คำฝากจากแม่เลี้ยงเดี่ยว อรอนงค์ ปัญญาวงศ์-ไม่มีผู้ชาย ก็ต้องอยู่ได้
ในฐานะที่กลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว หลังหย่าขาดกับสามีที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมากว่า 20 ปี อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ ได้มาเปิดใจในรายการ ‘ต้มยำอมรินทร์’ ที่ผลิตโดย CHANGE2561 ว่า ถึงตอนนี้ใช้ชีวิตเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมาราว 1 ปีแล้ว ทั้งนี้ก่อนหย่าได้คุยกับลูกไว้บ้าง ซึ่งลูกก็เข้าใจ
“พอเราไปพูดว่าพ่อกับแม่ต้องแยกทางกัน จะต้องไปหย่านะ รู้ใช่ไหมว่าคุณแม่เป็นคนที่อยู่ในวงการ อย่างน้อยๆมันต้องมีข่าวออกมา ก็บอกลูกว่าถ้ามีข่าวออกไปลูกไม่ต้องตกใจนะ เขาก็โอเค ยิ่งลูกคนโตเขาเข้าใจอยู่แล้ว เขาบอกเราว่า ถ้าคุณแม่ทำแล้วมีความสุข ก็ทำได้เลย”
สำหรับชีวิตในปัจจุบัน เธอบอกว่าไม่รู้สึกเหงา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีงานให้ทำหลายอย่าง
“ยังมีงานในวงการบันเทิง ผู้ใหญ่ให้ความเอ็นดู ให้งานทำ เรายังดูแลลูก ทำร้านเสื้อผ้าชื่อแบรนด์ อรอนงค์ เลยทำให้ไม่ได้อยู่นิ่ง แล้วมีเวลาว่างๆ”
ส่วนเรื่องคิดจะมีใครอีกไหม เธอบอกตอนนี้ลูกชายคนเล็กหวงมาก
“ถามเขาว่าถ้ามีผู้ชายเขามาจีบแม่ได้ไหม เขาตอบเลยว่า ไม่ ส่วนคนโตเขาจะแนวมีเหตุผล ถ้าเขามาดีก็ลองคุยๆดู”
อย่างไรก็ดีบอกได้เลยว่าตอนนี้ยังไม่มีใคร อาจเพราะบุคลิกที่เป็นคนนิ่งๆ คนจึงไม่กล้าเข้ามา
อรอนงค์ยังบอกอีกว่า ในเรื่องของความสัมพันธ์นั้น ในส่วนของลูกๆเธอได้กำชับไปว่าถ้ายังไม่เข้ามหาวิทยาลัยก็ห้ามมีแฟน
“บอกเขาด้วยเหตุผล ว่าเห็นไหมขนาดคุณแม่มีแฟนในขณะที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่การตัดสินใจก็อาจจะผิดพลาดได้”
พร้อมกันนั้นก็ยกประสบการณ์ที่เคยเจอ สมัยยังเรียนที่เพื่อนๆเคยมาหารือปัญหาความรักเล่าให้ลูกฟัง
“ความรักในวัยเรียนเรารู้สึกว่าเป็นความรักแบบฉาบฉวย แต่ก็บอกลูกว่าถ้ามีเพื่อนเป็นหญิงก็คุยกันได้นะ แต่ต้องเว้นช่องว่างของการเป็นเพื่อนเท่านั้น เป็นแฟน กิ๊กกัน พากันไปเที่ยว จับมือ จับแขนอะไรไม่ได้ ด้วยความที่เราเป็นคนที่อยู่ในกรอบอยู่แล้ว เลยมีความรู้สึกว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่ปลูกฝังคือความรักที่เขามีให้เรา เขาคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างถ้าเราออกนอกกรอบ เขามีประสบการณ์มาก่อน เขาก็จะรู้ก่อน เขาบอก เขาสอนเพราะเขาเป็นห่วงใยเรา”
ส่วนกับคนที่อาจจะอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเรื่องความสัมพันธ์ และไม่กล้าเดินออกมา อรอนงค์ก็ว่า เรื่องดังกล่าวในความเห็นของเธอ “ถ้ามองในมุมที่เรารักตัวเอง จริงๆแล้ว ทุกคนต้องรักตัวเอง ต้องก้าวเดินอย่างมีความสุข เราถึงอยู่ในสังคมนี้ได้ ถ้าเราอมทุกข์ ยังแบกรับภาระที่มันไม่ใช่ความผิดของเรา หรือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่อาจจะติดค้างอยู่ในใจ ไม่สามารถจะบอกใครได้ หน้าชื่นอกตรม ดูแล้วไม่มีความสุข เราควรที่จะมูฟออนออกมา แล้วก็ทำชีวิตของเราให้ดี”
“ไม่ต้องมีผู้ชายมาดูแลเรา เราดูแลตัวเองได้ ยิ่งถ้าใครเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ยิ่งต้องมีความสุขกับลูกให้มากต้องมีสุขภาพที่ดีในการดูแลตัวเอง ดูแลลูก แต่เราก็ต้องมีเหตุผลในการคุยกับลูก แล้วการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว บางคนจะเลือกว่าจะอยู่กับแม่ บางคนเลือกที่จะอยู่กับพ่อ แล้วพอมีปมในใจ มักจะไปลงอะไรกับลูก ก็อยากจะให้เขาคิดก่อน ก่อนที่จะทำอะไรลงไป เพราะว่าผลกระทบมันเป็นระยะยาว”
“แล้วเราไม่รู้ด้วยว่า มันจะติดค้างไปในใจลูกไหม”
