‘ไมค์ พิรัชต์‘ ยื่นคำร้องให้ ‘น้องแม็กซ์เวลล์‘ เป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายขออำนาจในการปกครอง
เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (14 ก.ย.) ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักร้องนักแสดงหนุ่ม ไมค์ พิรัชต์นิธิไพศาลกุล ได้เดินทางมาในคดียื่นคำร้องขออำนาจปกครองบุตรร่วมกับ ซาร่า คาซิงกินี นางแบบสาว เพื่อขอให้ศาลพิพากษาให้เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยนักแสดงหนุ่มได้ร้องเพื่อจดทะเบียนรับรองบุตร ใช้อำนาจปกครอง
หลังจากมีการไต่สวนคำร้องแล้ว ไมค์ และ ทนายเจมส์ นิติธร ซึ่งเป็นทนายผู้รับมอบ อำนาจของไมค์ พร้อมด้วยนายสนิท ปัจจายา ทนายความเจ้าของคดี ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า
“คุณไมค์มายื่นคำร้องเพื่อรับรองบุตรให้เป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย จะได้มีอำนาจในการปกครองบุตร ซึ่งขึ้นตอนวันนี้มีการนัดไตร่สวนคำร้องแต่ว่าคุณซาร่าได้มีการยื่นคำร้องคัดค้านเข้ามา ก็จะมีการนัดไกล่เกลี่ยอีกครั้งนึง จะได้ทราบข้อเท็จจริงวันที่2 พ.ย. 63 ที่จะมีการนัดไกล่เกลี่ยที่ศาลอีกที วันนี้คุณซาร่าไม่ได้มา ส่งมาแต่ทนาย สิ่งที่มายื่นวันนี้คือขออำนาจรับรองบุตรร่วมปกครองน้องแม็กซ์เวลล์ร่วมกับคุณซาร่า เรื่องนี่ปกติทางฝั่งผู้หญิงจะเป็นคนเรียกแต่วันนี้เป็นทางคุณไมค์มายื่น”
“ตามข้อเท็จจริงคุณไมค์เป็นบิดาอยู่แล้ว ในใบสูติบัตรก็คือเป็นชื่อคุณไมค์เป็นบิดาอยู่แล้ว” ทนายสนิทว่า
ทางด้านของ ไมค์ พิรัชต์ เมื่อสอบถามว่าเครียดหรือไม่กับกรณีที่เกิดขึ้น เจ้าตัวก็ว่า
“เป็นธรรมดา ผมก็ปรึกษากับครอบครัวมาตลอดว่าทำยังไงดี จนถึงวันนี้ถึงวันที่ขึ้นศาลคิดว่าจะเคลียร์กันได้จบโดยเร็ว ซึ่งก็ยัง น่าจะต้องยื้อไปอีก“
โดย ที่ผ่านมาพยายามติดต่อซาร่ามาหลายเดือนแล้ว และก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้มาตั้งแต่ช่วงเดือน3-4 แต่ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆ ขอชี้แจงทีเดียวหลังการพิจารณาในชั้นศาลดีกว่า
“ตอนนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้ามากมาย ผมไม่ได้เจอลูกมาหลายเดือนแล้ว ก็คิดถึงเขา แต่ก็ต้องรอการพิจารณาจากชั้นศาลอีกที ใจจริงอยากที่จะให้เคลียร์กันง่ายๆ คุยง่ายๆ เอาลูกมาเป็นหลัก”
ในส่วนของทนายเจมส์ ก็ได้เผยว่า คดีนี้จะยากหรือจะง่ายอยู่ที่ว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถลดทิฐิลงได้ไหม
“น้องไมค์เขาจะพูดตลอดว่าขอให้เอาเรื่องส่วนตัวทิ้งไว้ก่อน แล้วเอาผลประโยชน์ของเด็กมาเป็นหลัก นี่คือสิ่งที่น้องไมค์พูดมาโดยตลอด อีกอย่างที่สังเกตได้ง่ายๆคือ ผู้ชายร้องขอเป็นพ่อโดยชอบด้วยกฎหมายไม่ค่อยจะเจอซักเท่าไหร่สาเหตุเพราพ่อโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วจะมีหน้าที่ในการต้องอุปการะเลี้ยงดูเด็ก”
“เขาเลยจะไม่ไปเป็นพ่อที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะถ้าไปเป็นพ่อที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว การที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูเด็กแล้วไม่จ่ายเงิน มันจะมีผลทางกฎหมายทันที แม่อาจจะยื่นร้องขอประสานเพื่อบังคับให้ไมค์รับผิดชอบจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตร ประเด็นของไมค์คือเขาอุปการะเลี้ยงดูบุตรโดยไม่ขาดตกบกพร่องเลย ก่อนที่จะมีปัญหา เพิ่งมีปัญหากันตอนต้นปี 2563”
“สิ่งที่ไมค์มายื่นวันนี้ ไมค์บอกผมมาตลอดว่าไม่อยากเป็นพ่อแค่การจ่ายเงิน อยากจะเลี้ยงดูลูกด้วย อยากจะมีส่วนในการตัดสินใจหลาย ๆ อย่าง เพราะที่ผ่านมาเขาไม่มีส่วนในการตัดสินใจเลย ฉะนั้นถ้าเกิดสมมติว่ามีใครฟังอยู่ แล้วเห็นใจเด็ก อยากจะให้อะไรก็แล้วแต่ ที่เป็นอดีต ให้เป็นอดีตไป เราจะคุยกันข้างหน้า ในการแก้ปัญหา อะไรที่สามารถทำได้เร็ว ให้ทำก่อน เพื่อประโยชน์ของเด็ก”
“พอเป็นพ่อที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว จะมีการตกลงกันว่าค่าอุปการะเลี้ยงดู ใครจะเป็นคนจ่าย ไมค์จ่ายทั้งหมด หรือจ่ายคนละครึ่ง เด็กจะเรียนที่ไหน อำนาจปกครองเป็นครองใคร เป็นคนเดียวหรือจะเป็นร่วมกัน ในส่วนของถิ่นที่อยู่ใครจะเป็นผู้กำหนด ใครจะเป็นคนออกค่าใช้จ่าย ต่างๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่ต้องมานั่งโต๊ะคุยกัน ว่าอะไรตรงไหน ยืดหยุ่นกัน เพื่อประโยชน์ของเด็กที่จะได้รับความอบอุ่นทั้งพ่อและแม่”
“ต้องเป็นการตัดสินใจร่วมกัน ผมเน้นย้ำมาตลอดตำแหน่งของพ่อแม่ลูกลาออกกันไม่ได้ เป็นแล้วเป็นยันตาย ตายแล้วยังต้องติดอยู่อย่างนี้ การที่ทำให้เด็กคนหนึ่งเกิดมาแล้ว เขาจะต้องรับผิดชอบร่วมกัน ไม่ใช่ทิ้งหน้าที่ให้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง”