มีดีแค่รวย! ป๊อก จิราธิวัฒน์ เผยทั้งน้ำตากับทุกความกดดัน-คำดูถูก และ ‘แกะดำ’ของตระกูล

มีดีแค่รวย! ป๊อก จิราธิวัฒน์ เผยทั้งน้ำตากับทุกความกดดัน-คำดูถูก และ ‘แกะดำ’ของตระกูล

เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว สำหรับ ป๊อก ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ หรือ ป๊อก เซ็นทรัล ทายาทตระกูลมหาเศรษฐีแสนล้านอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่ล่าสุดเจ้าตัวได้มาเผยถึงความรู้สึกใน Mindset Documentary EP.ZERO ที่ต้องแบกรับความกดดันรวมถึงคำดูถูกว่าที่มีทุกวันนี้ได้เพราะนามสกุล

เส้นทางการเป็นนักร้องนักดนตรีในวันนี้นั้น เริ่มมาจากคุณพ่อ สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ที่แนะนำซื้อกีต้าร์ให้เล่น โดยไม่ได้หวังว่าป๊อกจะไปร้องเพลงจริงจังอย่างนี้ แต่ด้วยธุรกิจของครอบครัวคุณพ่อก็วางแผนว่าอยากให้มาช่วยเรื่องโรงแรม ทำหนังสือพิมพ์ หรือส่วนไหนก็ได้ที่เป็นของครอบครัว

ป๊อกได้เล่าว่า “ตั้งแต่เกิดมาก็น่าจะเข้าใจกันดี ผมเกิดมาในครอบครัวคนจีน คุณปู่มาเรือมาอยู่เมืองไทยก็สร้างรากฐานกับภรรยา ก็มีลูกๆ คุณปู่ มีพ่อผม คุณลุง คุณอา ที่ช่วยกันทำงานขึ้นมา เราตั้งแต่เกิดก็รู้อยู่แล้วว่าสุดท้ายเราก็ต้องทำงานกับพวกเขา ทำงานให้กับครอบครัว เราไม่น่าจะมีทางเลือกอื่นหรืออะไรเลย เพราะสุดท้ายก็ต้องทำงานให้กับที่บ้านอยู่ดี”

“พ่อน่าจะรู้แค่ว่าชอบฟังเพลง แต่ไม่รู้ว่าทำเพลง เพราะด้วยความที่คุณพ่อเป็นคนที่ทำงานเยอะมาก และไม่ค่อยมีเวลาให้กับผมหรอก และคุณพ่อเองอาจจะไม่ได้รู้เรื่องลึกๆถึงสิ่งที่ผมชอบ หรือสิ่งที่ผมทำมากสักเท่าไหร่”

Advertisement

“ผมไม่อยากเป็นคนลืมบุญคุณคน ผมมีวันนี้ได้ เพราะคุณพ่อคุณแม่และตระกูลของผม” ป๊อกว่า

นอกจากนี้ เจ้าตัวยังเผยถึงการชื่นชอบรอยสัก ที่ทำให้คุณพ่อตกใจจนเกือบจะเป็นลม คุณแม่ปุ๊ก อาภัสรา หงสกุล เองก็ไม่ได้ปลื้มสักเท่าไหร่ ว่า

Advertisement

“แกะดำคนแรก คือผมเอง เบสของผมคือดนตรี และอีกอย่างคือศิลปะพอเริ่มอินกับดนตรีและศิลปินต่างชาติที่ชอบ ก็รู้สึกว่าเท่มีรอยสัก เริ่มอินขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มศึกษาเรื่องเพลง และเริ่มเรียนรู้เรื่องบีทด้วยกันกับเพื่อน เพื่อนก็มาแร็ป ผมทำบีท พอทำไปทำมาจนรู้สึกว่าสนุก เราก็อยากจะแร๊พเองบ้าง”

กับสิ่งต่างๆ ที่เขาได้มา ก็ยังถูกมองว่าได้มาเพราะความรวย ป๊อก เผยว่า “ผมไม่ได้ว่านะที่คนอื่นจะคิดจะมองผมเป็นยังไง เราไม่ได้เห็นกันและกันทั้งหมดไม่ผิดที่จะคิดในรูปแบบอื่นๆ แต่บางทีหลายๆ คนก็ไม่เคยเห็นหรือรู้หรอกว่าชีวิตจริงผมต้องเจออะไรบ้าง มีปัญหายังไงบ้าง แต่ละคน แต่ละเส้นทาง มันมีปัญหาหมด แต่ปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง”

“ผมกล้าพูดเลยว่า บางคนอาจจะอิจฉาที่จะได้อย่างโน้นอย่างนี้ แต่ถ้ามองกลับกัน ผมก็อิจฉาพวกคุณบ้างเหมือนกัน มันเทียบกันไม่ได้หรอก”

“ตอนนี้เหมือนว่าทั้งด้านในและด้านนอก ด้านในคือครอบครัว ด้านนอกก็คือคนนอกครอบครัว ฝันของผมจริงๆ ผมเคยเห็นหลายๆคนและรู้สึกว่าดีจังเลยเนอะ ที่เขาได้ทำในสิ่งที่เขาชอบ และเขาอยู่กับมันในชีวิตที่สบาย อย่างคนที่สักให้ผม เขาอยู่กับมันและมีความสุข เลี้ยงครอบครัวได้ ทำให้ผมรู้สึกว่าอยากมีชีวิตแบบนั้นบ้างจังเลยเนอะ”

การตามฝันของป๊อก ภัสสรกรณ์ คุณพ่อสุทธิเกียรติ ก็ได้เปิดใจว่า “ขอให้ความฝันที่ป๊อกคิดไว้ ขอให้เป็นจริงดั่งที่เขาหวังไว้ แต่อย่างน้อยที่สุดคุณพ่อก็หวังเหมือนกันว่า ป๊อกก็คงจะไม่ทิ้งคุณพ่อไป ก็เข้ามาช่วยงานของคุณพ่อด้วย อันนี้ไม่ได้หวังอย่างเดียวนะ ฝันด้วย หวังว่าความฝันของคุณพ่อจะเป็นจริงนะ เป็นจริงทั้งสองคน”

ป๊อก เผยต่อถึงความหวังของคุณพ่อที่จะให้เขามาสานต่องานครอบครัว “เราก็ไม่เคยนึกในมุมของเขาบ้างนะ ฟังแล้วก็สะอึกเหมือนกัน ผมรู้สึกดีมากนะที่ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้สนับสนุนมุมมองของผม ผลักดัน ส่งเสริม แต่อีกทางนึงผมก็ดีใจมาก ที่พ่อผมไม่เคยขวางเลย ไม่เคยขัดสิ่งที่ผมทำเลย ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็น ผมเห็นและขอบคุณมาตลอด”

“ผมยังเคยคิดเลยว่า ถ้าเราไม่มีกันแล้วผมจะอยู่ยังไง ผมเคยคิดนะ เพราะชีวิตนี้ผมอยู่กับเขามาตลอด จนไปเมืองนอก ผมมีวันนี้ได้เพราะเขาจริงๆ (ร้องไห้)”

ซึ่งสุดท้ายแล้ว คุณพ่อก็ออกปากภูมิใจในลูกชายคนที่ที่จากจุดเริ่มต้นที่กีตาร์หนึ่งตัว จนประสบความสำเร็จในวงการเพลงได้อย่างเช่นทุกวันนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image