราะซ่อมหน้าแพงมาก เล่นละครเรื่องนึงทั้งเลเซอร์ โบท็อกซ์ วิตามิน เยอะมาก เพราะมันใช้อารมณ์เยอะ และพลอยอายุเยอะแล้ว ก็อยากจะรีแลกซ์ตัวเองด้วย ถ้ามีโอกาสนะคะ”

หากจะเป็นเมื่อไหร่ ก็ยังไม่รู้ เพราะตอนนี้บทที่เสนอมาเป็นดราม่าหมดเลย

“เพราะหน้าเบอร์ตองไง หน้าดุ”

พลอยซึ่งบอกว่าเจอแต่ละครดราม่ามาทั้งชีวิต ยังขออ้อนทิ้งท้ายไปถึงเหล่าผู้จัดและบรรดาผู้กำกับว่า “ให้โอกาสพลอยหน่อย พลอยจะดีใจมาก”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image